ใกล้พิธีบรมราชาภิเษก
บิ๊กตู่แจ้งข่าวดี
งานมงคลประเทศไทย
ก่อนเลือกตั้งชาติต้องสงบ
พปชร.วางตัว3แม่ทัพใหญ่
เดินหน้าโกยคะแนนนิยม
“บิ๊กตู่”ประกาศประเทศไทยกำลังจะมีพิธี “บรมราชาภิเษก” อยากเห็นเลือกตั้งสงบ พร้อมเป็นเจ้าภาพประชุมอาเซียน ด้านพลังประชารัฐตั้ง 3 แม่ทัพ ลุยหาเสียง “สมศักดิ์ เทพสุทิน” วางแผนละเอียดยิบ ในขณะที่“เจ๊หน่อย” ปลุกขวัญสมาชิกเพื่อไทย ชูแก้ 3 ปัญหาสำคัญเศรษฐกิจ ยาเสพติด และคอร์รัปชั่น ส่วน“เสรีพิศุทธ์”ประกาศจองเก้าอี้นายกฯและรมว.กลาโหม กร้าวปฏิรูปทหารเลิกปฏิวัติ
เมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ที่ อ.หนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการอ่างเก็บน้ำลำสะพุง อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมพบปะประชาชนกว่า 2หมื่นคน โดยกล่าวตอนหนึ่งว่า ไม่ว่าใครเข้ามาเป็นรัฐบาลนโยบายที่ออกมาต้องชัดเจนว่า จะทำอะไรเพื่อใครและต้องมีธรรมภิบาล อีกทั้งขอให้ยึดมั่นใน 3 สถาบันหลักของประเทศ ทั้งสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ที่อยู่กับเรามาหลายยุคสมัยเราจะทิ้งไม่ได้ วันนี้ตนในฐานะนายกฯ ลงมาในระดับนโยบาย รวมถึงส่วนกลาง ส่วนท้องถื่น มาร่วมในแบบสานพลังประชารัฐ ไม่เกี่ยวกับเรื่องการเมือง แต่มาติดตามงานเพื่อทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้
เตรียมจัดพิธีบรมราชาภิเษก
“ในปีหน้าประเทศไทยจะเป็นประธานการประชุมอาเซียน ใครจะว่าอะไรก็แล้วแต่ไทยเป็นประธานแน่นอน ไม่มีใครมาปิดกั้นอะไรทั้งสิ้น ผมขออย่างเดียวให้เป็นการประชุมที่สงบ เราเคยเป็นมาแล้วในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แต่ก็ไม่สำเร็จจึงเป็นสิ่งที่ต้องแก้ไขให้ได้ การเลือกตั้งให้เรียบร้อยสงบและการเป็นประธานอาเซียนก็ต้องสงบ อย่าให้ใครมาทำให้เกิดปัญหาอีก มันเสียชื่อประเทศไทยในชาวโลก อีกทั้งในระยะเวลาอันใกล้นี้ก็จะมีพิธีบรมราชาภิเษก วันนี้พระองค์ท่านทรงเป็นสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ก็จะมีพิธีพระบรมราชาภิเษกทรงเป็นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเป็นหลักสำคัญของประเทศ ทั้งนี้ผมรู้ทุกคนมีความจงรักภักดีกับสถาบันอยู่แล้ว ก็ขอให้ทุกคนช่วยกัน”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
เลือกตั้งต้องไม่เกิดปัญหาซ้ำอีก
“ปัญหาเรื่องการเลือกตั้งต้องไม่เกิดขึ้นอีกในอนาคตอันใกล้นี้ ผมยินดีที่ประเทศไทยจะกลับไปสู่ประชาธิปไตย แต่ก็ขึ้นอยู่กับกฎกติกา กฎหมายต่างๆที่ออกมา ซึ่งจะทำอะไรก็ตามเราต้องเคารพกติกา ไม่ใช่สู้กับกติกาและกฎหมาย สมาคมอะไรต่างๆ ก็ต้องไม่ทำอย่างนั้น โดยเฉพาะสมาคมเกษตรกร ข้าว ยาง ปาล์ม ที่ทุกวันนี้มารายปี มารายอาทิตย์ เหมือนเวียนกันมาตามอักษร จาก ข ไข่ เดี๋ยวไป ย ยักษ์ ป ปลา ไป ส เสือ สัปรด ไป ม ม้า มันสำปะหลัง วนอยู่อย่างนี้ มันต้องจัดสรรปันส่วนใหม่” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ขับรถแทรกเตอร์เปิดโครงการ
จากนั้นนายกฯได้ขับรถแทรกเตอร์เปิดตัวโครงการอ่างเก็บน้ำลำสะพุงโดยการขุดดินอีกด้วย ก่อนจะเยี่ยมชมและชิมผลิตภัณฑ์ของชาวบ้านจากซุ้มต่างๆ พร้อมทดลองนั่งบนเรือคายัคที่ใช้ในการล่องแก่งอีกด้วย ทั้งนี้นายกฯยังสอบถามทักทายกับชาวบ้านที่มาต้อนรับ โดยกล่าวว่า วันนี้ดีใจมากที่ได้มาที่นี้ เพราะแม่เป็นคนชัยภูมิ เหมือนได้กลับบ้าน ตนรักทุกคน ขอส่งใจไปถึงทุกคนด้วยความรัก และความเข้าใจพวกเราคนไม่จนไม่รู้ พร้อมขอประชาชนอย่าทำลายป่าวันข้างหน้าจะได้มีอ่างเก็บน้ำไว้ใช้
ย้ำกำลังจะมีพระราชพิธีสำคัญ
ขณะเดียวกันสิ่งสำคัญวันนี้ นอกจากการเลือกตั้งแล้วก็จะมีพิธีพระบรมราชาภิเษกในหลวงรัชกาลที่ 10 ซึ่งขอให้ทุกคนให้ความสำคัญในพระราชพิธีดังกล่าวด้วย ซึ่งนี่คือหลักของประเทศของเรา รวมทั้งต่างประเทศก็เชื่อมั่นใน 3สถาบัน ชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ พร้อมชื่นชมประเทศไทยว่ามีความขัดแย้งน้อยที่สุด เพราะมีพระมหากษัตริย์และมีศาสนาพุทธที่คนนับถือกว่า 90เปอร์เซ็นและดูแลศาสนาอื่นด้วย ดังนั้นเราจะมาขัดแย้งกันเองทำไม
‘พปชร.’แบ่ง3แม่ทัพลุยหาเสียง
ที่พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) นายธนกร วังบุญคงชนะ แกนนำ โฆษกคณะกรรมการเฉพาะกิจในการรณรงค์ การหาเสียงเลือกตั้ง พปชร.กล่าวภายหลังการประชุมคณะกรรมการเฉพาะกิจฯ ว่า ที่ประชุมเห็นชอบแผนยุทธศาสตร์การหาเสียงเลือกตั้ง เพื่อเตรียมพร้อมรองรับหลังจากที่ คสช. ปลดล็อกทางการเมือง พรรค พปชร.จะเดินหน้าตามแผนและวิธีการ โดยดูในแต่ละพื้นที่ว่าจะใช้วิธีการหาเสียงอย่างไร เบื้องต้นจะยึดนโยบายหลักจากส่วนกลางและนโยบายของผู้สมัครให้เหมาะสมในแต่ละพื้นที่ โดยในภาคอีสาน มีนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นผู้ดูแล ขณะที่ภาคกลางมี นายอนุชา นาคาศัย เป็นผู้ดูแลและกรุงเทพมหานคร มี นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ เป็นผู้ดูแล
นัดเปิดสาขาภาคเหนือ5ธันวาฯ
ทั้งนี้ วันที่ 5ธันวาคม นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจฯ จะลงพื้นที่เปิดศูนย์ประสานงานพรรคที่ จ.พิจิตรและจ.สุโขทัย จากการลงพื้นที่ของสมาชิกพรรคและอดีตกลุ่มสามมิตรพบว่ากระแสของพรรค พปชร.ดีขึ้นเรื่อยๆตามลำดับ รวมถึงใน กทม.ด้วย ขณะที่พื้นที่ภาคใต้เรามีตัวผู้สมัคร แม้จะไม่มีชื่อเสียงมากนัก แต่ด้วยนโยบายและการหาเสียงของผู้สมัครในโค้งสุดท้าย เชื่อว่าชาวบ้านจะให้โอกาสเรา ยืนยันในพรรคไม่มีความขัดแย้งของกลุ่มต่างๆ เพราะมีเพียงพรรค พปชร.พรรคเดียว
‘สมศักดิ์’ยันไม่มีสืบทอดอำนาจ
ด้าน นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำพรรค พปชร ในฐานะประธานคณะกรรมการเฉพาะกิจในการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ให้สัมภาษณ์ว่า ประเด็นที่เป็นห่วงคือ หาก พล.อ.ประยุทธ์ ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกฯ จะวิจารณ์ว่า พรรค พปชร.สืบทอดอำนาจ ซึ่งมีพรรคการเมืองบางพรรคพูดเรื่องนี้อยู่เสมอ โดยไม่เอาเรื่องนโยบายที่เป็นประโยชน์มานำเสนอ ตนไม่ได้มองเป็นเรื่องสืบทอดอำนาจแน่นอน
‘จากการประชุมพรรค พปชร.ครั้งแรก ผู้ที่ประสงค์จะลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.ทั้ง 350เขต ไม่เห็นมีชื่อนายพลสักคน ไม่มีฝ่ายของทหารเข้ามาเลยและผู้ที่จะอยู่ในบัญชีรายชื่อก็ไม่มีทหาร จึงคิดว่าไม่น่าจะมีการสืบทอดอำนาจ ขอเรียนว่าอย่าเอาสิ่งเหล่านี้มาพูดให้บ่อย เพราะการเมืองวันนี้ต้องหลีกเลี่ยงความขัดแย้ง พูดเรื่องการกินดีอยู่ดีของประชาชนให้มากจะเป็นประโยชน์กว่า ไม่ใช่เวลาเลือกตั้งไม่ชนะ แล้วจะเอาเรื่องเหล่านี้มาเป็นเงื่อนไขของความขัดแย้ง ซึ่งผมกังวลมากว่าหลังเลือกตั้งจะสร้างปัญหาและทำให้เกิดความไม่สงบสุขขึ้นมาอีก เพราะที่ผ่านมาเสียเวลากับการทำงานให้ประชาชนมาหลายปี’ นายสมศักดิ์
ส่งชื่อบิ๊กตู่หรือไม่แล้วแต่กก.บห.
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณี นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รองหัวหน้าพรรค พปชร.ระบุชัดจะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ แต่ไม่มีทหารหรือใครมาเป็น ส.ส.จะไปสืบทอดอำนาจอย่างไร เพราะแต่ละเขตไม่มีทหารเลย ตนไม่ได้ปฏิเสธว่า ใครจะมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ เพราะเป็นเรื่องกรรมการบริหารพรรค (กก.บห.) จะพิจารณาและวันนี้ยังไม่รู้ว่าจะเป็นใคร
‘เจ๊หน่อย’ปลุกขวัญไม่ทิ้งปชช.
ที่ห้องประชุมชั้น2 พรรคเพื่อไทย (พท.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการจัดตั้งตัวแทนพรรคประจำจังหวัดและวิธีการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง โดย คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง กล่าวต่อสมาชิกตอนหนึ่งว่า ตลอดเวลา 17ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่ครั้งพรรคไทยรักไทย เราเจอวิกฤติการเมืองอย่างหนัก รัฐประหาร2ครั้ง ยุบพรรค2พรรค สมาชิกถูกตัดสิทธิ์การเมืองกว่า 150ชีวิต แต่พรรค พท.ยังยืนอยู่อย่างแข็งแกร่งสามารถชนะเลือกตั้งถึง 6ครั้ง ท่ามกลางวิกฤตเศรษฐกิจ วิกฤตต้มยํากุ้ง เราใช้ปัญญาบริหารงานสามารถคืนหนี้IMF ได้ก่อนกำหนดถึง เราไม่เคยทิ้งประชาชนไว้ข้างหลัง พวกเราได้สร้างรายได้ที่ดีให้ประชาชนทุกระดับ เราเคยทำให้คนไทยภาคภูมิใจ ได้รับการยอมรับจากนานาประเทศ ด้านคุณภาพชีวิต 30บาทรักษาทุกโรค ทำให้คนไทยเข้าโรงพยาบาลอย่างมีศักดิ์ศรี
มุ่งแก้ศก.-ยาเสพติด-คอรัปชั่น
‘เพื่อไทยจะทุ่มเทสุดกำลัง สุดสติปัญญา สุดความสามารถ เพื่อหยุดวิกฤติเศรษฐกิจของประเทศทุกระดับชั้น หยุดปัญหายาเสพติด หยุดปัญหาคอรัปชั่น การเลือกตั้งครั้งนี้ประชาชนเลือกข้างแล้วว่า จะไม่ทนอยู่กับความสิ้นหวังอีกต่อไป ประชาชนเลือกที่จะมีโอกาสสร้างรายได้ ไม่ใช่สร้างหนี้ เลือกที่จะอยู่กับสำเร็จ ไม่ใช่อยู่อย่างล้มเหลวและเลือกที่จะก้าวหน้าทันโลก ไม่ใช่ล้าหลัง ถดถอย วันนี้พรรคพท.พร้อมจะเดินหน้าจับมือกับประชาชน เพื่อนำความหวังและสร้างอนาคตของประเทศไทยร่วมกัน’คุณหญิงสุดารัตน์ กล่าว
‘เต้น’ชี้เตะฟุตบอลในเล้าไก่
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ แกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)และสมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) กล่าวว่า จากตัวกติกา การใช้อำนาจรัฐและเกมการเมืองสารพัดรูปแบบที่ฝ่ายผู้มีอำนาจใช้สร้างความได้เปรียบทางการเมืองเพื่อสืบทอดอำนาจ ล่าสุดพูดกันในหมู่นักการเมืองว่า วิธีการหาเสียงเลือกตั้งที่ กกต.จะประกาศ จะจำกัดการรณรงค์ไม่ให้มีเวทีปราศรัยใหญ่ ผู้สมัครแต่ละพรรคจะขึ้นหาเสียงได้เฉพาะเวทีที่ กกต.จัดให้ ซึ่งพิสูจน์มาแล้วหลายสมัยว่า เวทีแบบนี้ไม่ได้รับความสนใจจากประชาชน การใช้สื่อประชาสัมพันธ์และโซเชียลมีเดีย ก็จะมีข้อจำกัดอีกมาก ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็เท่ากับเลือกตั้งคราวนี้เสรีภาพของประชาชนและพรรคการเมืองจะเป็นเหมือนนกถูกถอนขน มีปีกแต่บินไม่ได้ อยากให้กกต.แสดงความชัดเจนเรื่องนี้ เพราะวิธีการหาเสียงถ้าเป็นแบบนี้ จะตอบคำถามชาวโลกอย่างไร
‘ที่เขาพากันมาสังเกตุการณ์ดูความโปร่งใส จะกลายเป็นมาดูของแปลก เหมือนเอาฟุตบอลลงไปแข่งกันในเล้าไก่ ส่วนตัวผมยังให้คะแนน กกต.ชุดนี้ ขึ้นอยู่กับว่า ทั้งคณะเลือกจะเป็นองค์กรอิสระปราศจากการแทรกแซง หรือองค์กรถูกแทรกแซงปราศจากอิสระ’ นายณัฐวุฒิ กล่าว
‘เสรีพิศุทธ์’โวยโกงตั้งแต่ร่างรธน.
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) จะเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จักนทร์โอชา เป็นนายกฯอีกสมัย ว่า พวกนี้โกงมาตั้งแต่เขียนรัฐธรรมนูญ จนตอนนี้ภาพมันชัดเจนขึ้นมาแล้ว ส่วนระบบการแบ่งเขตแบบใหม่ของกกต.นั้น เป็นหน้าที่ของกกต.ที่ให้พรรคการเมือง ประชาชนร่วมเสนอรูปแบบ และเมื่อกกต.ดำเนินการเสร็จแล้ว แต่พปชร.ไม่ต้องการ ก็เลยมีคำสั่งคสช.ออกมาให้กกต.แบ่งเขตใหม่ โดยให้ฟังความคิดเห็นจาก คสช.และครม.ซึ่งเมื่อกกต.จะแบ่งเขตยังไง ก็ให้ถือว่าชอบด้วยกฎหมาย เขียนกฎหมายแค่นี้ก็โกงกันแล้ว
จองเก้าอี้นายกฯ-เมินนัดคุย7ธค.
เมื่อถามว่า จากการลงพื้นที่ กระแสพรรคเสรีรวมไทยเป็นอย่างไร เพราะชื่อของ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ ก็เป็นหนึ่งในแคนดิเดตชิงนายกฯ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ กล่าวว่า ไม่น่าจะเป็นได้อยู่แล้ว เพราะไม่มีใครจะสู้กับทหาร แต่เลือกตั้งเสร็จตนนี่แหละจะไปเป็น รมว.กลาโหม จะปฏิรูปทหาร ให้เลิกปฏิวัติเสียที เมื่อถามย้ำว่า หลังเลือกตั้งถ้าฝ่ายประชาธิปไตยชนะ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ จะรับตำแหน่ง รมว.กลาโหม ใช่หรือไม่ พล.ต.อ.เสรีพิสุทธิ์ กล่าวว่า “ผมจองตำแหน่งนายกฯส่วน รมว.กลาโหมนั้นของแถม คุณจะเอาใครเป็นนายกฯล่ะ มีแต่คนขี้โกงทั้งนั้น ยืนยันด้วยว่าการหารือระหว่างพรรคการเมืองกับคสช.และกกต.ในวันที่ 7ธันวาคม ตนและพรรคเสรีรวมไทยจะไม่ไปร่วม“ผมกับเผด็จการจะคุยกันรู้เรื่องได้ยังไง มันโกงตลอดจะไปทำไม’
คสช.พร้อมฟังปัญหาก่อนลต.
พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษก คสช.เปิดเผยผลการประชุมสำนักเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ว่า วันที่ 7ธันวาคม2561 คสช.จะจัดประชุมชี้แจงแผนและขั้นตอนการดำเนินการทางการเมือง
เพื่อนำไปสู่การเลือกตั้ง ที่สโมสรทหารบก ถนนวิภาวดี กทม.โดย พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้า คสช.เป็นประธาน โดยเชิญผู้เข้าร่วมประชุมประมาณ 280คน ประกอบด้วย ทุกส่วนจะได้ทราบแผนและขั้นตอนการดำเนินการ ทางการเมืองเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งที่รัฐบาลได้เตรียมการไว้ ขณะเดียวกันจะเป็นโอกาสที่ผู้แทนพรรคการเมืองจะได้เสนอปัญหา ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการเลือกตั้ง เพื่อร่วมกันลดอุปสรรคและเดินหน้าสู่การเลือกตั้งด้วยความเรียบร้อยต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี