‘ลูกบุญทรง’เข้าซบพปชร.
แฉทั้งน้ำตา
พ่อติดคุกไร้คนเหลียวแล
ทั้งยังโดนทนาย‘ปู’พาดพิง
บอก‘โหดร้าย’ขอลงสู้แทน
‘อุตตม’ต้อนรับอย่างอบอุ่น
พร้อมกลุ่มหลาน‘ป๋าเหนาะ’
ลูกชาย บุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ในยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ เข้าซบ พปชร.แฉทั้งน้ำตา พ่อติดคุกคดีระบายข้าวจีทูจีไร้คนดูแล แถมโดน “ทนายปู”พาดพิงระบุมันโหดร้าย ตัดสินใจขอลุยการเมือง ในขณะที่“อุตตม–สนธิรัตน์” ต้อนรับอบอุ่นพร้อมกับหลานป๋าเหนาะ ที่มาร่วมงานการเมืองด้วย ด้าน “นายกฯ” ย้ำทุกอย่างเป็นไปตามโรดแมป ให้เตรียมตัวไปเลือกตั้ง
เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน ผู้สื่อข่าวรายงานความเคลื่อนไหวจากพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)บรรยากาศคึกคักกว่าทุกพรรค ตั้งแต่เช้า โดยมี
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค พร้อมคณะกรรมการบริหารพรรค ให้การต้อนรับการสมัคร เป็นสมาชิกพรรคอย่างอบอุ่น
เวลา11.30 น.นายฐานิสร์ เทียนทอง อดีต ส.ส.สระแก้ว หลานชาย นายเสนาะ เทียนทอง และนายกฤษณ สุนทรกิจพาณิชย์ ผอ.รร.เขาฉกรรจ์วิทยาคม สมัคร เป็นสมาชิกพรรค จากนั้น ร.อ.ดร.ธรรมนัส พรหมเผ่า ได้นำนักการเมืองท้องถิ่นจังหวัดลำปาง ประกอบด้วยนายดาชัย เอกปฐพี นายเดชทวี ศรีวิชัย ลำปาง และ น.ส.วนริสสา ทองประสิทธิ์ ได้มาสมัครเป็นสมาชิก พร้อมเสนอตัวเป็นผู้สมัคร ส.ส.ลำปาง ด้วย
จนกระทั่ง เวลา12.00 น.นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ แกนนำกลุ่มสามมิตรพร้อมนายอนุชา นาคาศัย กกบห.พรรคพลังประชารัฐได้นำกลุ่มอดีตส.ส.กำแพงเพชร5 คนคือนายไผ่ ลิกค์ หรือ ไผ่ วันพอยท์ ,พ.ต.ท.ไวพจน์ อาภรณ์รัตน์,นายปริญญา ฤกษ์หร่าย ,นายอนันต์ ผลอำนวยและนายสุรสิทธิ์ วงศ์วิทยานันท์ เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรค มีนายอุตตม และนายสนธิรัตน์ แกนนำพรรค มารอต้อนรับ โดยที่นาย วราเทพ รัตนากร อดีต รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อดีตแกนนำกลุ่ม 16ไม่ได้เดินทางมาร่วมกับอดีตส.ส.กำเพชรเพชร เพราะเกรงว่าจะมีปัญหา เพราะยังติดเรื่องคุณสมบัติห้ามเป็นสมาชิกพรรคการเมือง โดย นายสุริยะกล่าวว่าการที่อดีตส.ส.กำแพงเพชร มาสมัครที่พรรคนี้ รู้สึกยินดี เพราะต้องการให้ประเทศไทยก้าวพ้นความขัดแย้ง จึงลาออกจากพรรคเพื่อไทย
‘ไผ่ ลิกค์’ยอมรับจำใจทิ้งเพื่อไทย
ด้านนายไผ่ ลิกค์ อดีต ส.ส.กำแพงเพชร พรรคเพื่อไทย ซึ่งเป็นเพื่อนสนิท นายพานทองแท้ ชินวัตร ได้ยอมรับว่าตัดสินใจยาก ต้องคิดให้รอบคอบได้ปรึกษากับทีมงานแล้วและจนตกผลึก สาเหตุที่ตัดสินใจเพราะเราขัดแย้งกันมานาน จึงมองว่าพรรคจะต้องเอาข้ามความขัดแย้งไปได้ ส่วนการออกมาจากพรรคเพื่อไทย ถือว่าจากกันด้วยดี ไม่มีปัญหาหรือทะเลาะอะไรขอให้สบายใจได้ เมื่อมาอยู่พรรคนี้จะทำเต็มที่ซึ่งนโยบายของพรรคสามารถช่วยประชาชน จึงดูตรงนี้เป็นสำคัญ ยืนยันว่าการย้ายเข้าพรรคนี้ ไม่เกี่ยวกับเรื่องคดีเพราะไม่มีคดีความ ไม่มีการต่อรองใดๆและอดีต ส.ส.ตัดสินใจกันเองในกลุ่ม
ขณะที่ พ.ต.ท.ไวพจน์กล่าวว่า ที่มาพรรคนี้เพราะเชื่อมั่นว่าจะแก้ปัญหาขัดแย้งที่เกิดขึ้น ทำให้ประเทศเดินหน้าไปได้เพราะเรามองเป้าหมายสูงสุดคือความผาสุกของประชาชนกับประเทศชาติ จึงขออนุญาตพรรคเพื่อไทยย้ายมาอยู่ที่พรรคนี้ ส่วนที่ก่อนหน้านั้นประกาศตัวอยู่คนละขั้วกับพรรค พปชร.นั้น วันนี้พรรคพปชร.บอกชัดว่าจะแก้ปัญหาความขัดแย้งที่เกิดขึ้นให้ประเทศเดินได้ ขอย้ำอุดมการณ์ต่อต้านเผด็จการ ก็ยังเหมือนเดิม ยังอยู่ในเลือดทุกหยด ยอมรับว่าแนวร่วมบางส่วนยังมองว่าพรรคนี้เป็นการสืบทอดอำนาจเผด็จการขึ้นอยู่กับแนวความคิดแต่ละคน บางคนจะคิดอย่างนั้นก็ต้องขอโทษ แต่ต้องก้าวข้ามความขัดแย้ง เพื่อคนไทยทั้งประเทศ แต่ตนจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุดเพื่อประเทศและประชาชน
และยืนยันว่า เรายังมีอุดมการณ์เหมือนเดิม การมาพรรคนี้ ไม่เกี่ยวกับการโดนบีบและได้ปรึกษากันแล้วรวมทั้งปรึกษากับนายวราเทพก็ตอบกลับมาว่าแล้ว แต่ความคิดของแต่ละคน อดีตส.ส.5คนจึงปรึกษากันนานเพราะอยู่พรรคไทยรักไทย พลังประชาชน พรรคเพื่อไทย มานาน ผูกพันมาก ต้องขอบคุณพรรคเพื่อไทยที่ดูแลพวกผม และดูแลลูกๆมาอย่างดี ขอโทษจริงๆที่ต้องย้ายมาอยู่นี่ ต้องมาเพื่อร่วมกันทำงาน
‘ลูกชายบุญทรง’ซบ พปชร.
จากนั้น เวลา 12.40 น.นายเดชนัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ บุตรชายของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ ในสมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ขณะนี้ต้องโทษอยู่ในเรือนจำจากคดีทุจริตโครงการรับจำนำข้าวและการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี)ได้เดินทางเข้าสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีทั้งนายอุตตมและนายสนธิรัตน์ นายสุริยะ และนายอนุชา ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น พร้อมได้มอบเสื้อแจ็คเก็ตพรรคให้สวมใส่ ก่อนจะร่วมชูมือด้วยกัน
แฉทั้งน้ำตาคลอเหตุทิ้งพท.
โดยนายเดชณัฐวิทย์ให้เหตุผลการลาออกทิ้งจากพรรคเพื่อไทยว่า อย่างที่ทุกคนทราบและเห็นในข่าวได้ถูกโจมตีเสียๆหายๆจากฝั่งทนายของอดีตนายกฯตนมองว่าบทบาททางการเมืองของพ่อได้จบไปตั้งแต่วันที่ศาลตัดสินจำคุก ตลอดระยะเวลาที่ท่านติดคุก ไม่เคยมีข่าวว่าท่านออกมาเลย
“พอมาถึงเวลาที่ท่านเจ็บป่วย และได้รับการรักษา ก็ดันไปเอาข่าวท่านไปเชื่อมโยงกับคดีต่างๆนานา ซึ่งส่งผลกระทบต่อท่านที่ต้องรับการรักษาตัว ถึงขั้นมีการพูดว่ามีการดีลวงในหรือเปล่า ทำให้คนอื่นที่ได้รับข่าวไม่อยากมาช่วยและเป็นการมองว่าป่วยจริงหรือไม่ เพราะเอาไปผูกกับเรื่องการเมืองไปหมด”นายเดชณัฐวิทย์ พูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ มีน้ำตาคลอด้วย
และว่า เมื่อมีความไม่ไว้วางใจเกิดขึ้นภายในพรรคเพื่อไทยเอง เกรงว่าการเดินหน้าในทางการเมืองจะมีปัญหา ตนก็นั่งคิดอยู่นาน และตัดสินใจว่าถอยออกมาก้าวหนึ่งดีกว่า ที่ตนตัดสินใจลาออก ก็ยังไม่ได้คิดว่าจะเดินไปข้างหน้าไปทางไหน หรือ จะย้ายไปพรรคไหนต่อ จึงไปลาออกเพื่อความสบายใจของตัวเอง ของทางพรรคและของคุณพ่อ ทางพรรคเพื่อไทยจะได้เดินหน้าอย่างเต็มที่จะได้ไม่ต้องห่วงหน้า พะวงหลัง
‘มันโหดร้าย’ขอลุยการเมืองเอง
นายเดชณัฐวิทย์กล่าวว่าระหว่างที่ตนออกมา ก็ได้ปรึกษากับคุณพ่อว่าจะทำอย่างไรดีกับชีวิตการเมืองซึ่งจุดประสงค์ของตนและครอบครัวคือรักษาอาการป่วยของพ่อให้หายดี การที่คุณพ่อ เป็นอยู่ทุกวันนี้ คงไม่ต้องตอบ ก็คงทราบว่า เป็นเพราะอะไร ทุกวันนี้
“พอเราต้องการความช่วยเหลือ ดันมาขี่ซ้ำ ผมก็ถามพ่อว่าเราจะเอาอย่างไรกันดี ถ้าอยู่มันโหดร้าย ให้ผมทำการเมืองไหม พ่อให้ที่เหลือจากนี้ เป็นการตัดสินใจของผมล้วนๆท่านบอกว่าชีวิตการเมืองของท่านจบไปแล้ว ต่อไปให้เป็นเรื่องของลูกตัดสินใจเอง”นายเดชณัฐวิทย์ กล่าว
และว่าคุณพ่อจึงให้ผู้ใหญ่ที่ท่านนับถือ ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยเช่นนายสมศักดิ์ เทพสุทินและนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อดีตแกนนำกลุ่มสามมิตร ให้ตนลองคุยกับผู้ใหญ่สองท่านนี้ก่อนว่าจะเอาอย่างไรต่อ โดยคุยกันเบื้องต้นซึ่งท่านทั้งสองก็มองเห็นศักยภาพของตน แนวทางในการเมืองของเราสามารถไปด้วยกันได้ จึงตัดสินใจที่จะมาร่วมพรรคนี้ ตอนที่ตัดสินใจมาร่วมกับพลังประชารัฐและคุณพ่อท่านก็เคารพการตัดสินใจของตน
กระทบฐานเสียงแต่พร้อมสู้
เมื่อถามว่าแสดงว่าการตัดสินใจมาอยู่พรรคพลังประชารัฐมีคุณพ่อเป็นเหตุผลสำคัญใช่หรือไม่นายเดชณัฐวิทย์ ยืนยันว่าไม่เกี่ยว เป็นการตัดสินใจของตนเอง เพียงแต่คุณพ่อ แนะนำผู้ใหญ่ให้พูดคุย เมื่อถามต่อว่าจะไม่กลับไปร่วมงานกับพรรคเพื่อไทยและไทยรักษาชาติใช่ไหม นายเดชณัฐวิทย์ ตอบว่า จะบอกว่าไม่กลับไปร่วมงาน ก็ไม่ได้ เพราะสุดท้าย ถ้าลงเลือกตั้งแล้ว ได้รับเลือกและอยู่สภาเดียวกัน หากผู้แทน ไม่ได้ทำเพื่อประชาชนทั้งหมด ก็คงไม่ได้ ซึ่งการทำงานในสภาเชื่อมโยงการทำงานร่วมกัน ก็ไม่มีปัญหา
ส่วนการเลือกตั้งนั้น ตนตั้งใจ จะลงเขตเดิม ที่คุณพ่อเคยลงเพราะมีโอกาสได้พบปะประชาชนและเสียงประชาชนก็สนับสนุนให้เป็นตัวแทนมาสานงานต่อ เมื่อเปลี่ยนพรรคแล้ว ยอมรับกระทบกับฐานเสียงอยู่แล้ว ตัวผู้สมัครเปรียบเหมือนกับลาบ แต่ส่วนพรรคเปรียบเสมือนภาชนะที่เราไว้รองรับลาบที่เราอยากกิน ถ้าสุดแล้วประชาชนอยากกินลาบ ลาบจะไปอยู่บนจาน ในถ้วยหรือในแก้ว เขาก็ได้กินลาบเหมือนเดิม.
‘รัตนา’นำทีมเชียงรายเข้าพปชร.
เวลา13.00น.นางรัตนา จงสุทธานามณี อดีต ส.ส.เชียงราย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.)เชียงราย นำทีมผู้บริหารสมาชิก อบจ ได้แก่ นายผจญ ใจกล้า นายเสงี่ยม แสนพิชญ์ นายบุญถิ่น นวลใหม่น.ส.นริสา ทองประสิทธิ์ มาสมัครเป็นสมาชิกพรรคและ โดยนางรัตนา ระบุว่าผู้สมัคร ส.ส.ที่ จ.เขียงราย เป็นบุคลากรที่ทำงานในพื้นที่มานาน คุ้นเคย ใกล้ชิดกับประชาขนและมั่นใจว่าพรรคพลังประชารัฐมีบุคลากรที่มีคุณภาพจะเป็นทางเลือกให้กับพี่น้องจ.เชียงราย ได้ จึงตัดสินใจเข้าร่วมกับพรรค
ต่อมาเวลา 14.00น.นายอำนวย คลังผา อดีต สส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย ได้เดินทางเข้ามากรอกใบสมัครเข้าเป็นสมาชิกพรรค พปชร.เรียบร้อย มีนายสนธิรัตน์และนายสุรพร แกนนำ พปชร.ให้การต้อนรับ
อุตตมะ ลั่นชูนโยบายบัตรคนจน
นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค ให้สัมภาษณ์กรณีที่จะนำนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ที่ถูกวิจารณ์ว่าแจกเงินคนจนมาเป็นนโยบายของพรรคว่า พรรคพปชร.พร้อมดำเนินในนโยบายที่ดี โดยนำประชาชนเป็นศูนย์กลาง ส่วนที่ กกต.จะตรวจสอบนโยบายนี้นั้น เป็นเรื่องปกติ พรรคพปชร.ไม่มีความกังวลในเรื่องดังกล่าว ส่วนที่ถูกมองว่าไม่ต่างจากนโยบายประชานิยมนั้น นโยบายนี้ มีเป้าหมายชัดเจน ที่จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้มีรายได้น้อยให้ลืมตาอ้าปากได้ แต่ไม่ก่อให้เกิดภาระต่อประเทศ เราไม่มองว่านโยบายพรรคแตกต่างจากนโยบายของรัฐบาลหรือไม่ เพราะอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ย่อมถือว่าดี ไม่คิดว่านโยบายนี้จะเป็นการช่วยพรรค พปชร.หาเสียงแต่อย่างไร
อย่างไรก็ตามนายอุตตม ยืนยันว่า ในฐานะหัวหน้าพรรคฯ จะไปร่วมประชุมแม่น้ำ 5 สาย คสช. กกต.ร่วมกับพรรคการเมืองวันที่ 7 ธ.ค.นี้ด้วย ส่วนการลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีนั้น ทั้ง 4 คน พูดชัดเจนมาโดยตลอดว่าเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ก็จะลาออกทันที
ปัดต่อรองคดีความดูดสส.เข้าพรรค
นายอุตตม กล่าวถึงกรณีนายเดชณัฐวิทย์ เตริยาภิรมย์ บุตรชาย นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีตอดีต รมว.พาณิชย์พาณิชย์ ที่อยู่ในเรือนจำหลังถูกพิพากษาคดีระบายข้าวจีทูจี สมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร.ว่า ยืนยันว่าการเข้ามาครั้งนี้ ไม่มีการต่อรองผลประโยชน์หรือเรื่องคดีความใดๆทั้งสิ้น นายเดชณัฐวิทย์สนใจเข้ามาร่วมทำงานกับพรรคด้วยใจมุ่งมั่นของตัวเอง ขอยืนยันว่าพรรคไม่มีการต่อรองเรื่องผลประโยชน์ หรือคดีความใดๆกับผู้ที่ย้ายเข้ามา
พรรคนี้ จะมีแนวทางที่แตกต่างไปจากการทำการเมืองแบบเก่าๆคือต้องการรับใช้ประชาชนด้วยการเน้นความสงบเรียบร้อย สร้างสรรค์ความมั่นคง มั่งคั่งและยังยืน ต้องรอดูว่าพรรคจะชูนโยบายอย่างไรบ้าง คนที่เข้ามาร่วม จะต้องเดินตามนโยบายของพรรคเราโดยเราเปิดกว้างให้ทุกกลุ่ม ได้ตัดสินใจเข้ามา
ด้าน นายสนธิรัตน์ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า สำหรับเสียงวิจารณ์ว่าพรรค พปชร.ดูด ส.ส.ไม่ถือเป็นการเล่นการเมืองแบบใหม่นั้น หากคนที่ถูกดูด เห็นว่าพรรคนี้จะไม่สามารถเดินหน้าร่วมอุดมการณ์กันได้ ก็คงไม่มา พรรคจึงน่าจะเป็นความหวังของคนกลุ่มต่างๆเพราะในทางการเมืองนั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะดึงคนเพราะทุกคนต่างมีจุดยืนและความคิดเป็นของตัวเอง เมื่อมีความคิดตรงกันเท่านั้น ถึงจะสามารถเดินไปด้วยกันได้ ขอยืนยันอีกครั้งว่า ไม่มีการดีลเรื่องคดีความกับใคร
ทษช.จัดรถเคลื่อนที่รับสมัคร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณห้างสรรพสินค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ รามอินทรา ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) พร้อมด้วย คณะกรรมการบริหารพรรค ลงพื้นที่บริเวณหน้าโฮมโปร ห้างแฟชั่นไอส์แลนด์ เปิดรับสมัครสมาชิกพรรคนอกพื้นที่ด้วยการนำ “รถรับสมัครสมาชิกเคลื่อนที่”ซึ่งมีประชาชนให้ความสนใจ เข้ามาสมัครเป็นสมาชิกพรรคกันอย่างต่อเนื่อง
โดยนายปรีชาพลกล่าวว่าถือเป็นการจัดกิจกรรมรับสมัครสมาชิกพรรคครั้งแรกนอกพื้นที่หลังพรรคเปิดตัวอย่างเป็นทางการ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวก พรรคจึงจัดรถรับสมาชิกพรรคเคลื่อนที่ โดยที่จะได้เดินทางไปยังพื้นที่ต่างๆในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ขณะนี้สาขาพรรค เราได้เปิดไป 3 แห่งแล้ว ในพื้นที่ จ.เลย จ.เชียงราย และจ.อยุธยา ในวันที่ 25พ.ย.พรรคจะไปประชุมจัดตั้งสาขาพรรค จ.นครศรีธรรมราช ส่วนการตั้งตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดนั้น เมื่อกกต.ยังไม่ประกาศเขตเลือกตั้งอย่างชัดเจน เราจึงยังไม่สรุปได้ ตั้งใจจะมีผู้แทนพรรคการเมืองทั้ง77จังหวัด ตั้งใจจะส่งผู้แทนฯลงสมัครรับเลือกตั้งให้มากที่สุด
ลั่นเมินถก คสช.-กกต.ไร้ประโชน์
เมื่อถามว่าใน วันที่ 7 ธ.ค.นี้ ทางคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และ กกต. จะเปิดให้มีการประชุมร่วมกันกับพรรคการเมือง ซึ่งในส่วนของ ทษช.จะเข้าร่วมประชุมด้วยหรือไม่ ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า ตนคิดว่าการประชุมร่วมกันของพรรคการเมือง ไม่ใช่หน้าที่ของ คสช.เพราะการจัดการเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของ กกต.นอกจากนี้รัฐบาลถือว่าเป็นผู้มีส่วนได้เสียเพราะ4รัฐมนตรีในรัฐบาลชุดนี้ได้แสดงเจตนารมณ์ชัดเจน ว่าจะลงสู่สนามเลือกตั้ง จึงยืนยันว่าพรรค ทษช.จะไม่ไปร่วมการประชุม และคิดว่าสิ่งที่เขากำลังทำอยู่นี้ เป็นเพียงพิธีกรรมเท่านั้น ไม่ได้เป็นประโยชน์อะไรมากมาย จึงอยากเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดโอกาสให้ กกต.ทำงานอย่างอิสระ เพื่อให้พรรคการเมืองต่างๆมีเวลาเตรียมตัวและทำให้การเลือกตั้งให้โปร่งใส และเป็นธรรมที่สุด
‘ลูกจองชัย’ยันอยู่ ชทพ.
ส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.)นายเสมอกัน เที่ยงธรรม อดีต สส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวถึงกระแสข่าวว่าจะย้ายไปทำงานร่วมกับพรรคการเมืองอื่นโดยยืนยันว่า ยังคงทำงานในฐานะเป็นสมาชิกพรรคชาติไทยพัฒนา และเตรียมลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส.ในพื้นที่ จ.สุพรรณบุรี ภายใต้ชื่อของพรรคชาติไทยพัฒนา ต่อไป แม้ขณะนี้ กกต.ยังไม่ประกาศเขตเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ เมื่อรับทราบความชัดเจน ตนพร้อมเดินหน้าหาเสียงและลุยเลือกตั้งทันที
และยอมรับว่า ก่อนหน้านั้นได้พูดคุยกับเพื่อนนักการเมืองจากหลายพรรคโดยเฉพาะกลุ่มยังบลัดของชาติไทยพัฒนาที่ย้ายไปทำงานกับพรรคภูมิใจไทยทั้ง นายภราดร และนายกรวีร์ ปริศนานันทกุล อดีต ส.ส.อ่างทอง และนายสิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติก็เป็นเพียงพูดคุยถึงบทบาทการทำงานพรรคใหม่เท่านั้นกลัวตนจะเหงา แต่ผมยืนยันว่ายังไง จะยังอยู่กับพรรคชาติไทยพัฒนา
สุวัจน์นำชพน.ขอพร น้าชาติ
วันเดียวกัน ที่ จ.นครราชสีมา นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา(ชพน.)พร้อม นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา ได้นำคณะว่าที่ผู้สมัครส.ส.พรรคชาติพัฒนาประมาณ 50 คนอาทินายแพทย์วรรณรัตน์ ชาญนุกูล อดีต รมว.พลังงาน,นายประเสริฐ บุญชัยสุข อดีตรมว.อุตสาหกรรม,นายวัชรพล โตมรศักดิ์ อดีตส.ส.นครราชสีมา,นายธงชัย ลืออดุลย์ อดีตผู้ว่าฯนครราชสีมา,พล.อ.ฐิติวัจน์ กำลังเอก ลูกชาย พล.อ.อาทิตย์ กำลังเอก อดีตรองหัวหน้าพรรคฯและ’น้องวิว’เยาวภา บุรพลชัย อดีตนักกีฬาเหรียญทองโอลิมปิก ปี 2004 เป็นต้น ได้เดินทางมาที่อนุสรณ์สถานของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัน นายกรัฐมนตรี คนที่17 ผู้ก่อตั้งพรรคชาติพัฒนา ที่บริเวณที่พักริมทางลำตะคองหรือ”สวนน้าชาติ” ริมถนนมิตรภาพ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เพื่อวางช่อดอกไม้ขอพร โดยนายสุวัจน์นำกล่าวคำปฏิญาณตนที่จะทำงานการเมืองเพื่อชาติตามเจตนารมณ์ของ “น้าชาติ”พลเอกชาติชาย ชุณหะวัน คือยึดถือคำว่า“ไม่มีปัญหา”มาใช้กับการเสนอนโยบายพัฒนาประเทศ
ภายหลังกล่าวคำปฏิญาณตนที่สวนน้าชาติแล้ว ทั้งคณะพรรคชาติพัฒนาได้เดินสายกราบสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านเมืองโคราชหลายแห่ง โดยได้เดินทางไปกราบสักการะรูปหล่อหลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ พระเกจิอาจารย์ชื่อดัง ที่วัดบ้านไร่ ต.กุดพิมาน อ.ด่านขุนทด และเดินทางไปกราบสักการะอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมืองนครราชสีมา เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคชาติพัฒนาทุกคน ก่อนที่จะเริ่มดำเนินการทางการเมืองเข้าสู่โหมดการเลือกตั้งต่อไป.
นายกฯย้ำเดินตามโรดแมป
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนี้ว่าประเทศไทยกำลังจะก้าวสู่การเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ถือว่าเป็นสิ่งที่ดี แต่อยากให้คนไทยทุกคนระลึกว่าประชาธิปไตย ต้องทำให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย คำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมและธำรงไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์
นอกจากนี้ นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่าทุกอย่าง ยังเป็นไปตามโรดแมปที่กำหนดไว้แต่ต้นคือการยุติความขัดแย้งและความไม่สงบ การวางรากฐานเพื่อปฏิรูปประเทศและจัดการเลือกตั้งเพื่อสร้างประชาธิปไตยที่สมบูรณ์จึงอยากให้ประชาชนทำความเข้าใจและเตรียมตัวออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกันมากๆโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ให้พิจารณาเลือกคนดีและคนเก่งเข้ามาทำหน้าที่แทนเราในการพัฒนาประเทศชาติ
จะเข้าปชป.ต้องสมัครใจ
วันเดียวกันนายราเมศ รัตนะเชวง รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการเตรียมการสู่การเลือกตั้งว่าพรรคมีการเตรียมการตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัดเพื่อเข้าสู่ช่วงระยะเวลาของการเลือกตั้ง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับสมัครสมาชิกพรรค สาขาพรรค หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำ จังหวัด โดยยึดหลักการความถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมายการรับสมัครสมาชิกต้องเกิดขึ้นด้วยความสมัครใจในการเข้ามามีส่วนร่วมกับพรรค กำชับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องห้ามกระทำการในลักษณะให้ เสนอให้ หรือสัญญาว่าจะให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใด ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อมเพื่อจูงใจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใด สมัครเข้าเป็นสมาชิก ห้ามทำโดยเด็ดขาด นี้คือหลักการสำคัญของพรรค
นายราเมศ กล่าวว่า ส่วนจะมีการเลื่อนเลือกตั้งหรือไม่ ไม่มีใครทราบได้แต่เมื่อผู้มีอำนาจยืนยันว่ามีการเลือกตั้งใน วันที่ 24 กพ 2562 พรรคก็เตรียมความพร้อมในทุกๆด้านตามที่กฎหมายกำหนด หากเลื่อนการเลือกตั้งไม่มีใครที่จะรับผิดชอบได้นอกจาก กกต.และ คสช.และที่มีข่าวว่ามีบุคคลมีชื่อเสียงมาสมัครเป็นสมาชิกเพื่อเสนอตัวเข้ามามีส่วนร่วมกับพรรค ก็ต้องขอบพระคุณทุกท่านที่เสนอตัวเข้ามามีส่วนร่วม ซึ่งมีประชาชนทั่วไปที่แสดงเจตจำนงมากเช่นกัน
“พรรคยินดีต้อนรับเพื่อมาร่วมต่อสู้กันด้วยอุดมการณ์เดียวกัน ทุกคนที่เข้ามาที่พรรคเพราะเชื่อในอุดมการณ์และเชื่อว่าเป็นหลักให้กับบ้านเมืองได้ในวันข้างหน้า พรรคจะไม่ใช่พรรคการเมืองตัวแปรแต่เราจะเป็นสถาบันทางการเมืองหลักให้กับบ้านเมือง 72 ปีที่ผ่านมาพิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าไม่ว่าช่วงเวลาใดพรรคยืนหยัดอยู่ได้ด้วยอุดมการณ์อย่างมั่นคง”นายราเมศ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี