12 พ.ย.61 นายเดชรัต สุขกำเนิด อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เขียนบทความ “พรรคกรีนสำคัญอย่างไรสำหรับสังคมไทย” เผยแพร่บนเฟซบุ๊กส่วนตัว "Decharut Sukkumnoed" โดยระบุว่า ปัญหาความเหลื่อมล้ำด้านทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องสำคัญมากในสังคมไทย เพราะส่งผลต่อความเหลื่อมล้ำในด้านอื่นๆ ด้วย การเกิดขึ้นของพรรคกรีนที่แสดงจุดยืนว่าจะแก้ไขเรื่องนี้จึงมีความสำคัญกับสังคมไทย แต่ก็เป็นความท้าทายเช่นกันเนื่องจากพรรคการเมืองลักษณะนี้ในหลายประเทศไม่ใช่พรรคขนาดใหญ่ ดังนั้นจะแสวงหาความร่วมมือกับฝ่ายอื่นๆ ในสังคมเพื่อนำไปสู่การผลักดันนโยบายอย่างไร ดังนี้
พรรคกรีนสำคัญอย่างไรสำหรับสังคมไทย..พรรคกรีนเป็นพรรคหนึ่งที่ผมสนับสนุน และเนื่องจากวันพรุ่งนี้ ผมต้องไปร่วมบรรยายเรื่องพรรคกรีนในประเทศไทย ที่ธรรมศาสตร์ ผมจึงเตรียมความคิดของผมไว้ล่วงหน้าผมคิดว่า พรรคกรีนมีความสำคัญสำหรับสังคมไทยใน 3 มิติด้วยกัน
หนึ่ง มิติด้านความเหลื่อมล้ำ..ความเหลื่อมล้ำทางทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเป็นความเหลื่อมล้ำที่สำคัญมากในสังคมไทย เพราะความเหลื่อมล้ำในด้านนี้ได้ส่งผลเสียต่อการพัฒนาที่ยั่งยืนที่ตามมาในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นการเข้าถึงที่ดิน การออกแบบและวางผังเมือง มลพิษและผลกระทบทางสุขภาพ ความยากจน และการสูญเสียความมั่นคงทางอาหาร เป็นต้น นอกจากนั้น ความเหลื่อมล้ำทางทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมยังเกี่ยวพันกับความเหลื่อมล้ำเชิงโครงสร้างในมิติอื่นๆ ของสังคมไทยอีกด้วย
เพราะฉะนั้น การต่อสู้เรื่องความเหลื่อมล้ำทางทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจึงมีความสำคัญมาก เพราะนอกจากจะมีความสำคัญในการแก้ไขปัญหาเชิงโครงสร้างในสังคมไทยแล้ว การต่อสู้ในเรื่องสิ่งแวดล้อมยังมีพลังในการสื่อสารให้ผู้คนได้หันมาสนใจและแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสิ่งแวดล้อม (เช่น เรื่องหมู่บ้านป่าแหว่ง เรื่องการปลูกข้าวโพดในพื้นที่สูง การสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหิน เป็นต้น) และความเหลื่อมล้ำด้านอื่นๆ ในสังคมไทย เพราะความเหลื่อมล้ำทางสิ่งแวดล้อมมักจะส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตผู้คนอย่างค่อนข้างรุนแรง และเป็นวงกว้าง
การจัดตั้งพรรคกรีนจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อการขับเคลื่อนแนวทางการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมไทย เพียงแต่พรรคกรีนจะต้องไม่จำกัดการสื่อสารและการต่อสู้เป็นเพียงเรื่องเฉพาะกรณี หรือเรื่องเฉพาะสิ่งแวดล้อมและทรัพยากร แต่ต้องสามารถอธิบายเชื่อมโยงกับความเหลื่อมล้ำในมิติอื่นๆ และพร้อมต่อสู้ไปกับเพื่อนพี่น้องที่เคลื่อนไหวในเรื่องอื่นๆ ด้วย
สอง มิติด้านคุณภาพชีวิต..นอกเหนือจากความไม่สมดุลระหว่างคนรวยกับคนจน ระหว่างผู้มีอำนาจและผู้ไม่มีอำนาจแล้ว ความไม่สมดุลระหว่างมิติการพัฒนาทางเศรษฐกิจ กับมิติการพัฒนาด้านอื่นๆ ยังเป็นปัญหาสำคัญในสังคมไทย ซึ่งส่งผลเสียต่อคุณภาพชีวิตของผู้คนจำนวนมาก โดยเฉพาะคนจนและชนชั้นกลางในสังคมไทย แต่ในระยะหลัง สังคมไทยเริ่มให้ความสำคัญกับคุณภาพชีวิตมากขึ้น
โดยเฉพาะคุณภาพชีวิตที่เกี่ยวพันกับสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็นกระแสการอนุรักษ์ต้นไม้ การสร้างสรรค์พื้นที่สีเขียวในเมือง การพัฒนาเกษตรอินทรีย์และสินค้าที่เป็นมิตรต่อสุขภาพ หรือแม้กระทั่งการสร้างความมั่นคงในชีวิตผ่านธนาคารต้นไม้ และอื่นๆ เริ่มรวมตัวกันอย่างมีพลัง เป็นกลุ่มย่อยๆ ในแต่ละพื้นที่ (หรือแต่ละเมือง) และเริ่มสร้างเครือข่ายกันแบบหลวมๆ เพื่อที่จะนำพาไปสู่ความเปลี่ยนแปลงที่กว้างขวางขึ้นกว่าเดิม
พรรคกรีนจึงมีศักยภาพและมีความสำคัญอย่างมากในการเชื่อมพลังของกลุ่มต่างๆ ที่กำลังผลักดันการพัฒนาที่สมดุลในทุกมิติของการพัฒนาคุณภาพชีวิต (อย่างน้อยในแง่มุมของสิ่งแวดล้อม) เข้าด้วยกัน และนำไปสู่ความเปลี่ยนแปลงเชิงนโยบายและทางการเมืองในอนาคต แต่นั่นก็หมายความว่า พรรคกรีนจะต้องมีทีมงานมาจากกลุ่มต่างๆ หรืออย่างน้อยก็ต้องสร้างเครือข่ายและนโยบายจากกลุ่มต่างๆ ให้มากที่สุด
สาม มิติแห่งอนาคต..ความน่าสนใจของประเด็นทางสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรคือ การตัดสินใจที่สมดุลระหว่างการใช้ทรัพยากรในวันนี้ กับการรักษาและสร้างสรรค์ทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมเพื่ออนาคต ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ การพัฒนาพลังงานหมุนเวียน การอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล หรือแม้กระทั่งธนาคารต้นไม้ ก็เป็นเรื่องที่จะต้องตัดสินใจลงทุนเพื่ออนาคตทั้งสิ้น แต่ที่ผ่านมา พื้นที่ทางการเมืองสำหรับคนรุ่นใหม่ ยังมีน้อยมาก แม้กระทั่งเรื่องสิ่งแวดล้อมหรือการพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งเป็นเรื่องอนาคตของคนรุ่นใหม่โดยตรง
พื้นที่การเมืองสำหรับคนรุ่นใหม่จึงเป็นโอกาสที่สำคัญมากสำหรับการเปลี่ยนแปลงเรื่องการเมืองทางสิ่งแวดล้อม เพราะคนรุ่นใหม่จะเป็นผู้ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการลงทุนเพื่ออนาคต หากคนรุ่นใหม่เข้าร่วมการต่อรองเรื่องการจัดสรรทรัพยากรดังกล่าวโดยตรง การเมืองเรื่องสิ่งแวดล้อมในประเทศไทยจะเปลี่ยนไปแน่นอน อย่างไรก็ดี การเปิดพื้นที่สำหรับคนรุ่นใหม่ ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะคนรุ่นใหม่มีวิธีคิด วิถีชีวิต และวิถีการแสดงออกที่เป็นของตนเอง ดังนั้น หากพรรคกรีนสามารถเปิดพื้นที่ ค้นหาและออกแบบกลไกและกระบวนการที่คนรุ่นใหม่จะเข้ามามีส่วนสำคัญในวิถีของตนเอง จะมีผลให้พรรคกรีนและการเมืองไทยเปลี่ยนแปลงไปแน่นอน
เนื่องจากพรรคกรีนในประเทศไทยและอีกหลายประเทศคงไม่ใช่พรรคการเมืองขาดใหญ่ ดังนั้น ความสามารถในการผลักดันนโยบาย และการชักชวนให้เกิดฉันทามติกับพรรคการเมืองอื่นๆ และกลุ่มพลังอื่นๆ ในสังคม ในการผลักดันนโยบายทางสิ่งแวดล้อม จึงมีความสำคัญมากสำหรับพรรคกรีน โดยเฉพาะในสภาพการเมืองที่น่าจะเกิดรัฐบาลหลายพรรคในอนาคตหลังการเลือกตั้ง ซึ่งพรรคกรีนก็คงจะต้องเริ่มกระบวนการสร้างฉันทามติตั้งแต่ในช่วงเวลาของการหาเสียงเลือกตั้ง
สุดท้าย ผมมีความเชื่อมั่นว่า พรรคกรีนจะสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับการเมืองไทย และสิ่งแวดล้อมของไทย แน่นอน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี