“ลุงกำนัน”เดินสายพบปะแนวร่วมกปปส.ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ มีอดีตแกนนำ และอดีตนักการเมืองในพื้นที่ให้การต้อนรับ อบอุ่น เผยรอเพียงกกต.รับรองพรรค ก็จะเปิดตัวผู้สมัครในพื้นที่ตั้งเป้าส.ส.50ที่นั่ง ยอมรับหวั่นระบอบทักษิณคืนชีพ
เมื่อเวลา 11.30 น. วันที่ 11 ต.ค.61 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย และผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) ได้เดินทางมาพบปะกับแนวร่วมกปปส.ในพื้นที่หวัดกระบี่ โดยมีการจัดโต๊ะจีนเลี้ยงอาหารเที่ยง จำนวน 37 โต๊ะ ที่โรงแรมบุญสยาม อ.เมือง จ.กระบี่
ทั้งนี้มีอดีตนักการเมืองประดับชาติ และนักการเมืองท้องถิ่น อาทิ นายสาคร เกี่ยวข้อง อดีต สส.กระบี่ พรรคประชาธิปัตย์ นายป้อมเพชร สุคนธกนิฐ อดีตแกนนำ กปปส.จ.กระบี่ นายชวน ภูเก้าล้วน ประธานสภาการศึกษาจ.กระบี่ นักการเมืองท้องถิ่น และประชาชนในพื้นที่ จ.กระบี่ ประมาณ 200 คน เข้าร่วมให้การต้อนรับ บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก
นายสุเทพฯ ได้กล่าวปราศรัยทักทายอดีตแกนนำ กปปส.และประชาชนที่ร่วมกันต่อสู้กันมา ในช่วงขับไล่รัฐบาลอดีตนายกฯยิ่งลักษ์ ชินวัตร เมื่อปี 2556-57 ก่อนที่จะแยกย้ายกันกลับสู่ภูมิลำเนากลับมาปฏิบัติภารกิจของแต่ละคน บางคนมีคดีความติดตัว พร้อมเชิญชวนให้ร่วมสนับสนุนพรรครปช. ซึ่งเป็นพรรคที่เกิดขึ้นจากความต้องการของประชาชนในการปฏิรูป
นายสุเทพ ยังกล่าวว่า การลงพื้นที่จ.กระบี่ครั้งนี้ ในฐานะประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนฯ และผู้ร่วมก่อตั้งพรรครปช.เพื่อมาพบปะพี่น้องประชาชนประชาชนในพื้นที่ เพื่อพูดคุยเรื่องการปฏิรูปประเทศหลังการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น ที่ผ่านมาประชาชนเรียกร้องให้มีการปฏิรูปประเทศใน 5 ประเด็นสำคัญ ประกอบด้วย การปฏิรูปการเมือง ประชาชนต้องการเห็นการเมืองเพื่อประชาชนคนไทย และต้องบริสุทธิ์ยุติธรรม ไม่มีการใช้อำนาจเพื่อประโยชน์ของใครคนใดคนหนึ่ง
“เป็นที่น่ายินดีว่าการปฏิรูปการเมืองได้เดินไปในระดับหนึ่งแล้ว เรื่องที่สอง เรื่องการปราบปรามการคอรัปชั่น สามการกระจายอำนาจการปกครองให้ท้องถิ่น สี่การปฏิรูปการศึกษา เพื่อแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำในสังคม และห้า ปฏิรูปกระบวนการยุติธรรม ซึ่งคสช.ดำเนินการไปแล้วในบางเรื่อง แต่ยังมีประเด็นต่อเนื่องที่ต้องทำ” นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า หากไม่มีการขับเคลื่อนจากภาคประชาชน การปฏิรูปต่างๆ ก็จะไม่สำเร็จ ตนจึงต้องลงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนว่าให้เตรียมความพร้อม เมื่อถึงเวลาต้องรวมพลังกัน เพื่อผลักดันให้เกิดการปฏิรูปเป็นผลสำเร็จ โดยหลังจากนี้ตนจะลงพื้นที่ทุกจังหวัด ส่วนเรื่องของพรรครปช.นั้น ตอนนี้รอเพียงกระบวนการรับรองจากกกต.เพื่อให้เป็นพรรคที่สมบูรณ์ตามกฎหมาย หลังจากนั้นตนก็จะร่วมกับประชาชน ออกเคลื่อนไหวในทางการเมืองอย่างเต็มที่ และจะมีการสรรหาว่าที่ผู้สมัครที่ประชาชนเป็นผู้เลือกต่อไปโดยทางพรรคจะไม่มีการใช้วิธีการทาบทามตัวผู้สมัครแต่อย่างใด
ส่วนนโยบายของพรรค รปช.นั้น และขอยืนยันว่า จะไม่เป็นกรรมการบริหารพรรคจะไม่มีตำแหน่งใดๆในพรรค แต่จะเป็นเพียงผู้ร่วมจัดตั้ง นอกจากนี้ตนยืนยันว่าจะไม่ลงสมัครรับเลือกตั้งทั้งระบบเขต และระบบบัญชีรายชื่อ แม้ว่าพรรคจะได้มีโอกาสร่วมรัฐบาล ตนก็จะไม่รับตำแหน่งใดๆในคณะรัฐบาล การออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองครั้งนี้ ตนทำเพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศไทย
“ผมยังมีความมั่นใจว่าพรรครปช.จะมีสมาชิกเข้าสภาฯ ได้ไม่น้อยกว่า 50 คน และที่สำคัญระหว่างที่ผมเดินทางไปพบประชาชนตามจังหวัดต่างๆ ก็มีประชาชน ถามเรื่องปัญหาสินค้าการเกษตรจำนวนมาก ซึ่งเรื่องนี้ทางพรรคก็ได้ให้ความสำคัญ และได้มีนโยบายแนวทางแก้ปัญหาไว้แต่ ตอนนี้ยังไม่ขอเปิดเผย “ นายสุเทพ กล่าว
นอกจากนี้นายสุเทพยังได้ ยอมรับว่า ยังมีความกังวลถึงระบอบทักษิณที่อาจจะกลับมามีอำนาจอีกครั้งตนและประชาชน ไม่ต้องการเห็นระบอบทักษิณกลับมามีอำนาจเหนือการเมืองในประเทศไทยอีกต่อไป เพราะประสบการณ์ที่ผ่านมา ระบอบทักษิณ ทำร้ายประเทศไทยไว้มาก ประชาชนจึงต้องตื่นตัวตลอดเวลา
ส่วนกรณีการเลือกหน.พรรค ปชป. ที่หลายคนออกมาบอกว่าตน หนุนหลัง นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม นั้น นายสุเทพ กล่าวว่า ตนอยากบอกว่าตนลาออกจากพรรค ปชป.และลาออกจากการเป็นส.ส.มาตั้งแต่ปี 2556 ตนเป็นคนมีมารยาท จะไม่ไปแทรกแซงเรื่องภายในของพรรค แต่ยอมรับว่ามีความสัมพันธ์ส่วนตัวกับหลายคนในพรรค ที่เคยออกมาต่อสู้ร่วมกันในนาม กปปส. ซึ่งก็มี นพ.วรงค์ เป็นกำลังสำคัญของ กปปส. ขึ้นเวทีเปิดโปงเรื่องรับจำนำข้าวของรัฐบาลในขณะนั้น ซึ่งประชาชนหลายคนชื่นชอบ
“ผมเองก็ชื่นชอบในการทำหน้าที่ของนพ.วรงค์ ที่ต่อสู้เพื่อผลประโยชน์ประเทศ หลังจากนั้นก็ไปบวชด้วยกันกับตนที่วัดสวนโมกข์ ถือเป็นการรู้จักกันส่วนตัว วันนี้ นพ.วรงค์ ลงสมัคร หน.พรรค ผมเองก็ไม่สามารถลงคะแนนให้ได้ แม้จะเป็นเพื่อน เพราะไม่ได้เป็นสมาชิกพรรคไปแล้ว” นายสุเทพ กล่าว
โต๊ะจีน “พปชร.”วุ่นไม่เลิก นายทะเบียนพรรคการเมือง ร่อนหนังสือถึง “อุตตม” สั่งชี้แจง-ส่งหลักฐานเพิ่มใน15วัน โดยเฉพาะปมเงิน532ล้านที่ยังเก็บไม่ได้ เหตุถือเป็นรายได้จากระดมทุน ลงเป็นเงินบริจาคไม่ได้
19 ม.ค. 62 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการวมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยแถลงการณ์สมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เรื่อง ขอเรียกร้องให้ กกต.ไต่สวนทำความจริงให
พปชร.ส่งเอกสารแจงที่มา“โต๊ะจีน”ต่อ กกต. 2 แผ่น ระบุผู้แสดงเจตนาสนับสนุนกิจกรรมพรรค 151 ราย ไม่สามารถส่งมอบเงินให้แก่พรรคในวันระดมทุนได้ ทำยอดหด 532 ล้านบาท เหลือแค่ 90 ล้านบาท
เรืองไกรจี้กกต.สอบปมโต๊ะจีน‘พปชร.-รปช.’ ชี้ครบ30วันยังไม่เผยบัญชี
2 ม.ค. 62 นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้โพสต์เฟซบุ๊กเปิดเผยว่า ตามที่สมาคมฯได้ยื่นร้องเรียนต่อ กกต.ให้ตรวจสอบกรณีพรรคพลังปร
‘ไทกร’ปูด พปชร.ช๊อต! เมาหมัด‘โต๊ะจีน-แจกบัตรคนจน’ส่อเลื่อนเลือกตั้ง
กกต.ฮึ่ม! จดบัญชีหนังหมาปม‘โต๊ะจีน-แจกบัตร-ข้าว-เงิน’ ใครทำผิดไล่ถอนสิทธิ์
“จรุงวิทย์”เผย ที่ประชุมกกต. สั่งเร่งสอบคลิปแจกบัตรคนจนจูงใจสมัครสมาชิก พปชร.-โต๊ะจีนระดมทุน คาดรู้ผล 30-60 วัน แนะสำนักงานติดตามตั้งแต่ต้น หวั่นช้าจะถูกหยิบประเด็นทางการเมือง ปัดตอบคุณสมบัติหน.พรรค “อุตตม” อ้างยังไม่เห็นเรื่อง
เงื่อนไขการแสดงความคิดเห็น ซ่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี