13 พ.ย.61 นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษากลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวในรายการ "เหลียวหลังแลไปข้างหน้าเพื่อประชาธิปไตย" ในหัวข้อ "อภิสิทธิ์" ชนะจริงหรือ?
โดย นางธิดา กล่าวว่า เป็นที่น่าสนใจว่าผลการเลือกตั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งปรากฎว่า นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ชนะโหวตภายในและได้เป็นหัวหน้าพรรค นางธิดา จึงตั้งคำถามว่า นายอภิสิทธิ์ ชนะจริงหรือ? และผลการเลือกตั้งนี้บอกอะไรแก่เราบ้าง?
ผู้สื่อข่าวรายงานผลการประชุมใหญ่วิสามัญพรรคประชาธิปัตย์ที่โรงแรมมิราเคิล ปรากฎว่า นายอภิสิทธิ์ได้เป็นหัวหน้าพรรคเป็นสมัยที่ 4 หลังครองตำแหน่งมายาวนาน กว่า 13 ปีเศษ การท้าชิงของหมอวรงค์ที่หลายคนดูว่าทาบนายอภิสิทธิ์ไม่ได้ แต่ว่าทั้งหมอวรงค์และนายอภิสิทธิ์ต่างก็ไม่ใช่คนคนเดียว
นายอภิสิทธิ์เป็นตัวแทนของกลุ่มคนจำนวนหนึ่งในพรรคประชาธิปัตย์ที่ยังมีอิทธิพลแม้กระทั่งคนเก่าแก่
ส่วนหมอวรงค์ก็เป็นตัวแทนของคนจำนวนหนึ่งซึ่งอาจจะพูดได้ว่าอยากจะมีทิศทางการเมืองซึ่งอาจจะไม่เหมือนนายอภิสิทธิ์ซะทีเดียว อาจจะบอกได้ว่าเป็นตัวแทนของกลุ่มคนซึ่งอาจจะง่ายกว่าในการรวบรวมไปอยู่กับฟากที่ไม่เอาทักษิณแน่นอน แต่เอา คสช.แน่ๆ เพราะกระแสที่ออกมาล้มรัฐบาลที่แล้วและสนับสนุนการทำรัฐประหาร สนับสนุนการชัตดาวน์ก็คือสาย กปปส.นี่แหละ ผลคะแนนการเลือกตั้ง หมอวรงค์ได้ 5.7 หมื่น ขณะที่นายอภิสิทธิ์ได้ 6.7 หมื่น เฉือนกัน 1 หมื่นคะแนน ซึ่งบางสำนักข่าวก็ถือว่าคะแนนสูสี
นางธิดา กล่าวต่อไปว่า นายอภิสิทธิ์มีผู้เฒ่าทั้งหลายเป็นแบคหลังและถือเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของประชาธิปัตย์อย่างแท้จริง (พรรคแนวอนุรักษ์นิยม) ดังนั้นการโหวตเลือกหัวหน้าพรรคครั้งนี้อย่างไรเสียหมอวรงค์ก็แพ้ แต่แพ้เพียง 1 หมื่นเสียง ซึ่งผิดคาดเพราะ นางธิดา คิดว่านายอภิสิทธิจะชนะถล่มทลาย
นางธิดา วิเคราะห์การโหวตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ครั้งนี้ นายอภิสิทธิ์ต้องการสร้างความชอบธรรมตัวเองว่าตนเป็นหัวหน้าพรรคไม่ใช่เพราะนายชวนหนุน ตนชนะการโหวตจากสมาชิกพรรค แต่เมื่อคะแนนสูสีก็ชี้ให้เห็นว่าคนที่ต้องการให้พรรคประชาธิปัตย์ไม่ได้อยู่ในอิทธิพลของนายชวนหรือนายบัญญัติมีจำนวนมากทีเดียว!!!
แปลว่า "สาย กปปส." ก็หนาขึ้นมาก ซึ่ง นางธิดาเคยพูดว่าในที่สุดนายอภิสิทธิ์จะชนะ แต่ต้องเดินตามแนวทาง กปปส.นอกจากปัญหาแนวทางแล้ว ปัญหาที่สองก็คือถ้าผลการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่สามารถได้ชัยชนะถล่มทลายก็เป็นไปได้ว่าที่นายอภิสิทธิ์ก็ไม่ควรจะอยู่ต่อ แปลว่าธรรมเนียมเดิมที่หนุนหลังโดยผู้เฒ่าก็ต้องเปลี่ยน
ผลคะแนนที่เลือกหมอวรงค์นั้นทำให้หมอวรงค์โดดเด่นขึ้นมา แนวทาง กปปส.ก็โดดเด่น เห็นได้ชัดจากรายชื่อกรรมการบริหารพรรคที่มีสายกปปส.เข้ามาจำนวนมาก ดังนั้นการใช้การโหวตเลือกหัวหน้าก็อาจทำลายวิธีการแบบเดิมที่มีผู้เฒ่าสนับสนุน จะมองว่าประชาธิปัตย์จะเข้าสู่โหมดที่ต้องการลดอิทธิพลผู้เฒ่าเช่นนายชวน , นายบัญญัติ
จะว่าไปแล้วนายสุเทพ เทือกสุบรรณในช่วงที่เป็นเลขาธิการพรรคฯ ต้องถือว่าเป็นบุคคลสำคัญในการทำให้ประชาธิปัตย์ได้มาเป็นรัฐบาลในปี 53 จนกระทั่งต้องออกจากพรรคไป แต่ปรากฎว่านายสุเทพออกไปแล้ว แต่ "ไข่" ยังอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์เต็มไปหมด ยังมีเชื้อพันธุ์อยู่ในประชาธิปัตย์
แต่การเลือกตั้งทั่วไปที่จะมีขึ้นนี้ นางธิดาเชื่อว่าพรรคประชาธิปัตย์อย่างต่ำก็ต้องได้ 100 เสียง และ "ผู้เฒ่า" พรรคประชาธิปัตย์เขาก็ยังสู้ ขณะนี้นายสุเทพ เทือกสุบรรณก็ได้วางไข่เอาไว้ในพรรคประชาธิปัตย์เป็นจำนวนมาก ฉะนั้นโอกาสพรรคประชาธิปัตย์ที่จะได้ร่วมกับรัฐบาล คสช.ก็มีและเป็นไปได้สูง
สุดท้าย นางธิดา ในฐานะฝ่ายประชาธิปไตยเชื่อว่าฝ่ายประชาธิปไตยก็จะถล่มทลาย ฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้น่าดูมาก ถ้ามี (ย้ำว่า "ถ้ามี") เพราะจะมีการต่อสู้ทั้งในเชิงการเมือง เชิงกฎหมาย และเชิงความชอบธรรมสูงมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี