30 ก.ย.61 นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต กล่าวถึงกรณีการเปิดตัวของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า ทำให้ตลาดการเมืองเริ่มคึกคักและมีสีสันมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญทำให้เริ่มเห็นภาพทางการเมืองในกระดาน เพราะพรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคการเมือง และเป็นกลุ่มการเมืองกลุ่มสุดท้ายที่สังคมจดจ่อติดตามที่สำคัญเป็นพรรคที่โยงกับรัฐบาล และ คสช.ด้วย
นายสุริสะใส กล่าวว่า ความได้เปรียบของพรรคพลังประชารัฐต้องยอมรับว่า มีมากกว่าพรรคอื่นๆ เพราะเป็นพรรคที่มีอำนาจรัฐในมือ แต่จุดแข็งตรงนี้อาจจะกลายเป็นจุดอ่อนได้เช่นกัน ถ้าบริหารจัดการไม่ดี แม้รัฐธรรมนูญ หรือกฎหมายที่เกี่ยวข้องจะไม่ได้บังคับให้ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองลาออกก็ตาม แต่สังคมจะตั้งคำถามถึงความชอบธรรม ฉะนั้นต้องจัดความสัมพันธ์ในการทำงานจากนี้ไปอย่างระมัดระวังที่สุดเพราะไม่เช่นนั้นอาจจะกระทบกับ ทั้งพรรคและรัฐบาลไปพร้อมๆ กันได้ ซึ่งแน่นอนจะเป็นเป้าโจมตีให้กับพรรคคู่แข่งทางการเมืองหรือสะดุดขาตัวเอง ซึ่งต้องระมัดระวังให้มาก
"ผมคิดว่า มีความเป็นไปได้เมื่อถึงจุดหนึ่ง เช่น เมื่อ กกต.รับรองความเป็นพรรคของพรรคพลังประชารัฐผู้ที่ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็อาจจะลาออกในตอนนั้นเพื่อมาทำพรรคเต็มตัว และหลีกเลี่ยงการถูกโจมตี และอาจจะมีการปรับ ครม.อีกครั้งก่อนเลือกตั้งก็เป็นไปได้" นายสุริยะใส กล่าว
และว่า จริงๆ แล้วพรรคพลังประชารัฐมีคนหน้าใหม่ทางการเมือง และคนรุ่นใหม่ที่น่าสนใจจำนวนมาก และเป็นกลุ่มคนที่ดูค่อนข้างมีความคิดมีพลังที่พรรคควรสนับสนุนให้บทบาท แต่น่าเสียดายที่ถูกบดบังไปจากประเด็นทางการเมืองที่ตกเป็นเป้าโจมตีฉะนั้นเมื่อถึงเวลาว่าที่กรรมการบริหารของพรรค ก็จะต้องพิจารณาบทบาทในส่วนนี้อย่างจริงจังเพราะในระยะยาว ไม่แน่ว่าจะเป็นเรื่องที่ทำให้ได้เปรียบทางการเมืองเสมอไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี