โพลล์เจาะ350เขต‘บกต่’ลิว
‘ทักษิณ’เสื่อม
‘บัตรคนจน’คว่ำ30บาท
‘วิษณุ’เผยแบ่งเขตเสร็จแล้ว
คาดรับสมัครสส.14-18ม.ค.
‘ตุ๊ดตู่’หัก‘วัฒนา’ซัดกันนัว
“สังศิต” เปิดโพลล์ม.รังสิต สำรวจ 350 เขตทั่วประเทศ เผย “บิ๊กตู่” มาแรงนำลิ่ว ตามด้วย “หญิงหน่อย-อภิสิทธิ์” ฟันธงเครือข่ายทักษิณถึงจุดเสื่อมสลาย หลังเจอฤทธิ์พายุ “พปชร.” โกยคะแนนเริ่มทิ้งห่างด้วยนโยบายบัตรคนจนล้ม 30 บาทรักษาทุกโรค ชี้แนวโน้มได้ตั้งรบ.หลังเลือกตั้ง แนะ “บิ๊กตู่” รักษาตัวพร้อมนั่งนายกฯ “วิษณุ” เผยแบ่งเขตเสร็จแล้ว คาดเปิดรับสมัครสส. 14-18 มกราคม 2562 “จตุพร” แลกหมัด “วัฒนา” ผลักมิตรเป็นศัตรู
เมื่อวันที่ 28พฤศจิกายน ศ.ดร.สังศิต พิริยะรังสรรค์ คณบดีวิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิตในฐานะผู้อำนวยการโครงการสำรวจความนิยมของนักการเมืองที่ประชาชนปรารถนาให้เป็นนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งเดือนกุมภาพันธ์2562เปิดเผยว่า วิทยาลัยฯได้ทำการรวบรวมประชากรครั้งละ 8,000ตัวอย่างใน 350เขตเลือกตั้งใน 77จังหวัดทั่วประเทศ ระดับความเชื่อมั่นทางสถิติ90%มีการสำรวจมาแล้ว 4 ครั้ง คือครั้งที่1 วันที่ 1 พฤษภาคม2561 ผลสำรวจพบว่า ผู้ได้รับคะแนนนิยมมากที่สุด 5อันดับแรก ได้แก่ 1.พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา 29.34% 2.คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ 26.24% 3.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ 24.74% 4.นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ 10.61%และ5.นายอนุทิน ชาญวีรกูล4.54% และอื่นๆที่เหลือ4.53%
การสำรวจครั้งที่2 วันที่ 13 มิถุนายน 2561 พบว่า มีผลดังนี้1.นายอภิสิทธิ์ 19.34% 2.พล.อ.ประยุทธ์ 17.31% 3.คุณหญิงสุดารัตน์ 8.93% 4.นายอนุทิน 5.68% 5.นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ 4.36%และ6.อื่นๆ37.61% ผลสำรวจครั้งที่3 วันที่ 15ตุลาคม2561 ได้แก่ 1.พล.อ.ประยุทธ์ 19.62% 2.นายอภิสิทธิ์ 16.91% 3.คุณหญิงสุดารัตน์ 16.43% 4.นายธนาธร 14.42% 5.นายอนุทินและ6.อื่นๆ ที่เหลือ29.10%ผลสำรวจครั้งที่4 วันที่ 24พฤศจิกายน2561 เรียงตามลำดับ ได้แก่ 1.พล.อ.ประยุทธ์ 27.06% 2.คุณหญิงสุดารัตน์ 18.16% 3.นายอภิสิทธิ์ 15.55% 4.นายธนาธร 9.68% 5.นายอนุทิน 2.26%และ6.อื่นๆ ที่เหลือ 27.30%
‘สังศิต’ชี้บัตรคนจนล้ม30บาทแม้ว
ศ.ดร.สังศิต กล่าวว่า ผลสำรวจทำให้เห็นว่าความนิยมของเครือข่ายพรรคไทยรักไทย ที่กลายมาเป็นพรรคเพื่อไทย(พท.)ของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ มีความนิยมลดน้อยลง มาจากปัจจัยความแตกแยกภายในของพรรคพท.ไม่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันอีกต่อไป อีกทั้งบุคลากรนักคิด นักเขียน เอ็นจีโอ ของพรรคพท.กลายเป็นฝ่ายตรงข้ามไปหมดแล้ว ทำให้ไม่มีการทำนโยบายใหม่ๆ ที่โดนใจประชาชนออกมา อีกทั้งนโยบายที่โดนใจคนที่เขาเคยทำคือ 30บาทรักษาโรค กับกองทุนหมู่บ้าน ซึ่งไม่ว่าใครมาเป็นรัฐบาลก็ต้องนำไปใช้ทั้งนั้น ทำให้ทุกคนคิดถึงทักษิณ แต่วันนี้พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ได้ทำนโยบายบัตรคนจน ซึ่งมีขอบเขตให้ประโยชน์คนจนอย่างกว้างขว้าง โดยรวมเอานโยบาย 30บาท รักษาทุกโรค ผนวกรวมเข้ากับนโยบายอื่นๆ เช่น เบี้ยคนชรา ค่าโดยสารผู้ป่วยฯลฯและพบว่าเป็นนโยบายที่เอาชนะใจกลุ่มคนจนจำนวน 11ล้านคนมากขึ้นอย่างรวดเร็ว
เชื่อ’พปชร.’มีรบ.อุ้มชนะขาดแน่
รศ.ดร.สังศิต กล่าวอีกว่า ในทางกลับกันพรรคพปชร.มีความได้เปรียบ เนื่องจากเป็นพรรครัฐบาล เขาสามารถออกนโยบาย ใช้มาตรการต่างๆทำนโยบายให้กับกลุ่มคนได้ทุกอาชีพ ทุกระดับ เขาจึงได้เปรียบ แล้วกลายมาเป็นพรรคการเมืองที่ใหญ่โตขึ้น มีความพร้อมจะต่อสู้กับพรรคพท.ได้อย่างสบายตนมองว่าพรรคพปชร.อาจชนะเด็ดขาดได้เลย เพราะเขาจับกลุ่มเป้าหมายคือกลุ่มคนจน11ล้านคนและผลิตนโยบายมาตอบสนองได้ต่อเนื่อง พูดง่ายๆบัตรคนจนเอาชนะ30บาทรักษาทุกโรค แบบไม่เห็นฝุ่น วาทะกรรมเรื่อง 30 บาทของคุณทักษิณ ที่พูดมาตลอดมาถึงจุดที่แพ้แล้ว คนรู้สึกว่าบัตรคนจนเป็นประโยชน์มากกว่า
พท.ได้แค่ปลุกใจ-ไม่มีพลังหนุน
ศ.ดร.สังศิต ระบุด้วยว่าถ้าดูคะแนนนิยมส่วนตัว พล.อ.ประยุทธ์ สำรวจมา 4หน ชนะ 3หน ครั้งสุดท้ายเริ่มชนะเยอะ ส่วนคะแนนนิยมพรรคแพ้มาตลอด แต่วันนี้พลิกกลับมาชนะ เหตุผลที่พลิกมาชนะ คิดว่ามาจากเรื่องบัตรคนจน แล้วจากนี้อีก 90วัน พรรคพปชร.จะออกนำพรรค พท.แบบทิ้งห่างมากขึ้น ตอนนี้เหลือแต่การสู้ด้วยการปลุกใจ แบบนี้ในทางการเมืองเขาแพ้แล้ว สงครามปลุกใจอย่างเดียว ไม่ทำให้ชนะ ต้องมีประชาชนสนับสนุนถึงจะชนะ
เจอพายุถล่ม-แนะ’บิ๊กตู่’รักษาตัว
‘พปชร.กำลังจะทำปรากฎการณ์เป็นพายุที่จะกวาดพรรค พท.เป็นพรรคแรกตั้งแต่ปี2544 ที่จะเอาชนะได้เป็นครั้งแรก เพราะพปชร.มีประชาชน นักคิดให้การสนับสนุนจำนวนมาก จึงมีแนวโน้มสูงมากที่จะกลับมาเป็นรัฐบาลหลังเลือกตั้ง แต่การเมืองเปลี่ยนแปลงได้เสมอ หากฝ่ายไหนทำอะไรผิดพลาดอาจเป็นฝ่ายแพ้ได้ แต่หากแนวโน้มเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ พรรค พปชร.จะชนะพรรค พท.เยอะ ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ต้องดูแลตัวเองให้ดีเหมือนทีมฟุตบอล ที่มีกองหลังเพื่อช่วยกันป้องกันไม่ให้เสียประตู คือต้องป้องกันการดิสเครดิตตัวนายกฯประยุทธ์ เช่นเรื่องการมาจากเผด็จการ หรือเรื่องบุคลิกส่วนตัว รวมถึงการดิสเครดิตนโยบายอื่นๆ ต้องป้องกันให้ดีขณะเดียวกันก็ต้องส่งกองหน้าไปทำประตู เช่นผลิตนโยบายที่ตอบสนองประชาชน หรือส่งคนลงพื้นที่ทำคะแนน เป็นต้น’
‘ประยุทธ์’ย้ำเยอรมันเลือกตั้งกพ.62
ผู้สื่อข่าวรายงานภารกิจของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ ขณะไปเยือนกรุงเบอร์ลิน สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีระหว่างวันที่ 27-29พฤศจิกายน2561 ว่า เวลา 13.00น.ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งช้ากว่าเวลาประเทศไทย 6ชั่วโมง นายกรัฐมนตรีได้รับฟังการบรรยายสรุปเรื่องการเยือนเยอรมนี พร้อมพบปะและมอบนโยบายแก่ทีมประเทศไทยในเยอรมนี โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า หลังจากทั่วโลกเป็นกังวลสถานการณ์การเมืองของไทยนั้น รัฐบาลจะจัดเลือกตั้งให้บริสุทธิ์ยุติธรรมที่สุด ส่วนการย้ายพรรคของนักการเมืองถือเป็นกลไกทางการเมือง ซึ่งตนในฐานะนายกฯไม่มีอำนาจในส่วนนี้ เพราะต้องทำหน้าที่บริหารราชการแผ่นดิน เมื่อเลือกตั้งเสร็จมีการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่อำนาจรัฐบาลชุดนี้ก็จะหมดไป
‘ช่วง4ปีที่ผ่านมาของรัฐบาลนี้ ประเทศไทยมีเสถียรภาพและเดินหน้าเข้าสู่การเลือกตั้งในเดือนกุมภาพันธ์2562 ขอให้เลือกตั้งให้ดี อย่าฟังอะไรที่ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน ยืนยันว่าผมทำงานอย่างเต็มที่ ไม่ได้หวังผลประโยชน์ ที่ผ่านมาสังคมบิดเบือน ปราศจากความปรองดอง แต่วันนี้ผมทำให้ทุกคนดูโทรทัศน์ช่องเดียวกันได้แล้ววันนี้ไม่ได้มาการเมือง แต่มาเยี่ยมคนไทย เอาหัวใจมาฝาก ขอให้รักน้อยๆแต่รักนานๆ เพราะรักหวือหวาเดี๋ยวก็เลิกรัก’นายกฯกล่าว
‘วิษณุ’เผยกกต.แบ่งเขตเสร็จแล้ว
ด้าน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ว่า การแบ่งเขตเสร็จสิ้นแล้ว คาดว่าจะประกาศราชกิจจานุเบกษาเร็ว ๆ นี้ ถือว่าการแบ่งเขตของกกต.สิ้นสุดแล้ว ไม่สามารถร้องค้านได้ แต่หากมีฝ่ายใดคัดค้านสามารถยื่นเรื่องฟ้องต่อศาลปกครองได้ ซึ่งระหว่างที่ศาลปกครองพิจารณา กระบวนการต่าง ๆ สามารถดำเนินการไปได้
เปิดรับสมัครชิงสส.14-18มค.62
มีรายงานว่าที่ประชุม กกต.ได้เห็นชอบแผนเตรียมการเลือกตั้ง หลังพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.มีผลบังคับใช้และได้ส่งให้ คสช.และรัฐบาลแล้ว ตามที่ร้องขอมาเพื่อนำเข้าที่ประชุม ครม.สัปดาห์หน้าและนำไปหารือในการประชุมแม่น้ำ 5สายกับตัวแทนพรรคการเมือง โดยระยะเวลาปฏิบัติแต่ละเรื่องจะเร็วขึ้นจากแผนเดิมประมาณ 2สัปดาห์ ซึ่งแผนปฏิบัติการล่าสุดที่เสนอนั้น หลังพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.มีผลบังคับใช้ในวันที่ 11ธันวาคมแล้ว กกต.จะเสนอให้รัฐบาลออกร่างพรฎ.ให้มีการเลือกตั้ง สส.ขึ้นทูลเกล้าฯ และคาดว่าจะมีผลใช้บังคับในวันที่ 26ธันวาคม จากนั้นวันที่ 28ธันวาคม จะมีประกาศ กกต.กำหนดวันเลือกตั้ง และกำหนดวันสมัครรับเลือกตั้งสส.คือวันที่ 14-18มกราคม2562
‘สมศักดิ์’เตรียมทีมงานหาเสียง
ขณะที่ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพปชร.แต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจในการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้งของพรรคว่า ทุกคนที่ได้รับคัดเลือกเป็นคนมีประสบการณ์ด้านการเลือกตั้งทั้งสิ้น ประกาศดังกล่าวเป็นการตั้งไว้ล่วงหน้าเพื่อทำงานเมื่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีคำสั่งปลดล็อคทางการเมืองให้ทุกพรรคสามารถหาเสียงได้ พรรคพปชร.เวลานี้ถือเป็นพรรคใหญ่ส่ง สส.350เขต เราต้องเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ หากมัวทำงานเชื่องช้าอาจเกิดปัญหาในภายหลังได้จากนี้เราคงต้องประชุมหารือเพื่อเตรียมความพร้อมบ่อยขึ้น เราต้องลุยเป็นทีมเป็นหนึ่งเดียว วันนี้เราทำงานให้พรรคอย่างเดียว กรรมการชุดนี้ไม่ได้มีหน้าที่ลงไปป่าวประกาศหาเสียงก่อนใคร แต่เมื่อพรรคมอบหมายงานก็ต้องทำอย่างเต็มที่
‹อำนวย›เฉลยทิ้ง›แม้ว›ซบพปชร.
นายอำนวย คลังผา สมาชิกพรรคพปชร.อดีต สส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย(พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงสาเหตุย้ายไปพรรคพปชร.ว่า «การที่เขาไปตั้งพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) พรรคเพื่อธรรม ผมไม่รู้เลย คือผมก็อยู่พรรคพท.มาตลอด กรรมการบริหารพรรคน่าจะบอกว่าเวลานี้เราต้องไปตั้งพรรคโน้นพรรคนี้ นี่อยู่ๆก็ไปกัน ไทยรักษาชาติผมไม่เห็นด้วยที่จะขยับ หากไปต้องไปให้หมด อันนี้ไปเป็นกลุ่มๆ ไปอยู่พรรคโน้นพรรคนี้ มันเป็นการปล่อยทิ้ง จะไปไหนก็ต้องบอกกันในขณะที่ปล่อยให้เราอยู่บ้านเก่าๆ บ้านผุๆอยู่”
‘ภูมิธรรม’ซัดย้ายพรรคเข้าสภายาก
นายภูมิธรรม เวชยชัย เลขาธิการพรรคเพื่อไทย(พท.) ให้สัมภาษณ์ถึงตัวเลขสมาชิกพรรคพท.ที่ออกจากพรรคว่า อดีต สส.ปี2554 ระบบเขตเลือกตั้งที่ออกไปยังพรรคต่างๆ ไม่นับรวมที่ไปพรรคไทยรักษาชาติ อยู่ที่ 28คน ส่วน สส.บัญชีรายชื่อก็มีอีกบางส่วน แต่คิดว่าสิ่งสำคัญอยู่ที่พรรคการเมืองหากเป็นที่ไว้วางใจของประชาชนจะเป็นตัวแปรสำคัญที่จะทำให้เขาเลือก การที่ สส.ไหลออกไปไม่ใช่เรื่องน่ากังวลใจ เพราะเท่าที่ฟังพรรคของผู้มีอำนาจดูดอดีต สส.ไปจากพรรคต่างๆประมาณ 50คน แต่การเลือกตั้งทุกครั้งจะมีตัวเลข20-30% ที่อดีต สส.ไม่สามารถกลับเข้าสภาได้ ตรงนี้ต้องมาพิสูจน์กันว่าช่วง 4-5ปีที่ผ่านมา ที่ประชาชนได้เผชิญกับสถานการณ์ต่างๆ เขาอยากได้คณะรัฐบาลที่ตอบสนองการแก้ปัญหาแบบไหน ผู้แทนราษฎรเองต่อให้เป็นคนเก่าคนแก่ แต่หากเลือกอยู่ผิดข้างไม่สามารถเป็นข้างที่ให้ความหวังตอบสนองการแก้ปัญหาให้ประชาชนได้โอกาสกลับคืนเข้าสภาฯ ก็มีไม่มาก
‘ตุ๊ดตู่’อัด‘เสี่ยไก่’ผลักมิตรเป็นศัตรู
นายจตุพร พรหมพันธุ์ ประธานแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวระหว่างการทำFace book Live ในหัวข้อ “ถึงวัฒนา เมืองสุข อย่าผลักมิตรเป็นศัตรู” ระบุว่า ตนได้เห็น Face bookของนายวัฒนา ได้พูดกรณีอดีต สส.พรรคพท.ย้ายไปพรรคการเมืองต่างๆ โดยวัฒนา อธิบายว่า อดีต สส.พรรคพท.ที่ย้ายไปสังกัดพรรคอื่น ประกอบด้วย พลังประชารัฐ 16คน ชาติไทยพัฒนา 3คน ภูมิใจไทย 3คนและเพื่อชาติ 1คน รวมเป็น 23คน ส่วนอีกจำนวนหนึ่งไปสังกัดพรรคไทยรักษาชาติ ถ้าดูผิวเผินก็จะไม่มีอะไร แต่ตนเป็นกองเชียร์พรรคเพื่อชาติและโดยส่วนตัวรู้จักกับนายวัฒนา การเอาพรรคเพื่อชาติไปรวมไว้ในกรุ๊ปพลังประชารัฐ ชาติไทยพัฒนา ภูมิใจไทย แล้วเอาเพื่อไทยและไทยรักษาชาติเป็นพวกเดียวกัน เสมือนว่าได้จัดกลุ่มก้อนทางการเมืองว่าพรรคเพื่อชาติจะไปอยู่ซีกเดียวกับพลังประชารัฐเรียบร้อย
ถ้ายังไม่หยุดพร้อมตอบโต้รายวัน
“ผมไม่ทราบว่าวัฒนา มีความต้องการอะไร ผมเองเห็นเมื่อคราวที่โพสต์ถึงคุณจาตุรนต์ ฉายแสง แล้วก็มีการแก้ไขกัน การจับมัดรวมว่าพรรคเพื่อชาติไปจับรวมกับพลังประชารัฐ ตามการอธิบายของวัฒนา ผมเห็นว่าจะเกิดความเสียหายผมเตือนว่าถ้ายังไม่หยุด ยังใช้วิธีการแบบนี้ ผมก็พร้อมที่จะเป็นคู่วิวาทะได้ทุกวันกับคุณวัฒนา การจะมาอธิบายความหาเศษหาเลยกันแบบนี้ คงจะไปขอร้องว่าอย่ากระทำคงจะไม่ได้ เพียงแต่ว่ารบกับคนอื่น รบกับศัตรูยังไม่พอเหรอ คิดจะมารบกับหมู่มิตรเหรอ ฉะนั้นก็ฝากกันว่าให้คิดดีๆ ผมก็พร้อมทุกกรณี แต่วิวาทะบนเหตุผลให้เกิดประโยชน์แก่ชาติบ้านเมือง’นายจตุพร กล่าว
‘มาร์ค’ขอทำแต้มสู้’เจ๊หน่อย’
ด้าน นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวว่า พรรคปชป. ยังไม่ได้รับหนังสือเชิญจากกกต.ให้ไปร่วมประชุมกับคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ในวันที่ 7ธันวาคมนี้ ซึ่งคงต้องดูหนังสือเชิญก่อนว่ามีอะไรบ้าง แต่สันนิษฐานได้ว่า ขณะนี้กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 11ธันวาคม การหารือคงเป็นเรื่องการปลดล็อก ซึ่งแทบไม่มีประเด็นอะไรที่ต้องหารือ เพราะมองไม่เห็นว่าถ้ากฎหมายเลือกตั้งสส.มีผลบังคับใช้แล้วจะมีเหตุผลอะไรที่จะต้องมีข้อจำกัดการทำกิจกรรมทางการเมือง ถ้ายังมีข้อจำกัดเรื่องการเคลื่อนไหวก็จะเป็นปัญหาต่อไป
เมื่อถามว่า ผลสำรวจความเห็นประชาชนที่ออกมาว่า คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย เหมาะสมที่จะเป็นนายกฯเป็นอันดับ1นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า มีหลายโพลล์ตนก็ดูอยู่หลายโพลล์ ไม่มีปัญหาอะไร ถึงเวลาต้องแข่งขันกัน
จี้กกต.จับตาสุโขทัยแบ่งเขตเอื้อใคร
ขณะที่ นายจุฤทธิ์ ลักษณวิศิษฏ์ รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) กล่าวว่า ขณะนี้มีการใช้อำนาจรัฐ ใช้ความได้เปรียบผ่านนโยบายรัฐ เช่นบางจังหวัด มีการเก็บบัตรประชาชนเพื่อไปทำบัตรสวัสดิการแห่งรัฐให้ โดยไม่คำนึงถึงคุณสมบัติว่าเข้าข่ายรับสวัสดิการคนจนหรือไม่และการให้เจ้าหน้าที่รัฐไปจัดระบบหาเสียงแบบแชร์ลูกโซ่ เกรงจะเป็นปัญหาซื้อสิทธิ์ขายเสียงในอนาคต จึงเรียกร้องกกต.ให้ไปตรวจสอบได้รับร้องเรียนจากประชาชน มีทั้งคลิปเสียงและภาพ แต่ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะยังไม่ถือว่าเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้ง โดยจังหวัดที่น่าจับตาคือ จ.สุโขทัย เรื่องแบ่งเขตเลือกตั้งมีการแบ่งเขตไม่ตรงกับภูมิศาสตร์ เช่น อ.กงไกรลาศ มีการแบ่งเป็น 2ซีก หวั่นจะทำให้ประชาชนสับสน
หาม’บุญทรง’ส่งรพ.ตร.รอผ่าตัด
พ.ต.อ.ดร.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ ให้สัมภาษณ์กรณีนายบุญทรง เตริยา ภิรมย์ ผู้ต้องหาเรือนจำกลางคลองเปรม ในคดีทุจริตระบายข้าวจีทูจีที่ต้องโทษจำคุก 42ปี ซึ่งมีอาการป่วยจากโรคหมอนรองกระดูกสันหลังอักเสบบริเวณต้นคอว่า เมื่อค่ำวันที่ 27พฤศจิกายน เจ้าหน้าที่เรือนจำได้นำตัวนายบุญส่ง ส่งไป รพ.ตำรวจแล้วพร้อมจัดเจ้าหน้าที่ 2นายไปควบคุมเพื่อป้องกันการหลบหนี ทั้งนี้ เป็นการส่งตัวไปเนื่องจากแพทย์ รพ.ตำรวจ ได้มีหนังสือขอตัวมาเพื่อนำไปรักษาตามหลักมนุษยธรรม ขณะที่กรมราชทัณฑ์มีหน้าที่ต้องส่งเจ้าหน้าที่ไปควบคุมตัวผู้ต้องขังไว้เพื่อไม่ให้หลบหนีอย่างไรก็ตาม นายบุญส่ง ควรจะได้รับการผ่าตัดก่อนหน้านี้นานแล้ว เพราะมีอาการเจ็บป่วยหนักมาก ชื่อว่าถึงที่สุดแล้วคงต้องผ่าตัด แต่คงต้องรอความพร้อมเรื่องเตียงและแพทย์เจ้าของไข้ผู้ที่จะทำการรักษาด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี