16 ต.ค.61 รศ. สุวินัย ภรณวลัย อาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์หัวข้อ “ใจหายอีกครา จากสมศักดิ์ เจียมฯ ถึง วิสา คัญทัพ” เล่าเรื่องราวลงใน เฟซบุ๊ก “Suvinai Pornavalai” ใจความว่า “วิสา คัญทัพในวัย 69 ปีป่วยเป็นโรคพาร์กินสัน ขณะนี้เขาลี้ภัยอยู่ในเยอรมัน เมืองหนาว มีสังขารที่ร่วงโรยและไร้คนเหลียวแล ผมได้ยินชื่อเสียงอันโด่งดังของวิสามา 45 ปีแล้ว
แต่ผมไม่เคยได้เจอตัวจริงของเขาเลยสักครั้งเดียว
สำหรับคนรุ่นผม วิสาเป็นนักกวีและเจ้าของบทเพลงเพื่อชีวิตในตำนาน
วิสาเคยเป็นผู้นำนักศึกษารามคำแหงที่ต่อสู้กับเผด็จการทหารในปี 2516
จนถูกลบชื่อจากมหาลัย นำไปสู่การเรียกร้องรัฐธรรมนูญ ถูกจับเป็น 1 ใน 13 คนข้อหากบฏ อันเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ 14 ตุลา 2516 ขณะนั้นวิสาเพิ่งมีอายุแค่ 24 ปีเป็นชายหนุ่มผู้มีอุดมการณ์
หลังจากนั้นวิสาเข้าป่าจับปืนหลังเหตุการณ์ 6 ตุลา 2519 แต่ตัวตนจริงๆของวิสาคือ นักแต่งเพลงเพื่อชีวิต
วิสาเข้าร่วมในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 เหมือนชนชั้นกลางไทยส่วนใหญ่ ตอนนั้นเขามีอายุ 43 ปีอยู่ในวัยฉกรรจ์ที่ผ่านร้อนผ่านหนาวทุกอย่างมาแล้ว
แต่วิสากลายเป็นพวกเสื้อแดงอย่างเต็มตัวในช่วงเหตุการณ์เผาเมืองปี 2553 ตอนนั้นวิสามีอายุ 61 ปีแล้วเป็นคนในวัยเกษียณแล้ว เขาควรจะถอยห่างออกมาใช้ชีวิตอย่างสงบในบั้นปลายได้แล้ว
การตัดสินใจที่ผิดพลาดครั้งใหญ่ในชีวิตของวิสา คือ เขาเลือกที่จะลี้ภัยไปต่างแดนหลังการรัฐประหารของ คสช. เมื่อปี 2557 ผมคิดว่า เขาประเมินสถานการณ์ในตอนนั้นคลาดเคลื่อนเหมือนสมศักดิ์ เจียมฯ
จริงๆแล้วเขาควรอยู่ที่เมืองไทยและต่อสู้ทางความคิดอย่างเปิดเผยมากกว่า ประเทศไทยในปัจจุบัน มิได้อยู่ในยุคทมิฬเหมือนเมื่อ 50 ปีก่อน ทหารยุคนี้ก็ไม่ใช่
โรคพาร์กินสันเป็นโรคที่เป็นแล้วรักษาไม่ได้ ทำได้แค่ประคองอาการของโรคเท่านั้น
ยุคของสมศักดิ์ เจียมฯ และยุคของวิสา คัญทัพผ่านไปแล้ว ช่วงเวลาที่รุ่งโรจน์ของคนทั้งสองไม่มีวันหวนกลับมาอีกแล้ว
นี่คือความเป็นอนิจจังของชีวิตที่ไม่มีใครเลี่ยงพ้น
อย่างไรก็ดี ผมขออวยพรให้วิสาใช้ชีวิตในบั้นปลายอย่างสงบสุข รู้ทุกข์ เห็นทุกข์ในใจตนเอง และปล่อยวางมันลงได้
อย่างน้อยที่สุดเขาก็เคยเป็นไอดอลคนหนึ่งของผมในช่วง 14 ตุลา 2516 และหลังจากนั้น
ผมได้แต่ภาวนาขอให้ชีวิตที่เหลือของวิสาจบลงอย่างสง่างาม
คนรุ่นเรา คนรุ่น 14 ตุลา ล้วนชรากันหมดแล้ว ทยอยกันสลัดใบจากโลกนี้ไปทีละคนสองคน
โลกจะจดจำคนรุ่นเราอย่างไรหลังจากนี้ มันขึ้นอยู่กับว่า ตัวตนแต่ละคนของเราจะฝากอะไรทิ้งไว้ให้กับโลกนี้บ้างก่อนจากโลกนี้ไป”
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี