4เหล่าทัพประสานเสียง
อย่ากลัวปฏิวัติ
ชี้แผนเผชิญเหตุสุดท้าย
แต่ตอนนี้ยังไม่มีนัยวุ่นวาย
‘บิ๊กแดง’เมินการเมืองถล่ม
บิ๊กตู่ย้ำยุโรปเลือกตั้งกพ.’62
“ผบ.สส.” ลั่นอย่ากังวลทหารปฏิวัติ หากทุกฝ่ายประคองประเทศสงบ ไม่มีนัยการเมืองวุ่นสู่ขัดแย้ง แจง 2 บิ๊กทหาร พูดเป็นแผนเผชิญเหตุขั้นสุดท้าย จุดยืนกองทัพ ประเทศสงบ-ปชช.มีสุข “บิ๊กแดง” ระลึกถึง“บิ๊กจ๊อด” ไหว้ป้ายชื่อ ระบุเรื่องธรรมดาการเมืองโจมตี “บิ๊กตู่” ย้ำกับนายกฯนอร์เวย์-เนเธอร์แลนด์ ไทยจัดเลือกตั้ง กุมภาพันธ์ 2562 หรืออย่างช้าพฤษภาคม “เผดิมชัย” นำสส.นครปฐม ย้ายซบ“ชทพ.”
เมื่อวันที่ 19ตุลาคม ที่กองบัญชาการกองทัพไทย พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) พร้อมด้วย พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหาร บก(ผบ.ทบ.)พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือ(ผบ.ทร.) พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผู้บัญชาการทหารอากาศ(ผบ.ทอ.) และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)แถลงข่าวหลังประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพครั้งที่1ประจำปี2562
โดย พล.อ.พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผบ.ทสส.กล่าวถึงจุดยืนการเตรียมพร้อมการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี2562 ว่า สิ่งที่เราทำได้คือ การให้ความรู้ความเข้าใจกฎกติกาของการเลือกตั้ง การทำให้บรรยากาศในทุกพื้นที่อยู่ในความสงบกรอบหน้าที่ของทหารและตำรวจคือทำให้ประเทศชาติ ประชาชนเกิดความสงบ ให้ความรู้ความเข้าใจจะต้องมีจุดสมดุล เพื่อไม่ให้ข้อมูลใดๆก็ตามที่นำไปสู่ความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ส่วนสถานการณ์ในปี2562 หากย้อนไปช่วง 4ปีที่ผ่านมา เชื่อว่าคนไทยทุกคนได้เห็นว่า มีแต่ความสงบ ไม่มีการเดินขบวนประท้วง คนไทยอยู่อย่างมีความสุข ทำมาหากินอย่างปกติ การติดต่อค้าขาย เศรษฐกิจไปได้ด้วยดี กฎหมายมีการบังคับใช้ ทุกคนเคารพกฎหมาย ถือว่าสังคมอยู่ในสภาวะปกติ ไม่มีอะไรต้องกังวล
ทหารชี้ร่วมกันคิด-ไม่มีจลาจล
เมื่อถามว่า จุดยืนของทหารยังอยู่เคียงข้างประชาชนใช่หรือไม่ พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า จุดยืนของทหารตำรวจคือจุดใดก็ได้ที่ประเทศชาติมีความสงบ ประชาชนมีความสุข เมื่อถามย้ำว่า หากในอนาคตเกิดวิกฤตการเมืองอีกครั้ง บทบาทของทหารจะเป็นอย่างไร หลังจากคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ลงจากอำนาจ พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า หากเราไม่ไปพยากรณ์ว่า จะเกิดการจลาจล ขณะนี้การเดินทางของประเทศไทย 4ปีที่ผ่านมาถือว่า มีพัฒนาการดี ก้าวหน้าและมีการเตรียมการไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยมาด้วยดีตลอด แทนที่เราจะคิดว่าจะเกิดการจลาจล แต่ถ้าหากเราร่วมมือการตัดสินใจให้ถูกต้อง ทุกคนมีจุดยืนที่เหมาะสมร่วมกัน เราก็คงไม่ต้องไปคิดว่าจะเกิดการจลาจลหรือไม่ในอนาคตและไม่ต้องไปคิดว่าทหารจะต้องมาทำอะไรหรือไม่ในวันนั้น
รปห.คือแผนเผชิญเหตุสุดท้าย
«สิ่งที่ พล.อ.อภิรัตน์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.และพล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ดิษยะศริน ผบ.ทอ.พูดนั้น ท่านพูดด้วยประสบการณ์นั่นคือ แผนเผชิญเหตุสุดท้าย ขณะที่กลไกกฎระเบียบบ้านเมืองยังใช้บังคับได้และผู้คนเคารพกฎหมายความเคลื่อนไหวการเมืองที่จะนำไปสู่ความขัดแย้งก็ยังไม่เห็นปรากฏมีนัยยะสำคัญ จนถึงขนาดที่ต้องน่ากังวล การที่เราไปพูดถึงเหตุยังไม่เกิดขึ้นและไม่มีทีท่าว่าจะเกิดจะทำให้สังคมเกิดความกังวลได้ ผมคิดว่าเราทุกคนต้องยืนหยัดอยู่กับการรับข้อมูลและการตัดสินใจจากข้อมูลนั้นให้เกิดความสงบ อย่าไปตื่นตามประเด็นที่เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาเล็กๆน้อยๆและคิดว่าจะเป็นเช่นนั้น» พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าว
ไม่มีมูลเหตุไม่สงบ-มีทางออกอื่น
เมื่อถามว่า หากมีการรัฐประหารเป็นทางเลือกสุดท้ายใช่หรือไม่ พล.อ.พรพิพัฒน์ กล่าวว่า ตนยังไม่เห็นโอกาสที่จะเกิดความไม่สงบและยังไม่เห็นว่า จะต้องไปแก้ปัญหาความไม่สงบด้วยวิธีใด ในเมื่อกฎหมายยังบังคับได้ปกติ ไม่มีเหตุผลใดที่ทำให้คนไทยต้องกังวลกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น ยังมีหนทางอื่นที่ใช้มากกว่าหนทางรัฐประหาร
‘บิ๊กแดง’ชี้ถูกโจมตีเรื่องธรรมดา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จสิ้นการแถลงข่าว พล.อ.อภิรัตช์ เดินไปจับมือกับ พล.อ.อ.ชัยพฤกษ์ ก่อนจะไปไหว้ป้ายชื่อ พล.อ.สุนทร คงสมพงษ์ อดีต ผบ.ทสส.และหัวหน้าคณะรักษาความสงบเรียบร้อยแห่งชาติ (รสช.) ผู้เป็นบิดา ที่ติดอยู่บนป้ายรายชื่อนายทหารที่ดำรงตำแหน่งผบ.ทสส.นอกจากนี้ก่อนการประชุม พล.อ.อภิรัชต์ ได้เดินไปดูรูปภายของบิดาภายในห้องรับรองนเรศวรอีกด้วย
ทั้งนี้พล.อ.อภิรัตช์ กล่าวถึงกระแสโจมตีจากฝ่ายการเมือง หลังให้สัมภาษณ์ว่า การรัฐประหารจะไม่เกิด หากฝ่ายการเมืองไม่เป็นต้นเหตุจลาจลว่า เป็นเรื่องธรรมดา ส่วนที่นายเอกชัย หงส์กังวาลนักเคลื่อนไหวทางการเมือง จะไปแจ้งความเอาผิดในข้อหากบฏที่ สน.ลาดพร้าว ก็ว่าไป
จตุพรปัดหนุนประยุทธ์นั่งนายกฯ
ด้าน นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) แถลงว่า ตนเชียร์พรรคเพื่อชาติ(พช.)เพราะมีจุดยืนประชาธิปไตย ไม่เอาเผด็จการ100%และตนเป็น ประธาน นปช. อยู่ฝ่ายประชาธิปไตย จะมีจุดยืนหนุนเผด็จการไม่ได้ ดังนั้นเรื่องหนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเป็นการปล่อยข่าว เป็นข่าวเท็จ100% ตนรู้ใครปล่อยข่าวแต่ขออโหสิกรรมให้ยืนยันว่า ตนเป็นเพียงกองเชียร์พรรคพช.ซึ่งมีสิทธิ์ตามกฎหมายและรัฐธรรมนูญ2560 กำหนดไว้
ชวนทุกฝ่ายคุยหวั่นหลังลต.วิกฤต
ประธาน นปช.กล่าวอีกว่า การออกมาเรียกร้องให้คนที่มีความเห็นต่างกันได้มาคุยกันนั้น เพราะรัฐธรรมนูญ2560 จะก่อให้เกิดวิกฤตครั้งใหญ่ในสังคมได้เสมอและการพูดคุยกันไม่ได้หมายถึงเรียกร้องให้แต่ละฝ่ายเปลี่ยนความคิด ละเลิกจุดยืนของฝ่ายตัวเอง เพียงต้องการให้ทุกฝ่ายที่มีความเห็นแตกต่างกัน สามารถอยู่ร่วมกันได้ โดยไม่แตกแยกกัน เราต้องหาสัญญาประชาคมให้เกิดขึ้นในชาติ กรณีที่ นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ออกแบบรัฐธรรมนูญ 2560 ให้ใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียวจะเป็นปัญหาในอนาคต เมื่อไม่มีพรรคใดได้เสียงเกินครึ่งแล้ว การจัดตั้งรัฐบาลจะไม่มีเสถียรภาพ ดังนั้น ถ้าไม่พูดคุยกันแล้ว เกรงจะเกิดวิกฤตหลังเลือกตั้งตามมา
เหลือง-แดงขัดแย้ง/เสื้อเขียวกิบรวบ
ส่วนเรื่องที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.แถลงไม่ยืนยันการรัฐประหารจะไม่เกิดขึ้นนั้น ตนเห็นว่า เป็นการพูดที่ตรงไปตรงมาที่สุด แต่คนไทยมีความสุขกับการฟังคนพูดเท็จมาตลอดว่าไม่ยึดอำนาจ แต่ก็ยึดอำนาจ จึงไม่เคยชินกับการพูดความจริงกัน ซึ่ง ผบ.ทบ.พูดตรงที่สุด ราวกับเปิดถ้วยไฮโลให้เห็นกันเลยทั้งนี้ ประวัติศาสตร์การเมืองไทย สาเหตุการยึดอำนาจนั้น มักนำโยงไปสู่สาเหตุความขัดแย้งของประชาชนแทบทุกครั้ง การยึดอำนาจระยะใกล้ๆเมื่อปี2549และปี2557 ก็ยกความแตกแยกขัดแย้งมาเป็นเหตุอ้างอีกตามเดิมสังคมไทยถูกสร้างว่า ให้คนเสื้อแดง-เหลือง ขัดแย้งกัน จึงมีฝ่ายเสื้อเขียวมาระงับความขัดแย้ง ซึ่งเป็นประวัติศาสตร์ของผู้ชนะเขียนขึ้น จึงมีแต่เหตุผลด้านดีเข้าข้างฝ่ายตัวเอง
ระวังอ้างลต.สกปรกแล้วยึดอำนาจ
สำหรับการยึดอำนาจในอนาคตจะเกิดขึ้นอย่างไรนั้น นายจตุพร กล่าวว่า สาเหตุที่ตนเรียกร้องให้ลดเงื่อนไขความขัดแย้ง เพื่อไม่ให้เกิดการยึดอำนาจอีก จึงชวนทุกฝ่ายพูดคุยเพื่อหนีเงื่อนไข»ไม่สงบ»จะนำไปสู่การยึดอำนาจจอมพลสฤษดิ์ธนะรัชต์ ประกาศไม่วัดรอยเท้าจอมพล ป พิบูลสงคราม แต่กลับอ้างเหตุเลือกตั้งปี2500สกปรกยึดอำนาจ จอมพล ป ดังนั้น ผบ.ทบ.คนปัจจุบัน พูดกันตรงๆนั้น เราจึงไม่ควรหยามเหยียดกัน ส่วนอนาคตถ้าจะยึดอำนาจอ้างเหตุเลือกตั้งสกปรกปี2500 คงเป็นตัวอย่างเตือนพวกเอาแต่สะใจ
นายจตุพร กล่าวด้วยว่า ตนขอเรียกร้องให้ 4รมต.ที่ไปเล่นการเมืองสังกัดพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ลาออก เลือกสวมหมวกการเมืองใบเดียว แต่ไม่ลาออก ซึ่งไม่รู้จะรออะไร จะไม่เป็นผลดีอะไรเลยต้องรีบสร้างแบบอย่างที่ดีให้เกิดขึ้น ต้องแสดงสปิริตทางการเมืองให้เห็น เพื่อให้เกิดความยุติธรรม และลดเงื่อนไขจะถูกกล่าวอ้างการเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ ซึ่งอาจจะเข้าทำนองจอมพลสฤษดิ์ อ้างเลือกตั้งสกปรกมายึดอำนาจจอมพล ป เมื่อปี2500 มาแล้ว”
‘เผดิมชัย’หอบลูกทีมซบ’ชทพ.’
ขณะที่ นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ อดีต รมว.แรงงาน กล่าวถึงกระแสข่าวว่าเตรียมย้ายไปพรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.)ว่า เป็นความจริง เป็นการตัดสินใจร่วมกับครอบครัวและอดีตส.ส.นครปฐม โดยที่ผ่านมาบังเอิญตนกับนายวราวุธศิลปาชา แกนนำชทพ.เป็นที่ปรึกษาประธานหอการค้าอินโดนีเซีย-ไทย จึงได้พูดคุยกันระหว่างประชุมหอการค้าได้ทราบถึงวิสัยทัศน์ของนายวราวุธ และแนวทางของชทพ.เป็นสิ่งที่ตรงที่พวกตนได้พูดคุยกันไว้ โดยเฉพาะพยายามหลีกเลี่ยงหากไปอยู่พรรคไหนจะไม่เป็นตัวแปรให้ประเทศมีความขัดแย้ง จึงเป็นการตัดสินใจโดยมองทิศทางสมานฉันท์มากที่สุดแล้ว
‘ไชยา’ขอเว้นวรรค-สุขภาพไม่ดี
อย่างไรก็ตาม จ.นครปฐม มีส.ส.5คน เดิมเป็นของพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)1 คน อีก 4คนเป็นของพรรคเพื่อไทย (พท.) ซึ่งใน 4คนของพรรคพท.มี 3คนแล้วที่ตัดสินใจไปร่วมกับชทพ.แน่นอนแล้ว มีตน นายอนุชา สะสมทรัพย์และนายก่อเกียรติ สิริยะเสถียร ซึ่งถ้าไม่ติดธุระอะไรก็จะไปเปิดตัวชทพ.ในวันที่ 26ตุลาคมนี้ ขณะที่อดีตสส.อีก1คนของพรรคพท.คือ นายรัฐกร เจนกิจณรงค์ ยังอยู่ระหว่างตัดสินใจ ส่วน นายไชยา สะสมทรัพย์ อาจไม่ลงเลือกตั้ง เพราะสุขภาพไม่ค่อยดียังพักรักษาตัวอยู่ที่รพ.บำรุงราษฎร์
พลังพลเมืองฯเปิดสส.หญิง21ตค.
น.ส.ศิลัมพา เลิศนุวัฒน์ รองเลขาธิการและโฆษกพรรคพลังพลเมืองไทย แถลงว่า วันอาทิตย์ที่ 21 ตุลาคมนี้ เวลา 09.30น.พรรคพลังพลเมืองไทย จะจัดประชุมใหญ่สามัญครั้งที่2 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น หลักสี่ เพื่อเลือกคณะกรรมการบริหารเพิ่มเติมและเลือกตั้งคณะกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง พร้อมจะเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร สส.ของกรุงเทพมหานคร(กทม.) ที่เป็นผู้หญิงทั้งหมดและเป็นคนรุ่นใหม่ ที่มีความรู้ ความสามารถและมีความมุ่งมั่นทำงานรับใช้ประชาชน โดยพรรคตั้งใจจะส่งให้ครบทุกเขต และขณะนี้มีผู้สมัครเข้ามาเป็นจำนวนมาก ส่วนหนึ่งจะเปิดตัวในวันประชุมใหญ่อีกครั้งนี้ด้วย
‘บิ๊กตู่’ย้ำยุโรป-ไทยเลือกตั้งกพ.62
ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ว่า เวลา 12.00น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าประเทศไทย 5ชั่วโมง นายกฯเดินทางไปที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตเบลเยียม เพื่อรับฟังการบรรยายสรุปเรื่องการประชุมผู้นำเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 12 (ASEM12) และการประชุมผู้นำสหภภาพยุโรป-อาซียน(EU-ASEAN Leaders’ Meeting) จากนั้นนายกฯได้พบกับทีมไทยแลนด์เพื่อมอบนโยบายการทำงาน ก่อนเดินทางไปที่อาคารยูโรปา ซึ่งเป็นที่ทำการคณะมนตรีแห่งสหภาพยุโรป โดยพบปะหารือทวิภาคีกับนายมาร์ค รุตเตอร์ นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรเนเธอร์แลนด์และนางเออร์นา โซลเบิร์ก นายกรัฐมนตรีราชอาณาจักรนอร์เวย์
ทั้งนี้ นายกฯกล่าวถึงพัฒนาการทางการเมืองของไทยตลอดช่วงระยะเวลา 4ปีที่ผ่านมาระหว่างหารือกับผู้นำต่างประเทศทั้งสอง ว่า เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าการเมืองไทยมีความก้าวหน้าเป็นลำดับและเป็นไปตามโรดแมป โดยเฉพาะความสงบสุขในประเทศและการเติบโตทางเศรษฐกิจ ขณะนี้รัฐบาลไทยกำลังดำเนินการระยะสุดท้ายของโรดแมป คาดว่าจะจัดเลือกตั้งทั่วไปในเดือนกุมภาพันธ์2562 หรืออย่างช้าไม่เกินเดือนพฤษภาคม2562 โดยเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะร่วมกันพัฒนาความสัมพันธ์แบบมองไปข้างหน้าร่วมกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี