"บิ๊กบัว" ไม่หนักใจ "ชาญเทพ" ทำไว้ดี พิธีส่งมอบตำแหน่ง ผบช.น.คนที่ 49 "บิ๊กหยม" ขู่คนใหม่เขี้ยวกว่าอีกเท่า

1 ต.ค.61 เมื่อเวลา 09.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น รรท.ผบช.น. พร้อมด้วย รรท.รอง ผบช.น. เดินทางสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายใน บช.น. เนื่องในโอกาสดำรงตำแหน่ง ผบช.น.คนที่ 49 โดยมีการสักการะ ศาลเจ้าแม่ทับทิม (ริมรั้วด้านหลังพิพิธภัณฑ์ตำรวจ วังปารุสกวัน) ศาลเจ้าแม่เกษมณี และศาลพระภูมิเจ้าที่ (ที่ทำการศูนย์เยาวชนสัมพันธ์ บช.น.) และพระอนุสาวรีย์พระองค์เจ้ากฤษดาภินิหาร กรมพระนเรศวรฤทธิ์ (ด้านหน้าอาคาร บช.น.) 

จากนั้นเวลา 10.30 น. ที่ห้องประชุมใหญ่ บช.น. จัดพิธีรับ-ส่งมอบหน้าที่ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) โดยมี พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.น.ลงนามส่งมอบตำแหน่งให้กับ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงศปิ่น ผบช.สตม. โดยมีนายตำรวจระดับรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ผู้บังคับการตำรวจนครบาลทั้ง 9 บก.น. รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล และผู้กำกับทั้ง 88 สน. ในสังกัดกองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าร่วมในพิธีกว่า 236 นายโดยพร้อมเพรียง

พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าวว่า มีความยินดีที่ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ มาเป็นผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เนื่องจากค่อนชีวิตเติบโตอยู่ใน บช.น. เชื่อว่าแนวทางการทำงานของท่านไม่ใช่ตำรวจที่ไม่เคยผ่าน บช.น. และสามารถดำรงฝ่าฟันอุปสรรค์นำพวกเราไปสู่ความสำเร็จได้ ระยะเวลา 1 ปีที่ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ จะดำรงตำแหน่งเช่นเดียวกับตนที่มารับตำแหน่ง ผบช.น. ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2560 

เป็นวันสุดท้ายที่มีโอกาสได้พูดคุยกับ ผกก. รอง ผบก. ผบก. รอง ผบช.น. และ ผบช.น.คนใหม่ ยังมีความเป็นห่วงในการทำงานของตำรวจ บช.น. เนื่องจากสภาวะการเปลี่ยนแปลงของสังคม โลกรวดเร็วมากทางด้านเทคโนโลยี ตนเคยบอกเสมอโดยเฉพาะการสั่งการของผู้บังคับบัญชา ตนและ รอง ผบช.น.ชุดที่ผ่านมา พยายามเขี้ยวเข็ญให้พวกเราประชุมเพื่อเอาแนวทางการปฏิบัติให้ไปถึงรากหญ้าก็คือระดับผู้ปฏิบัติ

จริงแล้วยังไม่ถึงเท่าที่ควรสังเกตได้จาก 1 ปีที่ผ่านมา มีข้าราชการตำรวจชั้นผู้น้อยยังร่วมกระทำความผิดหลายอย่างจากหลายๆ คดี จึงต้องดำเนินคดีกับผู้ใต้บังคับบัญชาของเราเอง สร้างความเสียหายให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ฉะนั้นมาปีนี้เชื่อว่า พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ จะกำชับการปฏิบัติงานเขี้ยวกว่าตนอีกเท่าตัว ขอให้พวกเราเตรียมรองรับไว้ตนไม่ได้มาขู่คือเรื่องจริง เพราะเราเคยร่วมงานกันมาถึงรู้ จึงขอฝาก พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ ด้วยความเป็นห่วง 

"สิ่งใดที่ผมล่วงเกินพวกท่านไปไม่ว่ากาย วาจา ใจ ผมไม่มีมีเจตนาเป็นอื่น มีความรักแบบพี่ เพื่อน และน้อง สิ่งที่ทำไปก็เพื่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และพี่น้องประชาชนของเรา และในโอกาสนี้ตนขอมอบหน้าที่ ผบช.น. ให้กับ พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงศ์ปิ่น ณ บัดนี้" พล.ต.ท.ชาญเทพ กล่าว

ด้าน พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวว่า ตร. มีคำสั่งให้ตนมาดำรงตำแหน่ง รรท.ผบช.น. ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2561 เป็นต้นไป ต้องเรียนอย่างตรงไปตรงมาว่าขอขอบคุณ พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ซึ่งตนรู้จักเป็นอย่างดีและเป็นเวลานานพอสมควร เห็นในความตั้งอกตั้งใจมาโดยตลอด ตนมั่นใจว่ามารับตำแหน่ง รรท.ผบช.น.ในวันนี้คงไม่เหนื่อยมากนัก เนื่องจากสิ่งที่ พล.ต.ท.ชาญเทพ ทำไว้ตนรับทราบว่าท่านมีความตั้งใจ ให้ข้าราชการตำรวจสังกัด บช.น. เป็นอย่างดีแทบจะทุกหน้างาน 

จึงกล้าพูดว่าในวันนี้ตนเพียงมารักษาบางสิ่งบางอย่างที่ พล.ต.ท.ชาญเทพ ตั้งใจทำให้กับพี่น้องประชาชน หรือทำให้ประชาชนได้รับสิ่งที่ควรจะรับ เช่น การบริการจากข้าราชการตำรวจ และข้าราชการตำรวจก็คงมีวินัยดีอยู่แล้ว ไม่หนักใจที่มารับตำแหน่ง รรท.ผบช.น. ขอบอกพวกเราไม่ต้องเป็นกังวน อะไรที่ทำถูกต้องปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์สุขประชาชน 

"วันนี้ยังไม่ใช่วันมอบนโยบาย เพียงแต่เป็นสิ่งที่พูดความรู้สึกในใจ ที่ได้เคยเจอและย้อนกลับมาเจอพวกเราอีกครั้ง ก็รู้สึกดีใจที่มีโอกาสมาร่วมทำงานกับข้าราชการตำรวจสังกัด บช.น. คงเป็นอีกวาระต่อไปที่ตนจะมอบหมายหน้าที่การงานหรือชี้แจงภารกิจ" พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าว

พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ กล่าวต่อว่า ตนจะเริ่มต้นทำงานตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป มาตรการการทำงานนั้น พล.ต.ท.ชาญเทพ ผบช.น.คนเก่า ได้มีความตั้งใจทำงานอย่างหนักอยู่แล้ว ขณะที่ตนมาในวันนี้ก็จะคงสภาพ เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนได้รับความอบอุ่นจากตำรวจ โดยปกติชีวิตข้าราชการตำรวจในประเด็นแรกที่ต้องทำคือ การจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ สิ่งที่ 2 ชีวิตข้าราชการตำรวจเราต้องดูแลทุกสุขของประชาชน ตนพยายามตั้งใจทำให้ได้มากที่สุด 

คดีที่เน้นเป็นพิเศษนั้น อะไรที่สร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนหรือชาวบ้าน ยกตัวอย่างกรณีลักรถกระบะ เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่จะต้องติดตามกลับคืนมาให้ได้ ในวันนี้ตนจะมาสานต่อในสิ่งที่ ผบช.น.คยเก่ามีความตั้งใจ อาจจะดูในบางสิ่งบางอย่างในบางกรณีไม่หนักหนา ส่วนกรณีที่มีตำรวจไปเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด อย่างกรณีตำรวจไปรีดทรัพย์คดียาเสพติดนั้น ไม่ต้องกังวลถูกก็คือถูกผิดก็คือผิด จะสานต่องานอีกเรื่องหนึ่งเช่นเดียวกัน ตนมีหน้าที่มาดูแลขอให้ไม่ต้องกังวลทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำให้เต็มที่เท่าที่ทั้งตนและทีมงานจะทำได้เพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นแก่ประชาชน 

ส่วนมาตรการตั้งด่านหรืองานจราจรนั้น กรุงเทพมหานครมีความเจริญมากคนจะหลั่งไหลเข้ามา แต่สิ่งหนึ่งที่สำคัญที่สุดฐานะผู้รักษากฎหมาย กรณีที่มีการตั้งด่านการจราจรมีปัญหาติดขัดคงจะต้องศึกษา แต่ถ้าทำแล้วมีความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินก็จะมีการดำเนิน โดยช่วงเวลากลางคืนต้องมีอย่างแน่นอนเพื่อดูแลความปลอดภัยให้พี่น้องประชาชน แต่กลางวันของหารือกับทีมงานอีกครั้ง