‘พรรคมหาชน’เปิดรับสมัครสมาชิก ชูเพศทางเลือก-คนด้อยโอกาสเข้านั่งในสภา ผลักดันกม.สิทธิเท่าเทียม นักธุรกิจโซเชียล - เน็ตไอดอลตบเท้าสร้างสีสัน ด้าน ‘อภิรัต’ ลั่นหมดเวลานักการเมืองคร่ำครึ ศก.แย่ ปรองดองร้าวลึก ขอโอกาสสร้างสิ่งใหม่

23พ.ย.61 ที่โรงแรมแกรนด์ เมอร์เคียว บางกอก ฟอร์จูน พระราม 9 มีการแถลงเปิดรับสมัครสมาชิกพรรคมหาชน ที่มีนายอภิรัต ศิรินาวิน เป็นหัวหน้าพรรค โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก มีผู้ให้ความสนใจเข้าสมัครสมาชิกพรรค และมีการเปิดตัวคนรุ่นใหม่ที่เน้นเข้าถึงกลุ่มเพศทางเลือก หรือเพศที่สาม ได้แก่ ทอม กะเทย เกย์ เลสเบี้ยน อาทิ น.ส.กิจจาณัฐฏ์ ชัยยศบูรณะ หรือทอมพ่อพระ นักธุรกิจทอมที่โด่งดังในโลกโซเชียล นายนาดา ไชยจิตต์ กะเทยนักปกป้องสิทธิ และนักกิจกรรมทางสังคมนอกจาดนี้ยังมีกลุ่มเน็ต ไอดอล นักธุรกิจออนไลน์ และประชาชนจากหลากหลายสาขาอาชีพ ภายใต้สโลแกน เปลี่ยนให้ #คนไทยไม่เท่ากัน เป็น #ไทยที่เท่าเทียม

นายอภิรัต กล่าวว่า พรรคมหาชน เริ่มมาจากพรรคราษฎรก่อตั้งในปี2541 ต่อมาในปี2548 จึงเปลี่ยนชื่อเป็นพรรคมหาชน เราเคยมีพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ที่เป็นแกนนำก่อตั้งพรรค และเคยเป็นอดีตหัวหน้าพรรคในรุ่นแรกๆ ซึ่งท่านเสียชีวิตไปแล้ว แต่ตนเชื่อว่าท่านคงรับรู้ได้ว่าพรรคเราจะนำสิ่งใหม่ๆเข้ามา ขณะนี้เรายังไม่เป็นประชาธิปไตย100เปอร์เซ็นต์ เพราะที่ผ่านมาเกิดการปฏิวัติรัฐประหาร แต่เรากำลังจะมีการเลือกตั้งในช่วงเดือนก.พ.ปี62นี้ ซึ่งที่ผ่านมาเวลาเราเลือกตั้ง ก็มักจะได้นักการเมืองหน้าเดิมๆ กลุ่มเดิมๆ พวกเดิมๆเข้ามา ทำให้การปกครองถูกจำกัดด้วยคนเหล่านี้ ไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลง

“เราถูกครอบงำด้วยนักการเมืองรุ่นเก่าๆมานานถึงเวลาแล้วที่กลุ่มคนรุ่นใหม่ เพศทางเลือก เพศที่สาม กลุ่มชนชั้นแรงงาน กลุ่มคนด้อยโอกาสต่างๆที่อยู่ในระดับรากหญ้าไม่มีที่ยืนในสังคม จะทำการเมืองยุคใหม่ ดังนั้นพวกเราต้องช่วยกัน นำเสียงเหล่านี้เข้าสู่สภาให้ได้มากที่สุด เราต้องมีที่ยืน พรรคมหาชนจะเป็นเวทีให้ กลุ่มคนเหล่านี้ที่ถูกมองว่าเป็นชายขอบ ต้องนำมาอยู่ตรงกลางให้ได้” หัวหน้าพรรคมหาชนกล่าว

นายอภิรัต กล่าวด้วยว่า ขณะเดียวกันในเรื่องเศรษฐกิจก็กำลังอยู่ในช่วงที่แย่ลงๆ เราจะทำอย่างไรให้ผู้ที่มีรายได้น้อยมีชีวิตที่ดีขึ้น ส่วนเรื่องการปรองดองที่ผ่านมาถือว่าเลวร้าย ในปัจจุบันก็ไม่ได้ดีขึ้น กลับยิ่งแย่ลงๆทุกที กลายเป็นความขัดแย้งแบบซึมลึก เปรียบเสมือนกับการนั่งเงียบ แต่ไม่รู้ว่าในใจคิดอะไรอยู่ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญคือการผลักดันกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เช่น กฎหมายการจดทะเบียนสมรสที่ยังล้าหลังมาก รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิของเพศที่สาม คนด้อยโอกาสต่างๆ จึงจำเป็นต้องมีผู้แทนคนเหล่านี้เข้าไปทำงานในสภา

“เราต้องไม่ยอมให้ใครมาดูหมิ่น เหยียดหยาม เพราะทุกคนคือ1เสียงตามระบอบประชาธิปไตย คนที่ถูกดูถูกก็คือ 1 เสียง ก็ขอเชิญชวนทุกคนเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรค เรายินดีต้อนรับทุกคน” หัวหน้าพรรคมหาชน กล่าว