ป.ส่งสำนวนฟ้อง3แกนนำเพื่อไทยแถลงด่า4ปีคสช. โวยตั้งข้อหาตามอำเภอใจ
17 ต.ค.61 ที่สำนักงานอัยการสูงสุด ถนนรัชดาภิเษก พนักงานสอบสวนกองปราบปราม (บก.ป.) นำสำนวนพร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้อง นายวัฒนา เมืองสุข อดีต รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ , นายจาตุรนต์ ฉายแสง อดีตรองนายกรัฐมนตรี และนายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานที่ปรึกษากฎหมายพรรคเพื่อไทย แกนนำพรรคเพื่อไทย 3 ผู้ต้องหาที่ คสช.ส่งผู้เเทนแจ้งความร้องทุกข์กล่าวหาว่ากระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116 คือ ยุยงปลุกปั่น จากกรณีแถลงผลงานของ คสช. ในหัวข้อ “4 ปีที่ล้มเหลวของรัฐบาล และ คสช.นำไปสู่ความมืดมนและอันตราย” ณ ที่ทำการพรรคเพื่อไทย เมื่อวันที่ 17 พ.ค.61 ที่ผ่านมา ต่ออัยการสำนักงานคดีอาญา
นายชูศักดิ์ กล่าวก่อนเข้ารายงานตัวต่ออัยการว่าตนและพวกถูกแจ้งข้อหาดังกล่าว ซึ่งก่อนหน้านี้ได้เคยมีการร้องขอความเป็นธรรมในชั้นพนักงานสอบสวน ซึ่งปรากฏว่าพนักงานสอบสวนก็ไม่ได้ดำเนินการ อย่างไรก็ตามเมื่อมีการส่งสำนวนพร้อมความเห็นส่งฟ้องตนกับพรรคพวก ตนก็เตรียมหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อพนักงานอัยการขอให้สั่งให้พนักงานสอบสวนไปทำการ การสอบสวนพยานบุคคลเพิ่มอีกกว่า 20 ปาก ซึ่งทั้งหมดเป็นผู้ที่ให้ความเห็นผ่านเว็บไซต์ รวมถึงให้สอบสวนเกี่ยวกับเอกเอกสารที่เกี่ยวข้องด้วยเพื่อให้มีข้อเท็จจริงที่รอบด้าน เพราะที่ผ่านมาพบว่ามีบุคคลอื่นๆแถลงข่าว ทำกิจกรรมทางการเมืองเช่นกัน จึงมองว่าการที่ คสช.ไม่ยอมยกเลิกประกาศต่างๆ ทำให้เหมือนเป็นการเลือกปฏิบัติกับกลุ่มคนบางกลุ่มเท่านั้น
ขณะที่นายจาตุรนต์ เปิดเผยว่า ตนเองอยากให้ คสช.ยกเลิกประกาศคำสั่งต่างๆ และเปิดโอกาสให้ทุกพรรคการเมืองสามารถดำเนินกิจกรรมต่างๆได้อย่างเต็มที่ เพราะพรรคการเมืองต้องเตรียมขั้นตอนสำหรับการเลือกตั้ง ส่วนตัวตนไม่หนักใจกับคดีนี้ เพราะมองว่าเป็นการตั้งข้อหาตามอำเภอใจ โดยตนพร้อมจะสู้คดีถึงที่สุด แต่ตนเป็นห่วงเรื่องการตั้งข้อหากับบุคคลอื่น เพราะมองว่าเป็นการปิดโอกาสและจำกัดสิทธิเสรีภาพของประชาชน ด้วยข้อหายุยงปลุกปั่นบ้าง พ.ร.บ.คอมฯบ้าง ที่จะไม่สามารถตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล ซึ่งจะส่งผลเสียให้ประเทศชาติ และอาจทำให้การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นไม่เป็นธรรม
นายจาตุรนต์ ยังกล่าวถึงเรื่องร่าง พ.ร.บ.ไซเบอร์ด้วยว่า ร่างดังกล่าวควรใช้เพื่อรักษาความมั่นคงของระบบอินเตอร์เน็ตเพื่อประโยชน์ทางการธุรกิจของภาคเอกชนเพื่อเสริมการสื่อสารของประชาชนอย่างมีเสรี และคุ้มครองเสรีภาพส่วนบุคคลของประชาชน ไม่ควรใช้มาจำกัดสิทธิเสรีภาพของแระชาชน โดยเฉพาะใช้ทำร้ายเสรีภาพของผู้ที่เห็นต่าง
ส่วนเรื่องที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าใจกว้างจะยังไม่พิจารณาดำเนินคดีหมิ่นประมาทคนที่เข้ามาวิจารณ์ในเฟซบุ๊คที่เพิ่งเปิด ตรงนี้เห็นว่านายกฯสามารถพิจารณาได้ว่าหากมีการกระหมิ่นประมาทก็ไปดำเนินคดีหรือผิดกฎหมายอื่นก็สามารถดำเนินคดีไปได้ แต่ไม่ใช่เอากฎหมายเหล่านี้มาจำกัดเสรีภาพ ธุรกิจระดับโลกจะไม่กล้ามาลงทุนในประเทศ ถ้าผ่านกฎหมายที่อนุญาตให้รัฐเข้าไปแทรกแซงล่วงรู้ข้อมูลของเอกชนหรือประชาชน หลักการนี้พรรคเพื่อไทยไม่ได้พิจารณาในกรณีที่เราถูกกระทำ แต่เราเป็นห่วงภาคธุรกิจเอกชนการลงทุนของประเทศ
ภายหลังเข้ารายงานตัวกับพนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญา ผู้ต้องหาทั้งสามก็ได้รับการปล่อยชั่วคราวต่อโดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์
ด้านนายวัฒนา กล่าวว่า อัยการได้นัดฟังคำสั่งวันที่ 28 พ.ย. เวลา 13.00 น. ส่วนหากจะมีคำสั่งคดีในวันดังกล่าวได้หรือไม่นั้น ทางอัยการจะมีการประสานมาว่าจะให้มาทราบนัดฟังคำสั่งด้วยตนเอง ซึ่งหลังจากนี้ตนก็จะยื่นร้องขอความเป็นธรรมเข้าไปด้วยเช่นกัน
สุดท้ายก็อยากฝากถึง พล.อ.ประยุทธ์ ที่บอกว่า “ลุงเข้ามาเพื่อสร้างความปรองดองเคารพความเห็นต่าง ลุงมาถามผมสิว่าผมเดินขึ้นอัยการขึ้นศาลกี่รอบ เคารพแบบไหนที่ให้คนมาแจ้งความดำเนินคดีกับพวกผมทั้งที่เป็นความคิดเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญ ทีหลังอย่าหลับตาโกหกฝากไปบอกด้วย”
ส่วนหากว่า อัยการมีคำสั่งไม่ฟ้องหรือฟ้องไปแล้วศาลยกฟ้องจะฟ้องกลับเจ้าหน้าที่ที่แจ้งข้อหาหรือ คสช.หรือไม่นั้น นายวัฒนาบอกขอดูพฤติการณ์ และเหตุการณ์ในตอนนั้นก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี