11 ต.ค.61 โลกออนไลน์แชร์คลิปที่ นายพงศา ชูแนม ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคกรีน ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว “พงศา ชูแนม” ตอบโต้กรณีสถานีโทรทัศน์วอยซ์ ทีวี (Voice TV) ระบุว่าพรรคกรีนเป็น 1 ในพรรคที่คาดว่าจะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้กลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้งหลังการเลือกตั้งในเดือน ก.พ. 2562 พร้อมกับชวนคนไทยก้าวข้ามความขัดแย้งแบ่งพรรคแบ่งขั้ว รวมถึงเสนอแนวคิดเศรษฐกิจที่ปลดแอกประชาชนจากการครอบงำของผู้มีอำนาจรัฐบวกนายทุน โดยกล่าวว่า
“พรรคกรีนเป็นพรรคที่เกิดขึ้นมาเองอย่างสากล ไฉนวอยซ์ทีวีถึงยัดเยียดความเป็นสมุนเผด็จการให้กับเรา ท่านผู้ชมครับ ผมไม่เคยวุ่นวายกับทีวีสื่อช่องใหญ่ๆ ทั้งหลาย เพราะทุกสื่อเขาไม่สนใจพรรคเล็ก เขาสนใจแต่เรื่องหวย เรื่องหมา เรื่องดาราอกหักทั้งหลาย เราก็เลยตั้งทีวีมือถือขึ้นมา เพื่อจะเสนอเรื่องราวข่าวสารต่อประชาชน วันนี้ผมจึงอยากจะยกประเด็นนี้ขึ้นมาพูดว่าทำไมวอยซ์ทีวีถึงยัดเยียดให้เราเป็นสมุนเผด็จการ”
พงศา ชูแนม
“อย่างนี้ครับ..วอยซ์ทีวีได้แบ่งการเมืองเป็น 2 ขั้ว ฝ่ายหนึ่งเป็นฝ่ายที่สนับสนุนพรรคเพื่อไทย อีกฝ่ายหนึ่งสนับสนุนเผด็จการ แล้วจัดพรรคต่างๆ ว่าอยู่ฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด แล้วยัดเยียดให้พรรคกรีนเป็นสมุนของ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นฝ่ายที่จะเสนอ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ก็มีหลายพรรค ทั้งพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาชนปฏิรูป พรรคกรีน และรวมถึงพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคภูมิใจไทย ขณะที่อีกฝ่ายมีพรรคเพื่อไทย พรรคเพื่อชาติ พรรคเพื่อธรรม แต่ที่สังเกตคือไม่มีพรรคอนาคตใหม่”
“มันบอกอะไรรู้ไหมครับ? อันแรกที่คุณแบ่งเป็น 2 ขั้ว คุณกำลังเดินก้าวไปสู่ความขัดแย้ง สร้างความแตกแยกให้กับสังคมไทยเหมือนที่ผ่านมา เราจะติดกับดักความขัดแย้งอย่างนี้กันอยู่อีกสักกี่ปี ซึ่งสื่อทั้งหลายทำให้มันเกิดความแตกแยกขัดแย้ง นี่เรื่องใหญ่มาก การที่แบ่งการเมืองเป็น 2 ขั้วแบบนี้มันไม่เคยทำสิ่งดีงามให้กับประเทศนี้ แต่คุณกำลังทำ ที่สำคัญคือมายัดเยียดพรรคกรีนให้เป็นสมุนเผด็จการ ผมยืนยันว่าไม่เป็นเด็ดขาด”
“แล้วผมตั้งคำถามว่าคนที่ยัดเยียดให้ใครเป็นสมุนใคร ต้องถามในส่วนลึกของคุณว่าคุณมีความคิดที่เป็นทาส ความคิดที่เป็นสมุนอยู่ในส่วนลึกของคุณ คุณจึงตัดสินคนอื่นว่าเป็นแบบนั้น นี่เป็นเรื่องที่ต้องขบคิดกัน ผมอยากเรียนกับท่านผู้ชมว่าพรรคกรีนเกิดด้วยตัวเอง เป็นดาวฤกษ์มีแสงสว่างในตัวเอง สามารถส่องประกายไปทุกทิศทางโดยไม่ปิดกั้นไม่หวงอะไร เราจึงเห็นนโยบายพรรคกรีนมีพรรคอื่นหยิบไปใช้ เช่น พรรคเกียน (พรรคของ “บก.ลายจุด” สมบัติ บุญงามอนงค์) ก็หยิบไปใช้เรื่องต้นไม้เรื่องที่ดิน แม้แต่รัฐบาลนี้ก็หยิบไปใช้เรื่องต้นไม้เรื่องที่ดิน”
“เราก็คิดว่าการคิดสิ่งดีๆ เป็นปัญญาให้กับสังคมเป็นเรื่องที่ถูกต้องและควรจะทำ พระพุทธเจ้าบอกว่าการให้ที่ดีที่สุดคือการให้ปัญญา เราได้ทำสิ่งนั้น แต่วันนี้วอยซ์ทีวีมายัดเยียดความเป็นสมุนเผด็จการให้กับเรา เราขอยืนยันว่าเราไม่ใช่ เราเกิดด้วยตัวเอง พรรคกรีนเกิดจากคนสามัญธรรมดาทั่วประเทศ ส่งใบสมัครผู้ก่อตั้งพรรค จ่ายเงินคนละพันมาทั่วทั้งประเทศนี้ อย่างที่คิดว่าพรรคอื่นคงไม่ได้ทำแบบเรา”
“ผมอยากจะต่อให้ชัดว่าพรรคกรีนมีความมุ่งมั่นตั้งใจจะเดินก้าวข้ามความขัดแย้ง ไม่ทำให้ประเทศนี้แบ่งขั้วอีกต่อไป เราจะก้าวข้ามความขัดแย้งแล้วมาฟื้นฟูประเทศด้วยเศรษฐกิจสีเขียว มั่นใจว่านโยบายที่พรรคกรีนก่อขึ้นมาตรงกับปัญหาของประเทศไทย แล้วนโยบายทั้งหลายคิดเองไม่ได้ลอกใคร แต่ยอมให้ใครลอก นโยบายแรกๆ คือนโยบายต้นไม้เป็นทรัพย์สิน เป็นนโยบายที่ไม่เคยมีในโลก นี่เป็นนโยบายที่เกิดมาจากสมองพรรคกรีน”
“นโยบายในเรื่องการทำที่ดินทุกตารางนิ้วให้ชอบด้วยกฎหมาย เพื่อจะปกป้องคนที่ด้อยสิทธิ์ 17 ล้านคน นี่ก็เป็นนโยบายที่ทั้งประเทศนี้ไม่เคยคิด คิดแต่จะควบคุมบังคับประชาชนอยู่เสมอ ที่สำคัญคือพรรคกรีนจะนำเสนอการเปลี่ยนแปลงรูปแบบของการพัฒนาประเทศ จากการที่เราลงทุนไปพัฒนาจากในเมือง ซึ่งผมยืนยันว่าเมืองคือหลุมดำของโลกมนุษย์ ดูดกลืนทุกสิ่งทุกอย่าง ดูดทรัพยากร พลังงาน แรงงาน แล้วหายไปในเมืองนั้น ซึ่งทั้งโลกมีบทพิสูจน์แล้วว่าการเป็นเมืองใหญ่ๆ เป็นการทำร้ายทำลายสังคมมนุษย์”
“พรรคกรีนกล้าเปลี่ยนวิธีคิดว่าเริ่มพัฒนาจากชนบท ถามว่าทำไม? ท่านเชื่อไหมว่าทุกคราวที่เศรษฐกิจดีเกิดมาจากคนชนบทมีรายได้ มีเงินจับจ่ายใช้สอย แล้วก็จะส่งผลกระเทือนไปสู่เศรษฐกิจในเมือง ทุกครั้งเป็นแบบนั้น ตอนที่ยาง ข้าวโพด ข้าวราคาดี เชื่อไหมว่าทำให้เกษตรกรคนชนบทมีปัญญาจับจ่ายใช้สอย แล้วก็จะทำให้คนในเมืองได้รับการพัฒนาตามเศรษฐกิจขึ้น แต่วันนี้เราเอาเม็ดเงินเกือบทั้งหมดของประเทศไปยัดใส่ในเมือง ไปยัดใส่ระบบราชการที่ฉ้อที่โกงประเทศนี้ ปีแล้วปีเล่าครั้งแล้วครั้งเล่า แล้วประเทศเราก็เป็นอย่างนี้”
“นี่คือแนวคิดของพรรคกรีนที่เราจะทำใหม่ ปรับแนวคิดเดิมจากที่เอาเงินไปพัฒนาจากในเมือง เหมือนกับทฤษฎีน้ำล้นแก้วบนลงมาแก้วล่าง เราไม่ทำอย่างนั้น เราจะพัฒนาจากชนบทไปก่อน นี่เป็นแนวคิดที่ใหม่มากๆ ที่สำคัญอีกอย่างคือเราคิดเรื่องราคาพืชผลทางการเกษตร วันนี้คนจำนวนมากไปปิดถนน ไปล้อมทำเนียบ ไปทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อให้ได้ราคาผลผลิตที่สูงมา ครั้งแล้วครั้งเล่ามันไม่เคยเป็นจริง แล้วมันไม่เคยขึ้นจริงๆ แล้วทุกคนก็ถูกทำเป็นเหยื่อ เราได้คิดระบบใหม่ที่เป็นสากล เรียกว่าสร้างสมการราคา”
“อยากจะเรียนกับพี่น้องเกษตรกร กับประชาชนว่านี่เป็นเรื่องใหม่ของพรรคกรีน ผมไปที่ญี่ปุ่น ให้เห็นภาพชัดมากเลยว่าข้าวสารที่ญี่ปุ่นกิโลละ 248 บาท ข้าวสาร (จริงๆ ตรงนี้หมายถึงข้าวเปลือก) กิโลละ 80 - 100 บาท เขาสร้างสมการว่าราคาข้าวสารคือ 2.5 เท่าของข้าวเปลือก อย่างนี้ก็จะจบ ราคาข้าวสารถูกราคาข้าวเปลือกก็จะถูกลง เมื่อวันไหนที่ราคาข้าวสารสูงขึ้นราคาข้าวเปลือกก็ต้องสูงขึ้นตาม เป็นทฤษฎีง่ายๆ”
“ปาล์มน้ำมันก็เช่นกัน เราปิดถนนมากี่ครั้ง ฟ้องร้องกันเท่าไหร่ ไม่มีทางเป็นจริง เพราะทั้งระบบมันมีอามิส ระบบมันถูกทำให้ผิดเพี้ยนด้วยการรับผลประโยชน์แม้แต่ภาคประชาชนเข้าไปก็ตาม เรามีวิธีง่ายๆ คือสร้างสมการ ทั่วโลกเขาใช้กัน มาเลเซียก็ใช้ ทำให้ราคายุติธรรม เราคิดและจินตนาการว่ามันเป็นสิ่งที่เป็นไปได้ คือให้สินค้าที่ผลิตจากปาล์มน้ำมัน ง่ายที่สุดก็คือน้ำมันพืชอยู่ในขวดตั้งอยู่ในห้างสรรพสินค้า ต้องมีคิวอาร์โค้ด (QR Code) ระบุที่มาที่ไป”
“หมายถึงจากนี้ไปประชาชนสามารถเอาโทรศัพท์แล้วเปิดแอพพลิเคชั่นคิวอาร์โค้ด เอาไปส่องคิวอาร์โค้ดที่ขวดน้ำมันปาล์ม ก็สามารถรู้ได้เลยว่าราคาปาล์มสด ณ วันนี้ราคาเท่าไหร่ เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องธรรมดาสามัญ ทั่วโลกเขาทำกันแต่ประเทศเราไม่ทำ เพราะอะไรก็คิดเอาเอง การคิดแบ่งขั้วขั้วหนึ่งเป็นของระบบทุน อีกขั้วเป็นของอีกระบบหนึ่ง สุดท้ายมันก็ฮั้วกันในแง่ผลประโยชน์ ประชาชนไม่ได้อะไรจริง เพราะว่าไม่มีทางสายประชาชนเลย”
“ทางที่ผมเสนอคือทางใหม่ ทางสายประชาชน แทนที่จะให้รัฐและเอกชนมากำกับประชาชน เราเปลี่ยนใหม่ว่าให้ประชาชนไปกำกับการบริหารของรัฐและกำกับเอกชน ด้วยกระบวนการที่เปิดเผยคือแอพพลิเคชั่นสมการราคา ซึ่งไม่ใช่เรื่องยากอะไรเลย เรื่องยางพาราเราคิดไว้แล้วว่าจะทำให้ยางกิโลละ 83 บาทตลอด 18 ปีที่กรีด แต่ถ้าเชื่อทฤษฎีผม ราคายางพาราจะอยู่ที่ 183 บาทตลอดเวลา 25 ปี”
“วันนี้อยากจะบอกกับท่านผู้ชมว่าพอกันทีได้ไหมครับ กับแนวคิดการแบ่งขั้วประเทศนี้ให้เป็น 2 ฝ่าย ไม่เกิดผลดีอะไรเลย ฝากวอยซ์ทีวีด้วยนะครับ จะขอโทษแล้วไปลบเรื่องราวนั้นเสียก็ได้ ถ้าไม่ลบอาจจะมีฟ้องเพราะทำให้พรรคกรีนเสียหาย พรรคกรีนไม่ได้เป็นสมุนใคร”
“สมการราคาเขาใช้กัน วันนี้ข้าวสารควรจะเป็น 2.5 เท่าของข้าวเปลือก ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไรเลยแต่ประเทศไทยไม่ทำ ปล่อยให้นายทุน โรงสี พ่อค้า ขายข้าวสารกิโลละ 40 บาท ขณะที่ข้าวเปลือกกิโลละ 5 บาท คือตันละ 5 พันบาท มันเกิดอะไรขึ้นกับประเทศนี้ รู้ทั้งรู้อยู่นะว่าใครทุจริตตรงไหนแต่ไม่ทำ เพราะประเทศนี้ถูกกำกับโดยราชการและเอกชน ไม่โดนกำกับโดยประชาชน พรรคกรีนคิดถึงสันติภาพโดยให้กำกับระบบราชการโดยประชาชน เรียกว่าสภาประชาชน สภาประชาธรรม”
“ขอต่ออีกนิด ผมขาดอยู่มุมหนึ่ง 2 - 3 วันแล้ว ผมพูดแล้วมันขัดข้องทุกครั้ง อยากจะให้เห็นว่าประเทศเราจะก้าวไปอย่างไรในวันต่อไป แล้วประชาชนจะมีโอกาส มีชัยชนะในการปกครองประเทศนี้โดยมือประชาชนสักครั้งหรือเปล่า ถ้าย้อนกลับไปเมื่อ 80 ปีที่แล้ว วินสตัน เชอร์ชิล (Winston Churchill - นายกฯ อังกฤษช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นรัฐบุรุษของอังกฤษ) ผมอยากยกตัวอย่างเรื่องนี้ให้เห็นมากๆ ประเทศอังกฤษเขาก้าวหน้ากว่าเรา 70 - 80 ปี แล้ววันนี้มันเวียนมาถึงประเทศเรา”
“เราต้องขบคิดกัน เพราะว่ารอยเท้าทางประวัติศาสตร์เราสามารถให้เห็นกันได้ วินสตัน เชอร์ชิล เป็นแม่ทัพ เป็นนายกรัฐมนตรีของอังกฤษ ได้นำอังกฤษเข้าสู่สงครามและชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 กลายเป็นวีรบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ของอังกฤษ คนอังกฤษชื่นชมมาก ผมเคยไปถ่ายรูปกับอนุสาวรีย์ของวินสตัน เชอร์ชิลที่ลอนดอน คนอังกฤษยกย่องวินสตัน เชอร์ชิลว่าเป็นวีรบุรุษของประเทศ แต่เชื่อไหมว่าวินสตัน เชอร์ชิล ลงเลือกตั้งในครั้งนั้น (หลังสงครามยุติ) แล้วแพ้ แพ้อย่างที่ไม่รู้ว่าตัวเองแพ้อย่างไร ผมจึงขออธิบายเทียบเคียงกับประเทศไทยตอนนี้”
“วินสตัน เชอร์ชิลอยู่พรรคอนุรักษ์นิยม ลงเลือกตั้งแข่งกับพรรคแรงงาน พรรคแรงงานไม่เคยชนะเลย แต่ครั้งนี้พรรคแรงงานเสนอว่า…‘เราเหนื่อยกันพอแล้วหรือยังกับสงคราม พรรคแรงงานรู้ว่าวินสตัน เชอร์ชิลคือวีรบุรุษของพวกเรา แต่ถ้าเลือกวินสตัน เชอร์ชิลเข้าไป เขาก็จะแสดงความเป็นวีรบุรุษ โดยพาประเทศอังกฤษเข้าสู่สงครามอีกครั้งหนึ่ง แพ้ชนะไม่รู้ แต่คนอังกฤษเหนื่อยกันพอหรือยังกับสงคราม เราสูญเสียคนหนุ่มสาว สูญเสียงบประมาณ สูญเสียอะไรหลายอย่างไปกับสงครามที่ไร้สาระมาก’...นั่นเป็นประโยคแรกที่พรรคแรงงานโยนเข้าไปสู่สังคม”
“คนอังกฤษเขาคิดได้ เขาแยกแยะได้ว่าคนนี้เป็นวีรบุรุษผมก็เคารพ แต่ถ้าคุณจะพาฉันเข้าสู่สงคราม ฉันเหนื่อยเกินไปแล้ว ฉันไม่เอาดีกว่า คนอังกฤษเริ่มสั่นไหว แล้วสัปดาห์สุดท้าย พรรคแรงงานก็โยนวาทกรรม โยนความจริง โยนชุดความคิดเพื่อประชาชนลงไปอีกประโยคหนึ่ง บอกว่า...‘อังกฤษถึงเวลาแล้วที่จะสร้างรัฐสวัสดิการ หางบประมาณมาดูแลประชาชน ให้เรียนฟรี รักษาสุขภาพถ้วนหน้า ให้ทุกคนมีความเท่าเทียมกัน ให้คนอังกฤษได้มีสวัสดิภาพที่ดีหลังจากสงคราม’...วินสตัน เชอร์ชิลเถียงขึ้นมาทันที ว่าเราจะเอาเงินมหาศาลจากที่ไหนมาทำ”
“พรรคแรงงานก็บอกกับสังคมทันที... ‘แค่คุณหยุดสงคราม งบประมาณมหาศาลก็จะสามารถมาดูแลประชาชนได้’…เชื่อไหมว่าประโยคนั้นประโยคเดียวทำให้คนอังกฤษเข้าใจเลยว่าแค่หยุดสงคราม งบประมาณมหาศาลของอังกฤษก็สามารถมาดูแลประชาชนได้ ประชาชนเลือกพรรคแรงงาน ชนะเป็นครั้งแรก วินสตัน เชอร์ชิลตื่นมาตอนเช้าหลังเลือกตั้ง ไม่รู้ว่าตัวเองแพ้ได้อย่างไร นี่เรื่องจริง”
“แปลว่าอะไร แปลว่าประเทศเราวันนี้กำลังเข้าสู่ภาวะนี้ ประเทศเรามีวีรบุรุษหลายคน ทักษิณ ชินวัตร ก็เป็นวีรบุรุษของหลายคน ประชาธิปัตย์ อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ก็เป็นวีรบุรุษของหลายคน กำนันสุเทพ (เทือกสุบรรณ) ก็เป็นวีรบุรุษของหลายคน แม้แต่ลุงตู่ (พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ก็เป็นวีรบุรุษของหลายคน ผมคาดว่าพรรคอนาคตใหม่ที่จะฉีกรัฐธรรมนูญ ก็เป็นวีรบุรุษของหลายคน”
“วีรบุรุษของเราที่มี กำลังพาเราเข้าสู่สงครามของความขัดแย้งหรือเปล่า ผมมั่นใจว่าวีรบุรุษของเราต้องการชนะแล้วทำให้อีกฝ่ายแพ้ กำลังพาประเทศเข้าสู่สงครามความขัดแย้งอีกครั้งหนึ่ง พรรคกรีนเลยเดินก้าวข้ามสิ่งนี้ แล้วบอกว่าพรรคการเมืองไม่ควรทะเลาะกันอีกแล้ว ปัญหาของเราคืออธรรมในกฎหมาย อธรรมในกฎเกณฑ์ที่มาปกครองกดขี่เรา เราลุกขึ้นมาสู้กันสิ่งนี้ แล้วก็มาปฏิรูปประเทศด้วยเศรษฐกิจสีเขียว โดยใช้เงินงบประมาณที่มีทุ่มไปกับการพัฒนาชนบทก่อน”
“ทำให้คนชนบทมีทรัพย์มีสิน แล้วเขาก็จะมีปัญญาจับจ่ายใช้สอยพัฒนาประเทศไป นี่คือแนวคิดของพรรคกรีน ผมมั่นใจคนไทยตามหลังอังกฤษมา 60 - 70 ปี แต่วันนี้คนไทยคงมีความชาญฉลาด รู้ว่าวีรบุรุษของเรากำลังพาเราเข้าสู่สงครามความขัดแย้ง เราเหนื่อยกันพอแล้วหรือยังกับความขัดแย้งหลายปีนี้ ถ้าเราเหนื่อยกันแล้ว มาคิดกันใหม่ มาฟื้นฟูประเทศโดยความสงบสันติสุข โดยใช้ต้นไม้เป็นเครื่องมือ”
คลิปรายการ Tonight Thailand ที่เป็นปัญหา (นาทีที่ 19.00 - 20.25)
ที่มา : https://www.youtube.com/watch?v=yGRJjTGr-gk
ทั้งนี้การออกมาตอบโต้ของนายพงศาต่อการนำเสนอข่าวของสถานีโทรทัศน์วอยซ์ทีวีนั้น เกิดขึ้นจากกรณีรายการ “ทูไนท์ ไทยแลนด์ (Tonight Thailand)” ที่ออกอากาศทางช่องดังกล่าวเมื่อ 9 ต.ค. 2561 มีช่วงหนึ่งรายการได้แบ่งพรรคการเมืองเป็นกลุ่มที่คาดว่าจะสนับสนุนหรือไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ โดยให้พรรคกรีนอยู่ในฝ่ายสนับสนุน ทำให้พรรคได้รับความเสียหายตนจึงต้องออกมาชี้แจงข้อเท็จจริง
-/-/-/-/-/-/-/-/-/-/-
ขอบคุณเรื่องจาก : https://www.facebook.com/phongsachoo/videos/1899425623466680/
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'พงศา ชูแนม'และ'พรรคกรีน' สังคม'มั่นคง-เป็นธรรม'เริ่มที่ชนบท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี