15 ต.ค. 2561 นายวัส ติงสมิตร ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) กล่าวเนื่องในโอกาสได้ไปร่วมงานงานรำลึก 14 ตุลา ประจำปี 2561 จัดโดยเครือข่ายภาคประชาชนและมูลนิธิ 14 ตุลา ณ อนุสรณ์สถาน 14 ตุลา 16 (แยกคอกวัว) ถ.ราชดำเนิน กรุงเทพฯ เมื่อ 14 ต.ค. 2561 ที่ผ่านมาว่า หลักการประชาธิปไตย เป็นพื้นฐานอันสำคัญของสิทธิมนุษยชน หากไม่มีประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชนก็จะไม่สมบูรณ์
เพราะแท้ที่จริงแล้วสิทธิมนุษยชนกับประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่เกี่ยวเนื่องกันอยู่อย่างแยกจากกันไม่ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องของเจตจำนงที่แท้จริงของประชาชน ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ ความเสมอภาค การมีสิทธิขั้นพื้นฐาน ทั้งสิทธิพลเมือง สิทธิทางการเมือง สิทธิทางเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ซึ่งรวมทั้งการสามารถมีชีวิตอยู่ในสิ่งแวดล้อมอย่างเหมาะสม ตั้งแต่เกิดจนตายอย่างมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของทุกๆ คน
“การเคลื่อนไปของเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ที่หมุนไปอย่างรวดเร็วในปัจจุบันนั้นได้กระทบต่อการปกครองแบบประชาธิปไตยเป็นอย่างมาก ปัจจัยต่างๆ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาธิปไตย ทำให้ประชาธิปไตยได้คลาดเคลื่อนไปจากหลักการประชาธิปไตยที่เคยเป็น ประชาธิปไตยที่แท้จริงนั้นต้องตั้งอยู่บนพื้นฐานของการเลือกตั้งที่บริสุทธิ์ ยุติธรรม การเลือกตั้งต้องอยู่บนเจตจำนงเสรีที่แท้จริงของประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจ โดยที่ทุกคนในสังคมมีความเคารพซึ่งกันและกัน มีเหตุผลและยึดมั่นในผลประโยชน์ของส่วนรวม” นายวัส กล่าว
ปธ.กสม. กล่าวต่อไปว่า ประชาธิปไตยในยุคใหม่มีผู้เล่นมากมายที่เข้ามามีบทบาท โดยเฉพาะผู้เล่นจากระบบเศรษฐกิจแบบเสรีทุนนิยมที่ปรากฏขึ้นควบคู่กับการดำเนินการทางการเมืองในรูปลักษณ์ของประชาธิปไตย แต่ธรรมชาติของทุนนิยมนั้นย่อมต้องการการผูกขาด การแสวงหาอภิสิทธิ์ เมื่อทุนนิยมมีความสำคัญมากขึ้นในสังคมไทย ทำให้มีการเปลี่ยนแปลงในค่านิยมและแนวคิดทางการเมือง ประชาธิปไตยกลายเป็นเรื่องของเสียงข้างมากแบบสุดโต่ง แอบอิงผลประโยชน์แฝง และการผูกขาดกลายเป็นธุรกิจการเมือง
จนทำให้ประชาธิปไตยของเรายังต้องล้มลุกคลุกคลาน กลายเป็นเผด็จการทุนนิยมในคราบประชาธิปไตย และเกิดการคอรัปชั่นที่ระบาดไปทั่ว เปิดโอกาสให้อำนาจพิเศษเข้ามาแทรกแซง ทำให้พัฒนาการของประชาธิปไตยต้องสะดุดลงเป็นพักๆ โดยเฉพาะการที่สังคมทันสมัยมากขึ้น เร็วขึ้น มีเทคโนโลยีใหม่ๆเข้ามาเกี่ยวข้อง ทำให้การเรียนรู้เพื่อต่อสู้กับปัญหาเป็นสิ่งที่ไม่สามารถหยุดยั้งอยู่กับที่ได้ ต้องมีการพัฒนาให้ทันต่อเหตุการณ์อยู่เสมอ
“หลักการที่เสมือนเป็นแกนของความรุ่งเรืองและพัฒนาของสังคมประชาธิปไตยของประเทศไทยที่จะต้องทำให้เกิดขึ้นนั้น จะต้องประกอบด้วยเสาหลักสำคัญสามประการ คือ หลักประชาธิปไตย หลักนิติธรรม และหลักสิทธิมนุษยชน ซึ่งทั้งสามเสาหลักนี้ไม่สามารถจะแยกจากกันได้ เนื่องจากมีผลเกื้อกูลกันอยู่อย่างแยกจากกันไม่ได้ การทำให้ผู้คนในสังคมมีความพร้อมในทุกๆ ด้าน ก็จะช่วยทำให้ผู้คนทั้งหลายสามารถเป็นผู้ทรงสิทธิอย่างแท้จริง สามารถปกป้องสิทธิของตัวเองได้อย่างมีศักดิ์ศรี” นายวัส ระบุ
ปธ.กสม. ยังกล่าวอีกว่า งานด้านประชาธิปไตยจึงไม่ได้จบอยู่เพียงแค่การมีการเลือกตั้งเท่านั้น แต่ต้องเป็นประชาธิปไตยที่เกิดจากเนื้อแท้ที่มาจากประชาชน ตรวจสอบได้ และต้องครอบคลุมประโยชน์สุขให้เกิดขึ้นในชนทุกหมู่เหล่าอย่างเท่าเทียมและมีศักดิ์ศรี แม้จะเป็นผู้ที่ไม่มีสิทธิเลือกตั้งก็จะต้องได้รับความใส่ใจอย่างเสมอภาค โดยยึดหลักสิทธิมนุษยชนที่ต้องไม่มีการทิ้งผู้ใดไว้เบื้องหลัง
การตรากฎหมายและการบังคับใช้ต้องตั้งอยู่บนหลักนิติธรรม ต้องไม่มีการนำนิติวิธีมาใช้คุกคามประชาชน โดยเฉพาะเหล่านักต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน มักจะโดนคุกคามอยู่เป็นประจำ ประชาชนทุกคนจะต้องสามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้อย่างเท่าเทียม จากประวัติศาสตร์ที่ผ่านมา ในหลายกรณีผู้มีอำนาจได้ใช้นิติวิธีสร้างความชอบธรรมให้ตนเอง มีการคุกคามประชาชนจนเกิดความวุ่นวาย
“ที่น่าแปลกที่เหตุการณ์เหล่านั้นเกิดขึ้นจากทั้งผู้ที่ได้อำนาจมาด้วยวิธีพิเศษและผู้ที่ได้อำนาจมาจาการเลือกตั้ง โดยไม่ได้สำเหนียกว่าการใช้นิติวิธีเทียมที่ไม่ยืนอยู่บนหลักนิติธรรมอย่างแท้จริงย่อมไม่ชอบธรรม ซึ่งได้ส่งผลกระทบระยะยาวที่ทำให้อำนาจรัฐบาลนั้นๆ เสื่อมถอยลงจนเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบที่ขยายวงกว้างจนน่ากลัวอย่างที่พวกเราเพิ่งประสบมาด้วยตนเองเมื่อไม่นานมานี้ เราอาจโชคดีที่ได้รอดพ้นวิกฤตการณ์นั้นมาได้ แต่ใครจะประกันได้ว่าเราจะมีโชคเช่นนั้นตลอดไป” ปธ.กสม. ให้ความเห็น
นายวัส กล่าวสรุปในท้ายที่สุดว่า การเลือกตั้งที่กำลังใกล้เข้ามานั้น เป็นงานหนักที่ทุกภาคส่วนจะต้องให้ความใส่ใจ การประกันความยั่งยืนของประชาธิปไตยและความผาสุกของประชาชน โดยต้องให้ความสำคัญกับการประสานกันระหว่างสามเสาหลักดังกล่าว คือ หลักประชาธิปไตย หลักนิติธรรม และหลักสิทธิมนุษยชนไปพร้อมๆกัน การเดินหน้าประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นไม่ได้หากปราศจากความเสียสละของเหล่าวีรชน 14 ตุลาที่ได้ร่วมกันต่อสู้และเสียสละเลือดเนื้อในวันนั้น รวมทั้งผู้ที่เห็นคุณค่าในประชาธิปไตยที่ได้เสียสละและสืบสานการต่อสู้ตลอดมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี