17 พ.ย.61 เมื่อวานนี้ (16 พ.ย.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวกับประชาชนผ่านรายการ "ศาสตร์พระราชา สู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน" ทางสถานีโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย โดยในช่วงท้าย นายกฯ ได้ตอบคำถาม "5 ประเด็น" ที่ประชาชนได้ร่วมกันโหวตว่า อยากฟัง "หลักคิด - นโยบาย" จากตนมากที่สุด ดังนี้
1.ทำอย่างไรถึงจะแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบได้จริง การเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนกู้ในระบบ และมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยต่างๆ ซึ่งหลายอย่างรัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว ทั้งมาตรการทางภาษี มาตรการอำนวยความยุติธรรม รวมทั้งผลักดันกฎหมายสำคัญๆ เช่น
กฎหมายขายฝาก ที่ช่วยปลดล็อคสัญญาเอารัดเอาเปรียบของนายทุน ผู้มีอิทธิพล การไกล่เกลี่ยประนอมหนี้ โดยให้เป็นไปตามกฎหมายบ้านเมืองที่ยึดทั้งหลักนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ เพื่อคืนความเป็นธรรมให้กับผู้มีรายได้น้อย
กฎหมายธนาคารชุมชน ยกระดับสถาบันการเงินในชุมชนให้มีฐานะเป็นนิติบุคคล เพื่อเปิดโอกาสในการเข้าถึงแหล่งทุนได้ง่ายและทั่วถึง เป็นกลไกในการสร้างความเข้มเเข็งจากฐานราก ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม กฎหมายฉบับนี้ ถือเป็นการปฏิรูปครั้งสำคัญในเรื่องการเงินระดับชุมชน-หมู่บ้าน โดยตั้งเป้าให้มีธนาคารชุมชนเข้าร่วมเป็นนิติบุคคล ราว 7,000 แห่ง จากทั้งหมด 30,000 แห่งทั่วประเทศ ซึ่งจะมียอดเงินฝากรวมถึง 2 แสนล้านบาท คาดว่าร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ จะผ่านความเห็นชอบจากสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ภายใต้รัฐบาลชุดนี้ อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาความยากจนให้ยั่งยืนนั้น สิ่งสำคัญคือ "ตนเอง" ที่ต้องยึดแนวทาง "วิถีพอเพียง" ที่จะเป็น “ภูมิคุ้มกัน” ให้ปราศจากหนี้สิน
กองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.) เพื่อปลูกฝังวินัยการออมและสนับสนุนให้ประชาชนทำบัญชีครัวเรือน เพื่อกำหนดแนวทาง "ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้" ให้กับแต่ละครัวเรือน ทั้งนี้ มาตรการ กฎหมายและแนวทางที่รัฐบาลนี้ได้วางรากฐานเอาไว้ จะช่วยให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยสามารถยกระดับคุณภาพชีวิตของตนด้วยตนเอง
2.อยากให้บังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด - เด็ดขาด เพื่อขจัดคนชั่ว ให้หมดไปจากบ้านเมือง การปลูกจิตสำนึก ความรับผิดชอบ และรู้จักเสียสละเพื่อส่วนรวม ซึ่งเป็นความตั้งใจแรกเริ่มที่เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน "เราทุกคน" สามารถเป็นหู เป็นตา เสริมกลไกการทำงานภาครัฐ ปิดประตูโอกาสในการกระทำความผิด ทั้งนี้ การปกครองบ้านเมืองนั้น ไม่เพียงปราบปราบผู้กระทำผิด แต่ควรส่งเสริมให้ทุกคนมีคุณธรรมจริยธรรมด้วย เพราะการเปลี่ยนคนไม่ดีนั้นให้เป็นคนดี นอกจากจะลดคนไม่ดีแล้ว ยังสามารถเพิ่มคนดีให้กับสังคมได้ในเวลาเดียวกัน
นายกฯ กล่าวถึงศาสตร์พระราชาของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้สร้างกลไกพื้นฐาน คือ "บวร" (บ้าน - วัด - โรงเรียน) ที่จะช่วยซึมซับคุณธรรม ความดีในจิตใจคนไทย ตั้งแต่ยังเป็นเด็ก ตั้งแต่ที่บ้าน ปัจจุบันเรามีวัด มีโรงเรียน "ประจำชุมชน" หากสามารถเชื่อมโยงเข้าสู่วิถีชีวิตของคนในชุมชน มีกิจกรรมร่วมกันบ่อยครั้งขึ้น เชื่อว่า "กลไกบวร" ก็จะช่วยสร้าง "พลเมืองดี" ของประเทศได้ และเราทุกคนก็จะอยู่ร่วมกันอย่างสงบสุข
3.อยากให้เน้นเรื่องสิ่งแวดล้อม เช่น ป่าและทะเลให้มากๆ ถ้าเป็นไปได้ขยายพื้นที่ป่าให้มี 50% ของประเทศ การส่งเสริมอาชีพประมงถูกกฎหมาย เพื่อความยั่งยืนของท้องทะเล สนับสนุนเกษตรอินทรีย์ และการเกษตรที่ใช้พื้นที่น้อย แต่มีคุณภาพ ประเด็นนี้น่าจะมาจากกลุ่มนักอนุรักษ์ ที่มีแนวความคิดที่ตรงกับรัฐบาล จะต้องเป็น "การพัฒนาที่สมดุล เพื่อความยั่งยืน" โดยรัฐบาลตอบสนองวาระของโลก ในการเอาจริงเอาจริงกับการบริหารจัดการขยะ และส่งเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มจากขยะโดยเปลี่ยนให้เป็นพลังงาน หยุดยั้งขบวนการบุกรุก ทวงคืนผืนป่า แก้ไขกฎหมาย สร้างบรรยากาศการทำประมงที่สอดคล้องกับกติกาสากล ไม่ทำร้ายธรรมชาติ ไม่ทำลายระบบนิเวศน์ และฟื้นฟูท้องทะเลไทย รวมทั้งการตัดวงจรการใช้แรงงานทาส - การค้ามนุษย์ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมการประมง ที่ปล่อยปละละเลยมานาน
สำหรับด้านการเกษตรนั้น ประเทศไทยสามารถเป็น "ครัวโลก" ได้ด้วยความเป็นอู่ข้าว อู่น้ำ ที่มีความสมบูรณ์ทั้งเรื่องดินและน้ำ เพียงแต่ต้องมีการบริหารจัดการอย่างเป็นระบบและบูรณาการการทำงานภายใต้ยุทธศาสตร์เดียวกัน เช่น นโยบาย "ตลาดนำการผลิต" รวมทั้งเรื่องเกษตรอินทรีย์ที่ดูแลตั้งแต่ต้นทาง กลางทาง ปลายทาง ตั้งแต่แหล่งผลิต ขั้นตอนการแปรรูป การขนส่ง ไปจนถึงการหาตลาดภายในและภายนอกประเทศ เกษตรกรต้องมีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตน กล้าหันมาปลูกเกษตรอินทรีย์ที่มีตลาดชัดเจนและมีมูลค่าสูง
4.อยากจะให้ช่วยแก้ปัญหายาเสพติดและมีบทลงโทษหนักขึ้น การแก้ปัญหาอาชญากรขอให้มีกระบวนการขั้นตอนที่เด็ดขาด และเข้มงวดให้เหมือน 10 20 30 ปีที่แล้วแนวทางแก้ปัญหาจาก "รากเหง้า" ของปัญหา คือ เรื่องปาก ท้อง และความอบอุ่นในครอบครัว ดังนั้น จึงต้องแก้ที่ต้นตอของปัญหา ทำให้ทุกครัวเรือนของไทย "อยู่ดี มีสุข" รายได้พอเลี้ยงครอบครัว มีการศึกษาที่ดี จึงเป็นที่มาของนโยบายต่างๆ เพื่อผู้มีรายได้น้อย อาทิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ การขจัดหนี้นอกระบบ เป็นต้น รวมถึงการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งการลงโทษที่เด็ดขาดรุนแรงเป็นเพียงมาตรการ "ปลายเหตุ" ไม่ใช้การป้องกันแต่เป็นการแก้ไข
และ 5.ประชาชนอยากทราบว่า ผมมีแนวความคิดอย่างไร ในการแก้ปัญหาระบบการศึกษาของไทย หลักการสำคัญ คือ (1) เราเรียนเพื่อประกอบอาชีพ และเพื่อการดำรงชีวิตในสังคมได้ (2) การเรียนในวันนี้ เพื่อใช้งานในวันหน้า (3) การปฏิรูปการศึกษา ก็เหมือนกับการปฏิรูปด้านอื่นๆ ที่ต้องมองตั้งแต่ต้นทาง - ไปจนถึงปลายทาง (4) การศึกษาต้องไม่เพียงสร้าง "คนเก่ง" แต่ต้องเป็น "คนดี" ด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี