สนช.ยันเจตนารมณ์ร่างแก้ไขพ.ร.บ.มวย ไม่ได้กีดกันเด็กชกมวย หวังพัฒนาเป็นระบบเพื่อความยั่งยืน
ที่รัฐสภา นายตวง อันทะไชย ประธานคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงความคืบหน้าการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กีฬามวย ฉบับปรับปรุงแก้ไข พ.ร.บ.มวย พ.ศ.2542 ว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) จะส่งกลับมายัง สนช.ภายในวันที่ 18 พ.ย.นี้ ซึ่งขึ้นอยู่กับ ครม.ว่าจะแก้ไขอะไรเพิ่มเติมหรือไม่ และเมื่อเข้าสภาแล้วก็ยังปรับปรุงเปลี่ยนแปลงได้ ในส่วนของ กมธ.ยังเห็นในหลักการว่าต้องยกระดับกีฬามวยไทย ให้เด็กได้เรียนรู้อย่างเป็นกระบวนการในการฝึกฝน และพัฒนาทักษะ พร้อมกับการใช้วิทยาศาสตร์การกีฬาเข้ามาช่วย
ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ ไม่ได้ต้องการขัดขวางการพัฒนากีฬามวยไทย อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันพบว่ามีมวยเด็กกว่าแสนคน แต่ขึ้นทะเบียนไม่ถึงหนึ่งหมื่นคน ซึ่งสาเหตุที่ให้มีการขึ้นทะเบียนก็เพื่อประโยชน์ของนักมวยเอง เพราะเรามีกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ซึ่งพอขึ้นทะเบียนก็จะเข้าหลักเกณฑ์ที่จะได้รับการสนับสนุนจากกองทุนฯ
ด้าน พล.อ.อดุลยเดช อินทะพงษ์ สมาชิก สนช.ในฐานะประธานคณะทำงานปรับปรุงร่าง พ.ร.บ.กีฬามวย พ.ศ.2542 กล่าวว่า ใน พ.ร.บ.กีฬามวย ฉบับปรับปรุงแก้ไข ระบุว่า ในการแข่งขันกีฬามวยอาชีพ ห้ามมิให้ผู้จัดรายการแข่งขันกีฬามวย และนายสนามมวยอนุญาตให้ เด็กมีอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าร่วมแข่งขัน และการอนุญาตต้องได้รับความเห็นชอบจากนายทะเบียน แต่เด็กนั้นต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 12 ปี และการจัดการแข่งขันต้องมีเครื่องป้องกันอันตรายและกฎกติกาที่เหมาะสม
"ไม่ได้เป็นการกีดกันให้เด็กชกมวยแต่อย่างใด เพียงแต่เป็นเรื่องของการฝึกฝนให้มีคุณภาพ ให้เข้าใจแม่ไม้มวยไทยชัดเจนขึ้น เราไม่ได้นิ่งนอนใจในปัญหาที่เกิดขึ้น โดยกำลังคุยกับการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ว่าจะดูแลเด็กอย่างไร พร้อมกับรักษาศิลปวัฒนธรรมได้ด้วย" พล.อ.อดุลยเดช กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี