กรณีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ประกาศจะส่งผู้สมัครส.ส.ครบทุกเขต โดยตั้งเป้าได้ สส.อย่างน้อย 50 ที่นั่ง และมั่นใจได้ร่วมรัฐบาลนั้น
8 ต.ค.61 นายไทกร พลสุวรรณ อดีตแกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ กล่าวผ่านเฟสบุ๊กแสดงความเห็นเรื่องนี้ว่า เป้าหมายที่ไปไม่ถึง..!! ก่อนอื่นต้องขอให้กำลังใจท่านสุเทพ เทือกสุบรรณ(ลุงกำนัน)ที่เคารพรักของผม ที่ทุ่มเทกับพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) เต็มกำลังความสามารถของท่าน
ท่านได้ประกาศให้สาธารณชนทราบถึงเป้าหมายทางการเมืองของพรรค รปช.นั่นคือ (1)ได้ ส.ส. 50 ที่นั่ง โดยได้คะแนน 3.5 ล้านคะแนน ซึ่งน่าจะเป็น ส.ส. ในระบบบัญชีรายชื่อทั้งหมด (2)ได้เข้าร่วมรัฐบาลแน่นอน (คาดหมายว่านายกรัฐมนตรีคือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) และพรรค รปช.ขอดูแลสองกระทรวงสำคัญ คือ กระทรวงศึกษาฯ และ กระทรวงเกษตรฯ
ต้องมาวิเคราะห์ดูว่า เป้าหมายทั้งสองของท่านและพรรค รปช. จะสำเร็จหรือไม่..?
(1)การได้คะแนนเสียงถึง 3.5 ล้านคะแนนนั้น เป็นเรื่องยากมากๆ ถึงยากที่สุด เพราะหากพรรค รปช. ส่งผู้สมัคร ส.ส. ครบทั้ง 350 เขต ผู้สมัคร ส.ส. ของพรรค รปช. จะต้องได้คะแนนโดยเฉลี่ยเขตละ 10,000 คะแนน แต่เมื่อดูจากสถิติและรูปแบบการลงคะแนนของประชาชนในเขตเลือกตั้งต่างๆจะคล้ายๆกัน เป็นไปในทิศทางเดียวกันนั่นคือ
(1.1)ผู้สมัครที่ชนะการเลือกตั้ง จะได้คะแนนประมาณ 50,000 คะแนนขึ้นไป นอกเสียจากเขตที่มีการแข่งขันกันอย่างดุเดือดสูสี ผู้สมัครมีศักยภาพใกล้เคียงกัน คะแนนของผู้ชนะอันดับหนึ่งกับผู้ได้อันดับสองจะห่างกันไม่เกิน 10,000 คะแนน
(1.2)ผู้สมัครที่ได้คะแนนอันดับสองจะได้คะแนนต่ำกว่า 20,000 คะแนน ส่วนมากจะได้คะแนนหมื่นเศษๆ
(1.3)ผู้สมัครที่ได้คะแนนอันดับสามเกือบทุกเขตเลือกตั้งจะได้คะแนนต่ำกว่าหนึ่งหมื่นคะแนน ส่วนใหญ่จะได้ไม่กี่พันคะแนน
(1.4)ผู้สมัครที่ได้คะแนนอันดับสี่,ห้า,หก..ส่วนใหญ่จะได้คะแนนไม่กี่ร้อยคะแนน เก่งสุดก็ได้ไม่เกินสองพันคะแนน
ถ้าดูจากรูปแบบการลงคะแนนเลือกผู้สมัครส.ส. ของประชาชนในเขตต่างๆตามลักษณะการเลือกข้างต้น หากพรรค รปช. จะได้คะแนน 3.5 ล้านคะแนน ผู้สมัครของพรรค รปช. จะต้องได้รับเลือกตั้งในอันดับสองหรืออันดับสาม ทุกเขตเลือกตั้ง ก็ไม่รู้ว่าผู้สมัครของพรรค รปช. จะเบียดผู้สมัครของพรรคการเมืองอย่าง พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย หรือพรรคพลังประชารัฐ เข้าไปยืนแป้นในอันดับสองหรืออันดับสามได้อย่างไร..?
(2)การได้เข้าร่วมรัฐบาลของพรรค รปช. โดยมีนายกรัฐมนตรีชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นั่น มีโอกาสมากน้อยแค่ไหน..?
ผลการเลือกตั้งจะเป็นตัวให้คำตอบว่าพรรค รปช. จะได้ร่วมรัฐบาลหรือไม่ เพราะหากพรรคในเครือข่ายของ ดร.ทักษิณ เช่น พรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อธรรม พรรคเพื่อชาติ พรรคอนาคตใหม่ พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติได้ ส.ส. รวมกันเกิน 251 ที่นั่ง พล.อ.ประยุทธ์ จะกล้ามารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของรัฐบาลเสียงข้างน้อยหรือไม่..? และยิ่งหากพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อธรรม พรรคอนาคตใหม่ เพียงสามพรรคได้ส.ส.รวมกันเกิน251ที่นั่ง ก็ปิดประตูตายได้เลยที่รัฐบาลเสียงข้างน้อยของพล.อ.ประยุทธ์ จะสามารถดึงพรรคเหล่านี้ไปร่วมรัฐบาลเสียงข้างน้อยของท่านได้
ดังนั้นโอกาสการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรค รปช. ก็ยังไม่แน่นอน มีความเป็นไปได้เพียง 30-40% เท่านั้น แต่ถ้าหากนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าพรรคการเมืองอื่นๆ ที่ไม่ใช่ พล.อ.ประยุทธ์ โอกาสการเข้าร่วมรัฐบาลของพรรค รปช. ตามความหวังของท่านสุเทพถึงจะมีความแน่นอนมากขึ้น
มาถึงตรงนี้ก็ขอให้กำลังใจท่านสุเทพอีกครั้ง ขอให้ท่านประสพความสำเร็จตามที่ท่านมุ่งหวังไว้
"สู้เข้าไปอย่าได้ถอย..มวลชนคอยเอาใจช่วยอยู่.."คือบทเพลงส่งกำลังใจไปถึงท่าน...
ด้วยความเคารพรักและปรารถนาดี
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี