วงเสวนา"ทางรอดประมงไทย"สับรัฐ สร้างนิคมกักขัง-ออกสารพัดกฎหมายทำยุ่งยาก กระทบความเป็นอยู่หนักหน่วง ด้าน"ศักดิ์สยาม"รับปัญหาใหญ่เร่งดันร่างกฎหมาย รับฟังประชาชนขีดเส้น2สัปดาห์
25 พ.ย.61 ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีการเสวนาทางวิชาการในหัวข้อ "ฝ่าคลื่นทะเลไทย ทางรอดชาวประมง" โดยมี นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรคภูมิใจไทย , นายกฤษณ์พสุ เจริญ กรรมการสมาคมประมง จ.ปัตตานี กรรมการหอการค้าปัตตานี , นายสามารถ นิยมเดชา ที่ปรึกษาสมาคมประมงแห่งประเทศไทย ผู้ทรงคุณวุฒิด้านประมง จ.ปัตตานี , นายสุรินทร์ นิธิวัฒนาประสิทธิ์ ประธานสหกรณ์ประมงพญาตานี ที่ปรึกษาสมาคมประมงแห่งประเทศไทย , นายอุดมศักดิ์ คุรุปรีชารักษ์ กรรมการสมาคม จ.ปัตตานี รองประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ปัตตานี , นางอัญชลี สังข์สัมฤทธิ์ นายกสมาคมเรือลอบหมึกสาย จ.เพชรบุรี และนางสุภาวดี โชคสกุลนิมิต ผู้ประกอบการเกี่ยวเนื่องเรือประมง ที่ปรึกษาสมาคมประมงแห่งประเทศไทย เข้าร่วมการเสวนา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในงานเสวนาเป็นไปอย่างเคร่งเครียด และเข้มข้น ผู้ร่วมเสวนาแต่ละคนต่างนำเสนอปัญหาที่ตนได้รับอันเนื่องมาจากนโยบายของรัฐ โดยแสดงความไม่เห็นด้วยที่รัฐออกกฎหมายจำนวนมากกว่า 300 ฉบับ เพื่อบังคับใช้กับประชาชนในภาคการประมง ไม่คำนึงถึงผลกระทบต่อทั้งผู้ประกอบการ แรงงาน รวมถึงภาคเศรษฐกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการประมง อาทิ นายกฤษณ์พสุ หรือ นายภรัณยู เจริญ ซึ่งเป็นชาวประมงที่เคยไปร้องเรียนปัญหาต่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เมื่อครั้งลงพื้นที่ จ.ปัตตานี กล่าวตอนหนึ่งในการเสวนาว่า ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมายหรือไอยูยู เมื่อเราโดนใบเหลือง ทางรัฐบาลก็ประกาศแก้ไขปัญหา ขณะนี้ยอมรับว่าสามารถแก้ไขปัญหาได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ถามว่าทำไมถึงยังมีชาวประมงออกมาเรียกร้อง เพราะการออกกฎหมาย 4 ปีที่ผ่านมา มีเกือบ 400 ฉบับที่เกี่ยวข้องกับภาคประมง มีรายละเอียดเป็นจำนวนมาก และที่สำคัญเรื่องวันทำการประมงนั้นเกี่ยวข้องกับปัญหาปากท้อง เพราะอนุญาตให้ทำประมงได้เพียง 8 เดือนต่อปี ส่วนที่เหลืออีก 4 เดือน ทำให้ขาดรายได้
"เรายังมีภาระค่าใช้จ่าย ไม่ว่าจะเป็นค่าครองชีพ และค่าจ้างแรงงานที่ต้องจ่ายทุกเดือน จึงเป็นความอึดอัดคับข้องใจ อีกทั้งทางธนาคารบอกว่าอาชีพประมงเป็นอาชีพเสี่ยง ทำให้ยื่นกู้เงินต่อธนาคารไม่ได้" นายกฤษณ์พสุ กล่าว
ขณะที่ นายสามารถ กล่าวว่า ตนเป็นห่วงเรื่องการทำงานที่ซ้ำซ้อนของหน่วยงาน ขอให้เป็นวันสต็อปเซอร์วิส ที่แท้จริง เพราะบางครั้งพวกตนสุ่มเสี่ยงทำผิดกฎหมาย ทั้งที่ไม่มีเจตนา โดยเฉพาะเรื่องเอกสารที่มีขั้นตอนเยอะ ยุ่งยาก
ด้าน นางสุภาวดี กล่าวว่า ตนเคยผลักดันให้ภาครัฐมองเห็นว่าคนในประเทศได้รับผลกระทบจากกฎหมาย แต่ภาครัฐก็ไม่ฟัง และยังออกกฎหมายมาบังคับเรา แถมกฎหมายเก่าก็ไม่แก้ไข เมื่อเป็นแบบนี้ก็ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ คนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงคือชาวประมง และผู้เกี่ยวเนื่องกับประมง เช่น พ่อค้าแม่ค้า ร้านอาหาร ทุกวันนี้เราอยู่แบบตายซาก การแก้ไขปัญหาทำให้แรงงานตกงาน
"หวังว่าอยากให้คนมีอำนาจเข้ามาดูแล แต่ถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงให้ประมงลืมตาอ้าปากได้ เราจะไม่เหลืออุตสาหกรรมประมง" นางสุภาวดี ระบุ
นายศักดิ์สยาม กล่าวสรุปตอนหนึ่งว่า ตนฟังการเสวนาครั้งนี้แล้วรู้สึกอึดอัด ไม่คิดว่ามีเรื่องเหล่านี้อยู่ในประเทศไทย เพราะรัฐออกกฎระเบียบที่ทำให้ชาวประมงมีอุปสรรคในการประกอบอาชีพ ฟังดูเหมือนพี่น้องชาวประมงไม่ใช่คนไทย เหมือนสร้างนิคมแล้วนำพวกเขาไปอยู่รวมกัน ดังนั้นต้องเอาข้อจำกัดในระเบียบกฎหมายไปแก้ไข เพื่อให้ชาวประมงมีรายได้ดูแลครอบครัวและจ่ายภาษีได้ ซึ่งประเทศไทยมีชาวประมงจำนวนมาก เนื่องจากมี 22 จังหวัดที่ติดทะเล ซึ่งการประมงไม่ได้เรื่องของชาวประมงเท่านั้น แต่ยังเกี่ยวข้องกับผู้ประกอบอาชีพอื่น ดังนั้น ถ้าสามารถทำการประมงอย่างมีประสิทธิภาพ จะยิ่งสร้างรายได้ให้แก่ประชาชน หากเรื่องใดที่เป็นปัญหาของรัฐ พรรคภูมิใจไทยยืนยันว่าจะต้องมีการแก้ไขแบบลดอำนาจรัฐ เพิ่มอำนาจประชาชน
อย่างไรก็ตาม เราพอสรุปได้จากการเสวนาครั้งนี้ว่า 1.รัฐออกกฎระเบียบที่มีปัญหาออกมาจำนวนมาก แต่ละระเบียบไม่ทำให้เห็นความแตกต่างของความหลากหลายในธุรกิจประมง จึงจำเป็นต้องพิจารณาข้อเรียกร้องของสหภาพยุโรป (อียู) อย่างละเอียดอีกครั้งว่าเขาเรียกร้องให้เราทำเกี่ยวกับธุรกิจประเภทใด 2.วิธีในการปฏิบัติตามกฎระเบียบ พรรคภูมิใจไทยโชคดีที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีมาร่วมงาน เชื่อว่าจะช่วยแก้ไขปัญหาเรื่องการตรวจสอบเรือ รวมถึงขจัดปัญหาเรื่องเอกสารได้ โดยหลังจากนี้ จะมอบหมายให้ทีมกฎหมายของพรรคไปตรวจสอบกฎหมายว่ามีส่วนใดเป็นอุปสรรคและบังคับจนชาวประมงทำงานยาก ซึ่งจะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง
คาดว่าจะใช้เวลา 2 สัปดาห์ สำหรับจัดทำร่างกฎหมาย โดยขอความเห็นจากผู้ร่วมเสวนา และนำลงเพจเฟซบุ๊กของพรรค โดยในวันจันทร์ที่ 26 พ.ย.นี้ พรรคจะเสนอร่างเรื่องพืชพลังงาน แก้ปัญหาแกร็บแท็กซี่และแอร์บีเอ็นบี ที่มีการเสวนาไปก่อนหน้านี้ เพื่อให้ประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็น หากทุกคนมองตรงกันว่าแนวทางที่พรรคเสนอสามารถแก้ปัญหาได้จริง หลังจากนั้นจะรวบรวมรายชื่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำนวน 10,000 คน เพื่อเสนอกฎหมายตามที่รัฐธรรมนูญ 2560 เปิดโอกาสไว้ โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ถึงการเลือกตั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี