เรียกร้องยกเลิกข้อจำกัดสิทธิและเสรีภาพทางการเมืองเพื่อให้การเลือกตั้งเสรีและเป็นธรรม และการเปิดกว้างให้องค์กรต่างๆร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้ง รวมทั้งควรให้UNร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้ง
11 พ.ย.61 นายอนุสรณ์ ธรรมใจ รองประธานมูลนิธิปรีดี พนมยงค์ กล่าวว่า เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้มีความสำคัญมากต่ออนาคตของประเทศ ความสงบเรียบร้อยของสังคม คุณภาพชีวิตและการกินดีอยู่ดีหรือเศรษฐกิจของประชาชน พวกเราประชาชนชาวไทยจึงต้องร่วมกับองค์กรทั้งในประเทศและต่างประเทศเพื่อให้การเลือกตั้งครั้งนี้มีความหมาย เป็นการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม เป็นกลไกที่ให้ทุกฝ่ายยอมรับและสามารถแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่ผ่านมาได้โดยไม่ก่อให้เกิดวิกฤตการณ์ครั้งใหม่
ทั้งนี้ อุปสรรคและความยากลำบากของประเทศและประชาชนผู้รักประชาธิปไตย ก็คือ เรากำลังมีการเลือกตั้งภายใต้รัฐธรรมนูญที่ได้สร้างระบอบกึ่งเผด็จการกึ่งประชาธิปไตยขึ้นมาหลังการเลือกตั้ง และภายใต้บรรยากาศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย มีการจำกัดสิทธิเสรีภาพทางการเมือง มีการออกแบบระบบการเลือกตั้งที่บิดเบี้ยวและไม่มีที่ใดในโลกซึ่งจะทำให้เสถียรภาพของระบบการเมืองไทยมีปัญหาในอนาคต
อย่างไรก็ตาม การมีการเลือกตั้งภายใต้บรรยากาศที่ไม่เป็นประชาธิปไตย ย่อมดีกว่า การอยู่ภายใต้ระบอบรัฐประหาร ประชาชนผู้รักชาติรักประชาธิปไตยจึงต้องช่วยกันทำให้ "การเลือกตั้ง" ได้รับการยอมรับให้เป็นกติกากลางของการเข้าสู่อำนาจทางการเมือง ตราบใดที่การเมืองไทยยังไม่สามารถสร้างเงื่อนไขทุกฝ่ายยอมรับกติกาการเลือกตั้ง รัฐประหารจะเกิดอีกเมื่อไรก็ได้ แต่ถ้าการเลือกตั้งกลายเป็นกติกาหลัก ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นหรือฝ่ายใดขึ้นสู่อำนาจ ไม่ว่าจะมีความเชื่อหรืออุดมการณ์หรือผลประโยชน์แตกต่างหลากหลายกัน อย่างไรก็ตาม แต่ทุกคนอยู่บนกติกาอันเดียวกัน คือ ยอมรับผลการเลือกตั้งโดยมีเงื่อนไขว่า ต้องเป็นการเลือกตั้งเสรีและเป็นธรรม ความเสี่ยงในการเกิดรัฐประหารในอนาคตจะลดลงมาก และ สังคมไทยจะสามารถหลีกเลี่ยงวิกฤตการณ์ทางการเมืองที่รุนแรงได้ เมื่อประเทศมีประชาธิปไตยที่มั่นคงย่อมเป็นพื้นฐานของความรุ่งเรืองทางเศรษฐกิจและคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของประชาชน
นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า เพื่อให้การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นเป็นทางออกของประเทศ จึงมีข้อเรียกร้องดังต่อไปนี้
1.ขอเรียกร้องยกเลิกข้อจำกัดสิทธิและเสรีภาพทางการเมืองเพื่อให้เกิดบรรยากาศประชาธิปไตยก่อนการเลือกตั้ง และหยุดการดำเนินคดีกับผู้เรียกร้องประชาธิปไตยและการเลือกตั้ง ปลดล็อคทางการเมืองให้พรรคการเมืองต่างๆ ได้ชี้แจงนโยบายและรณรงค์การเลือกตั้งอย่างเต็มที่ เพื่อให้ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งสามารถใช้สิทธิเลือกตั้งอย่างมีคุณภาพ รวมทั้งเปิดโอกาสให้ประชาชนได้สะท้อนปัญหาและความคิดเห็นเพื่อพรรคการเมืองสามารถรวบรวมข้อมูลเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหา โดยกลไกการบริหารประเทศภายใต้ระบอบประชาธิปไตยในอนาคต
2.การเปิดกว้างให้องค์กรต่างๆ ร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้ง รวมทั้งควรให้องค์กรสหประชาชาติหรือ UN ร่วมสังเกตการณ์การเลือกตั้ง เพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อผลการเลือกตั้ง และจะเป็นผลดีอย่างยิ่งต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนและเศรษฐกิจของประเทศ การแสดงเจตจำนงของสหภาพยุโรปหรืออียูในการส่งคณะสังเกตการณ์การเลือกตั้งมาไทยเป็นเรื่องที่น่ายินดีและแสดงให้เห็นว่า อียูให้ความสำคัญต่อความเป็นประชาธิปไตยในไทยและการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ประเทศไทยอยู่ในระยะเปลี่ยนผ่านจากระบอบรัฐประหารไปสู่ระบอบกึ่งประชาธิปไตย กกต.และ รัฐบาล คสช.ควรเปิดกว้างและต้อนรับคณะสังเกตการณ์เลือกตั้งจากอียู เพื่อให้เกิดความมั่นใจต่อกระบวนการเลือกตั้งในไทย
3.คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ "กกต" ควรขอให้คณะรักษาความสงบเรียบร้องแห่งชาติ หรือ "คสช." ยกเลิกรายการเดินหน้าประเทศไทย (ผ่านทางโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจ) เพื่อเปิดโอกาสให้พรรคการเมืองต่างๆได้ใช้เวทีดังกล่าวในการชี้แจงนโยบายและสื่อสารกับประชาชน เพื่อให้การเลือกตั้งมีความหมายและสะท้อนเจตนารมณ์ของประชาชนได้อย่างเต็มที่
4.รัฐบาล คสช. , กกต และองค์กรอิสระทั้งหลายที่ได้รับการแต่งตั้งโดย คสช.ต้องยึดถือปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนได้ถือกำเนิดขึ้นเพื่อประกันสิทธิและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของปัจเจกชนทั่วทุกแห่งทั่วโลกไม่ว่าจะปกครองด้วยระบอบไหน โดยสิทธิมนุษยชนต้องครอบคลุมสิทธิพื้นฐาน 5 ประเภท คือ สิทธิพลเมือง (Civil Right) สิทธิทางการเมือง (Political Right) สิทธิทางสังคม (Social Right) สิทธิทางเศรษฐกิจ (Economic Right) สิทธิทางวัฒนธรรมและศาสนา (Cultural Right) มนุษย์ทั้งหลายรวมทั้งชาวไทยทุกคนนั้นเกิดมามีอิสระและเสมอภาคกันในเกียรติศักดิ์และสิทธิ ต่างมีเหตุผลและมโนธรรม และควรปฏิบัติต่อกันด้วยเจตนารมณ์แห่งภราดรภาพ ทุกคนย่อมมีสิทธิและอิสรภาพบรรดาที่กำหนดไว้ในปฏิญญานี้ โดยปราศจากความแตกต่างไม่ว่าชนิดใดๆ ดังเช่น เชื้อชาติ ผิว เพศ ภาษา ศาสนา การคิดเห็นทางการเมืองหรือทางอื่น เผ่าพันธุ์แห่งชาติ หรือสังคม ทรัพย์สิน กำเนิด หรือสถานะอื่นๆ
5.ภายใต้รัฐธรรมนูญ 2560 ที่ได้วางกติกาและกลไกจำนวนมากเอาไว้เพื่อควบคุมรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง สิทธิเสรีภาพที่ถูกลดทอนอย่างมีนัยสำคัญ พลังการเมืองประชาธิปไตยต่างๆถูกกดปราบภายใต้คำสั่ง คสช.ทุกคนอันหมายถึงคนไทยทุกคนมีสิทธิในการดำรงชีวิต เสรีภาพ และความมั่นคงแห่งตัวตน บุคคลใดๆ จะถูกทรมาน หรือได้รับผลปฏิบัติ หรือการลงโทษที่โหดร้ายผิดมนุษยธรรมหรือต่ำช้าไม่ได้ ทุกคนย่อมเสมอกันตามกฎหมายและมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองของกฎหมายเท่าเทียมกัน โดยปราศจากการเลือกปฏิบัติใดๆ ทุกคนมีสิทธิที่จะได้รับความคุ้มครองเท่าเทียมกันจากการเลือกปฏิบัติใดๆ อันเป็นการล่วงละเมิดปฏิญญา และจากการยุยงให้เลือกปฏิบัติดังกล่าว บุคคลใดจะถูกจับกุม กักขัง หรือเนรเทศไปต่างถิ่นโดยพละการไม่ได้ ทุกคนมีสิทธิโดยเสมอภาคเต็มที่ในอันที่จะได้รับการพิจารณาที่เป็นธรรมและเปิดเผย จากศาลที่อิสระและเที่ยงธรรมในการกำหนดสิทธิและหน้าที่ของตนและการกระทำผิดอาชญาใดๆ ที่ตนถูกกล่าวหา
6.ทุกคนมีสิทธิที่จะมีส่วนในรัฐบาลของประเทศตน จะเป็นโดยตรงหรือโดยการผ่านทางผู้แทนซึ่งได้เลือกตั้งโดยอิสระ เจตจำนงของประชาชนจะต้องเป็นมูลฐานแห่งอำนาจของรัฐบาล เจตจำนงนี้จะต้องแสดงออกทางการเลือกตั้งตามกำหนดเวลา และอย่างแท้จริง ซึ่งอาศัยการออกเสียงกันอย่างทั่วไปและเสมอภาค และการลงคะแนนลับ หรือวิธีการลงคะแนนโดยอิสระ ประชาธิปไตย สิทธิมนุษยชน การเลือกตั้ง ความเป็นธรรม ภราดรภาพ สันติภาพ การปฏิรูปประเทศ การต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น ความรุ่งเรืองก้าวหน้าทางเศรษฐกิจ คุณภาพชีวิตของประชาชน ปัจจัยทั้งหมดนี้จะส่งเสริมซึ่งกันและกัน ต้องพัฒนาร่วมกันไปโดยไม่อาจขาดสิ่งใดสิ่งหนึ่ง
7."ประชาธิปไตย" มีลักษณะเป็นองค์รวมไม่แยกส่วน ประชาธิปไตยสมบูรณ์จึงประกอบไปด้วย ประชาธิปไตยทางการเมืองการปกครอง ประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ และ ประชาธิปไตยทางวัฒนธรรม การพัฒนาให้เกิดประชาธิปไตยสมบูรณ์ตามแนวคิดต้องพัฒนาประชาธิปไตยแบบบูรณาการจะพัฒนาเพียงส่วนใดส่วนหนึ่งไม่ได้เช่นเดียวกับการจะปฏิรูป ประเทศของเราจะมีสิทธิเสรีภาพ มีสิทธิมนุษยชน และประชาธิปไตย อำนาจของประชาชนในการกำหนดรัฐบาลและการเลือกตั้งจะต้องกลับคืนมาตามกำหนดเวลาซึ่งถูกเลื่อนมาหลายครั้งแล้ว หลังการเลือกตั้งแล้ว สังคมไทยต้องผลักดันแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญใหม่เพื่อเปลี่ยนผ่านให้เป็นประชาธิปไตยที่ดีขึ้นกว่าเดิม (Transition to better Democracy) ไม่ใช่เปลี่ยนผ่านสู่ระบอบที่ไม่เป็นประชาธิปไตย (Transition to Non-Democracy)
8.ต้องทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นเครื่องมือในการหยุดยั้งการสืบทอดอำนาจของระบอบอำนาจนิยมและเปลี่ยนผ่านสู่ระบอบประชาธิปไตย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี