ประธานญาติวีรชนพฤษภา’35 แนะ ผบ.ทบ.วางตัวให้เหมาะสมมีเส้นแบ่งระหว่างกองทัพกับ คสช.ตามนโยบาย “บิ๊กเจี๊ยบ” วอนทุกฝ่ายระมัดระวังถ้าวิจารณ์ “บิ๊กตู่” อย่าเหมารวมกองทัพจะไม่เป็นธรรม เตือนฝ่ายการเมืองเล่นตามกติกาแต่หากสุดวิสัยกองทัพใช้กฎอัยการศึกอย่าฉวยโอกาสยึดอำนาจล้มล้าง รธน.อีก
20 ต.ค.61 นายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35 กล่าวถึงคำสัมภาษณ์ของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ว่า เป็นการสื่อสารที่ชัดเจน ในหลายประเด็นเกี่ยวกับการรัฐประหารที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ภายใต้เงื่อนไขดังที่ทราบกันดีอยู่แล้วทุกครั้งที่มีการยึดอำนาจรัฐบาล คือ 1.การฉ้อราษฎร์บังหลวง 2.การใช้อำนาจเกินขอบเขตของรัฐบาล และ3.การใช้ความรุนแรงเกินกว่าการควบคุมตามกฎหมายปกติ
อย่างไรก็ตาม อยากจะอธิบายถึงคำว่ากองทัพเป็นเนื้อเดียวกับรัฐบาล สื่อความหมายนี้ย่อมชัดเจนว่ากองทัพจะต้องให้การสนับสนุนทุกๆรัฐบาล เพราะกองทัพเป็นหน่วยงานหนึ่งของรัฐบาลที่บริหารประเทศ ส่วนการเป็นเนื้อเดียวกันกับ คสช.นั้น เป็นสิ่งที่น่าจะไม่ถูกต้อง เพราะจะเห็นว่าขณะที่ทำการรัฐประหารยึดอำนาจ เดิมมีผู้นำเหล่าทัพเข้าไปเกี่ยวข้อง แต่หลังจากนั้นภายใต้การดูแลกองทัพของ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท อดีต ผบ.ทบ. ก็ได้วางตัวชัดเจนและเหมาะสม มีเส้นแบ่งระหว่างการใช้อำนาจ คสช.กับกองทัพอย่างชัดเจน โดยไม่เคยก้าวก่ายไปถึงพรรคการเมือง กลุ่มการเมืองต่างๆ ดังนั้นคำพูดของ ผบ.ทบ.คนปัจจุบันจึงต้องทำให้ชัดเจนและเหมาะสมตามที่ได้บอกไว้ว่าจะเดินตามแนวนโยบายของอดีต ผบ.ทบ
นายอดุลย์ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นักการเมืองก่อม็อบเรียกร้องจนเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชนนั้น คณะกรรมการญาติวีรชนฯเคยเข้าพบทุกพรรคการเมือง และกลุ่มการเมือง ซึ่งทุกฝ่ายได้เคยยอมรับเห็นพ้องต้องกันว่าเป็นส่วนหนึ่งของความวุ่นวายดังกล่าว และได้เคยออกมาแสดงความเสียใจต่อสังคมเพื่อเป็นการแสดงความจงรักภักดีต่อพ่อหลวง ร.9 มาแล้ว
อย่างไรก็ตาม จากผลของการบริหารงานของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และพวก ที่มีความสามารถไม่พอเพียงทำให้กับสังคมไทยยังคงอึมครึมจนถึงปัจจุบัน และมีแนวโน้มว่าจะสร้างความแปลกแยกมากยิ่งขึ้น จากการพยายามจะสืบทอดอำนาจของตัวเองและพวกไว้ จึงเป็นหน้าที่ของพรรคการเมือง และกลุ่มการเมืองจะต้องยอมรับความจริง และไม่สร้างเงื่อนไขหรือปฏิบัติเช่นเดิมอีกต่อไป
“หวังเป็นอย่างยิ่งว่า พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ จะสามารถดำเนินนโยบายตามที่ พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท อดีตผบ.ทบ.ได้วางแนวนโยบายไว้ และเป็นผู้ที่ เชื่อมประสาน รอยร้าว ในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬกับกองทัพ จนเป็นที่ยอมรับ ดังนั้นสังคมไทยจะต้องระมัดระวังการใช้คำพูด หากวิพากษ์วิจารณ์ พล.อ.ประยุทธ์ และพวก ก็วิจารณ์ตรงๆโดยไม่เหมารวมลากเอากองทัพเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย เพราะจะไม่เป็นธรรมกับกองทัพโดยรวม แม้ ผบ.ทบ จะมีตำแหน่งเป็นเลขาธิการ คสช.โดยตำแหน่งก็ตาม” นายอดุลย์ กล่าว
ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา’35ฯ กล่าวอีกว่า หากย้อนไปในช่วงการร่างรัฐธรรมนูญ ฉบับนายมีชัย ฤชุพันธุ์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบัน คณะกรรมการญาติวีรชนฯ ได้เคยย้ำเตือน ว่าหากมีการเขียนเพื่อสนับสนุนการสืบทอดอำนาจของผู้ทำรัฐประหารก็จะนำมาซึ่งความยุ่งยากวุ่นวายเกิดขึ้นจึงได้ประกาศไม่เห็นชอบไม่ยอมรับรัฐธรรมนูญฉบับนี้ ซึ่งจะเห็นได้ว่าหลังเลือกตั้งทุกฝ่ายก็มองเห็นชัดว่าอาจจะนำมาซึ่งความขัดแย้งและไม่ยอมรับผลของการเลือกตั้งแล้วอาจเกิดสภาพของความจลาจลได้อีก ซึ่งญาติวีรชนฯก็ได้พยายามเรียกร้องให้ทุกฝ่ายได้ปรองดองสามัคคี รักใคร่ เกื้อกูลต่อกันตามพระราชดำรัสของพระเจ้าอยู่หัว และสามารถทำให้กองทัพได้กลับมาเป็นกองทัพของประชาชนอีกครั้งหนึ่ง
“จึงขอเรียกร้องให้ทุกพรรคการเมือง ทุกกลุ่มการเมืองและทุกฝ่าย ได้ดำเนินการทางการเมืองภายใต้ขอบเขตที่กฎหมายได้กำหนดไว้ ให้ตระหนักว่าความรุนแรงมีแต่ความสูญเสียไม่ได้ทำให้ทุกอย่างดีขึ้นสำหรับประเทศชาติและประชาชนเลยซึ่งมีบทเรียนให้เห็นมากแล้ว อย่างไรก็ตามหากเกิดเหตุการณ์สุดวิสัยกองทัพก็สามารถประกาศใช้กฎอัยการศึกควบคุมสถานการณ์ได้อย่าฉวยโอกาสยึดอำนาจล้มล้างรัฐธรรมนูญอีก เพราะเป็นเพียงการยับยั้งปัญหาเฉพาะหน้าแต่สร้างปัญหาระยะยาวยากจะเยียวยา และที่สำคัญทุกฝ่ายจะต้องไม่ทำลายบรรยากาศ ของประชาชนที่กำลังรอคอยความปลื้มปิติยินดีที่กำลังจะมาถึงด้วย” นายอดุลย์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี