“สุเทพ” แจง รปช. ขอวันละบาท เป็นค่าบำรุงพรรค 365 บาท ต่อปี ไม่ใช่ขอบริจาค ต่างจาก “อนาคตใหม่” ยัน กกต. ไม่ได้เข้าข้าง เพราะไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ลั่น ทำพรรคของ ปชช. ไม่เป็นลูกน้องใคร ไม่ได้เป็นพวก “บิ๊กตู่” ร่วมตั้งรัฐบาลกับใครอยู่ภายใต้เงื่อนไขปฏิรูปตามแนวทางประชาชน
11 ต.ค. 61 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย หรือ รปช. ชี้แจงกรณีที่มีการนำเรื่องที่พรรครวมพลังประชาชาติไทยขอให้สมาชิกพรรคจ่ายค่าบำรุงพรรควันละ 1 บาท 1 ปี 365 บาท ไปเทียบเคียงกับการรับบริจาคของพรรคอนาคตใหม่ว่า เป็นการบิดเบือนความจริง เพราะไม่สามารถเทียบเคียงกันได้ เนื่องจากพรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้แจ้งสมาชิชัดเจนว่า ให้มาร่วมเป็นเจ้าของพรรคด้วยการจ่ายค่าบำรุงพรรควันละ 1 บาท ปีละ 365 บาท ซึ่งจะแพงกว่าพรรคการเมืองอื่นที่เก็บ 50 บาท เพราะเราไม่ต้องการพึ่งพาเงินจากแหล่งอื่นจะได้ไม่ต้องติดหนี้บุญคุณใคร เป็นคนละเรื่องกับการขอรับบริจาคของพรรคอนาคตใหม่ เพราะพรรครวมพลังประชาชาติไทยไม่ได้รับบริจาคเงินจากใครเลย
“เงินที่มีในบัญชีคือ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคลงขันคนละ 5 หมื่นบาท มีประมาณ 611 คน และสมาชิกจ่ายค่าบำรุง 365 บาทเท่านั้น เป็นค่าบำรุงพรรคที่ถูกต้องตามกฎหมาย แม้ว่า จะเก็บจำนวนมากกว่าพรรคอื่นก็ไม่ใช่การระดมทุน เพราะพรรคมีสิทธิออกข้อบังคับพรรคว่าสมาชิกจะต้องเสียค่าบำรุงปีละเท่าไหร่ แต่กฎหมายกำหนดขั้นต่ำไว้ที่ 100 บาท ก่อนที่จะมีคำสั่งหัวหน้าคสช.ที่ 13/2561 มาผ่อนผันให้เสีย 50 บาทในครั้งนี้ จึงขอยืนยันว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ไม่มีเรื่องที่ กกต. จะมาเข้าข้างพรรคเหมือนที่มีการกล่าวหา ยืนยันว่า พรรครวมพลังประชาชาติไทย ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับขั้วอำนาจของ คสช. จึงอย่าเหมารวมว่า เราจะเป็นพวกเดียวกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือพวกใคร เพราะเราจะยึดแนวทางการปฏิรูปประเทศตามแนวทางของประชาชน หากยอมรับเงื่อนไขของเราก็ยินดีจะเป็นใครก็ได้ แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขนี้ เนื่องจากเราไม่ได้อยู่พรรคพลังประชารัฐ ไม่ได้เป็นลูกน้องใคร เราเป็นพรรคของประชาชนต้องถามประชาชนว่า จะเอาใครและจะทำอย่างไร” นายสุเทพ กล่าว
ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ยังกล่าวถึงกรณีที่มีการร้องเรียนไปยัง กกต.เกี่ยวกับการลงพื้นที่ของตัวเองว่าเข้าข่ายการหาเสียงว่า การลงพื้นที่ที่ผ่านมาไม่ได้เป็นการหาเสียงแต่ไปในฐานะประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย เพื่อพูดคุยกับประชาชนในเรื่องการปฏิรูปประเทศ และบอกกับประชาชนว่าการปฏิรูปยากทีจะสำเร็จเพราะมีคนต่อต้านไม่อยากเปลี่ยนแปลง หากหวังพรรคการเมือง นักการเมือง ก็จะเห็นว่าบางพรรคประกาศแล้วว่าถ้ามีการเลือกตั้งจะฉีกรัฐธรรมนูญ เรื่องการปฏิรูปประเทศที่เขียนไว้ในรัฐธรรมนูญจะถูกยกเลิกไปด้วย
20 ก.พ.62 ที่สยามสแควร์ นายธนาธร จึงรุ่งเรื่องกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ฐานเสียงของพรรคอนาคตใหม่ คงเป็นที่ประจักษ์แล้วว่า คนรุ่นใหม่สนใจพรรคอนาคตใหม่
20 ก.พ.62 ที่สยามสแควร์ นายธนาธร จึงรุ่งเรื่องกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีที่ กองบังคับการปราบการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) มีควา
20 ก.พ.62 ที่สยามสแควร์ นายธนาธร จึงรุ่งเรื่องกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณี การวิพากษ์เกี่ยวกับรอยยิ้มของคนไทย เป็นเพราะไม่มีจุดยืน รวมถึง
20 ก.พ.62 นายจตุพร พรหมพันธุ์ ผู้สนับสนุนพรรคเพื่อชาติ และประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) พร้อมแกนนำพรรคลงพื้นที่หาเสียงจังหวัดนนทบุรี
"สุเทพ"เดินแม่ฮ่องสอน บอกชาวบ้าน"รปช."เอาคนทำงานพื้นที่มาอาสารับใช้ แนะอย่าเลือกคนที่มาเฉพาะเวลาหาเสียง มั่นใจ!ปาฏิหาริย์ปชช.เปลี่ยนแปลงป
20 ก.พ. 62 ที่พระธาตุดอยกองมู จ.แม่ฮ่องสอน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย ในฐานะประธานคณะทำงานรณรงค์เชิญชวนประชาชนร่วมสมัครเป็นส
20 ก.พ.62 โลกออนไลน์มีการแชร์บทความ "สกลนคร : อีสาน คือ ดินแดนแห่งนักประชาธิปไตย นักต่อสู้ความอยุติธรรม ขจัดความเหลื่อมล้ำในประเทศนี้" ซึ่ง รศ.ดร.ป
20 ก.พ.62 ที่พรรคอนาคตใหม่ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวถึงกรณีกระแสโจมตี นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรค ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี