“ติ่ง-มัลลิกา”เฮ!ศาลฎีกายืนยกฟ้องคดีหมิ่น“ปู-ยิ่งลักษณ์”ปมแถลงข่าว ว.5 โฟร์ซีซั่นส์ เจ้าตัวขอบคุณศาลให้ความเป็นธรรม เล็งฟ้องกลับแจ้งเท็จ แต่ขอปรึกษาทนายความก่อน
เมื่อเวลา 09.45น. วันที่ 1พฤศจิกายน ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลฎีกาได้อ่านคำพิพากษาคดีหมายเลขดำ อ.2493/2556ที่พนักงานอัยการ ฝ่ายคดีอาญา 8และน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เป็นโจทก์ร่วมกันยื่นฟ้องนางมัลลิกา บุญมีตระกูล มหาสุข อายุ 45ปี รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เป็นจำเลย ในความผิดฐานหมิ่นประมาทผู้อื่นด้วยการโฆษณา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 326, 328 จากกรณีการแถลงข่าว ว.5 โฟรซีซั่นส์
ตามฟ้องโจทก์ระบุว่าเมื่อระหว่างวันที่ 19 -20 ก.พ. 2555จำเลยได้แถลงข่าวหมิ่นประมาท น.ส.ยิ่งลักษณ์ นายกรัฐมนตรีขณะนั้นว่า มีพฤติการณ์และความประพฤติผิดจริยธรรม ทำให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์เสื่อมเสียชื่อเสียง โจทก์จึงขอให้ศาลพิพากษาลงโทษจำเลย ยึดทำลายเอกสารที่มีข้อความดังกล่าว และโฆษณาคำพิพากษาของศาลในหนังสือพิมพ์เป็นเวลา 7 วัน
คดีนี้ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 2556 ให้ยกฟ้อง เนื่องจากคำเบิกความของโจทก์และโจทก์ร่วมแตกต่างกันในเรื่องของห้องที่ใช้ในการประชุมที่โรงแรมโฟรซีซั่นส์และข้อความที่จำเลยแถลงข่าวนั้นก็ไม่ได้ชี้ชัดว่าเป็นการกล่าวหาโจทก์ร่วมในประเด็นเรื่องที่โจทก์ร่วมผิดจริยธรรมหรือไปเกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทับซ้อนอย่างไรบ้าง การแถลงข่าวของจำเลย จึงเป็นการติชมด้วยความสุจริตเป็นธรรม ไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท โจทก์ยื่นอุทธรณ์ขอให้ลงโทษจำเลย
กระทั่งวันที่14 ธ.ค.2559 ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาเห็นว่าโจทก์ร่วมไม่สามารถเปิดเผยเรื่องเกี่ยวกับการประชุมที่โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ได้ ขณะที่ในช่วงเวลาเดียวกันมีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่โจทก์ร่วมเป็นสมาชิกสภาฯย่อมมีหน้าที่โดยตรงต้องเข้าประชุมเนื่องจากเป็นการพิจารณากฎหมายซึ่งเป็นประโยชน์ของชาติ ย่อมเป็นเหตุให้จำเลยซึ่งมีหน้าที่ติดตามตรวจสอบการทำงานของโจทก์ร่วมและในฐานะประชาชนมีสิทธิ์ตั้งข้อสงสัยพฤติกรรมของโจทก์ร่วมได้ อีกทั้งการแสดงความเห็นของจำเลยเป็นลักษณะเชิงตั้งคำถามมากกว่ายืนยันข้อเท็จจริงและโจทก์ร่วมเป็นนายกรัฐมนตรีย่อมเป็นบุคคลที่ประชาชนสามารถตั้งข้อสงสัย ติดตามพฤติกรรมและแสดงความเห็นหรือวิพากษ์วิจารณ์ได้ด้วยความเป็นธรรม ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา329(3)
การกระทำ จึงไม่เป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องนั้น ศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย พิพากษายืนให้ยกฟ้อง น.ส.ยิ่งลักษณ์โจทก์ร่วมยื่นฎีกาขอให้ลงโทษจำเลยตามความผิดด้วย
โดย นางมัลลิกา จำเลยได้เดินทางมาศาล ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มพร้อมทนายความ
ศาลฎีกา ตรวจสำนวนประชุมปรึกษาหารือโดยรอบคอบแล้วเห็นว่า พฤติการณ์ของจำเลยเป็นการตรวจสอบการปฏิบัติหน้าที่ของโจทก์ร่วมโดยสุจริตชอบธรรม ที่ศาลล่างทั้งสองพิพากษายกฟ้องมานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย ฎีกาโจทก์ร่วมฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนยกฟ้อง ชั้นต้นกับศาลอุทธรณ์พิพากษามานั้น ศาลฎีกาเห็นพ้องด้วย พิพากษายืนยกฟ้อง
ภายหลังศาลฎีกามีคำพิพากษา นางมัลลิกา ให้สัมภาษณ์ว่า ขอขอบคุณศาลฎีกาที่ให้ความเป็นธรรมกับตนพิพากษายืนยกฟ้อง นับเป็นเรื่องที่น่ายินดีมาก คดีนี้เราต่อสู้มานาน ตั้งแต่ปี2555และก็พิสูจน์ให้เห็นว่าตนไม่มีความผิดฐานหมิ่นประมาท เพราะความจริงแล้วคดีนี้ พนักงานสอบสวนน่าจะมีความเห็นควรสั่งไม่ฟ้องตั้งแต่แรกแล้วส่วนจะมีการดำเนินคดีกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ฐานแจ้งเท็จและพนักงานสอบสวนหรือไม่นั้น ขอปรึกษากับทนายความก่อน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี