‘หญิงหน่อย’ ลุยฝนบุกลาดพร้าว รับสมัครสมาชิก ซัด ‘บิ๊กตู่’ ซิกแซกตัดโลโก้พรรคบนบัตรลต. ทำสับสน ด้าน ‘วัฒนา’ ด่าตามสไตล์ โกงมากสุดตั้งแต่เกิดประเทศ
8 ธ.ค. 61 คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย พร้อมสมาชิกพรรค ลงพื้นที่ตลาดอมรพันธ์ 9 ซอยเสนานิคม 1 เขตลาดพร้าว กทม. ซึ่งเป็นตลาดนัดตอนเช้า เพื่อเปิดรับสมาชิก รวมถึงรับฟังปัญหาจากประชาชน โดยได้รับการต้อนรับเป็นอย่างดี จากพ่อค้าแม่ค้าและผู้มาจับจ่ายซื้อของ คุณหญิงสุดารัตน์ได้พูดคุย และถ่ายภาพกับบรรดาคนขายของในตลาด และผู้มาซื้อของอย่างเป็นกันเอง ท่ามกลางฝนตกหนัก
จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ กระแสข่าวซึ่งระบุว่า หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีความเห็นให้บัตรเลือกตั้งไม่ควรที่จะใส่ชื่อพรรคการเมืองหรือโลโก้พรรคการเมืองว่า เรื่องดังกล่าวจริงหรือเท็จ แต่รัฐธรรมนูญได้กำหนดว่า ส.ส. ที่ลงสมัครรับเลือกตั้งจะต้องสังกัดพรรคการเมือง ซึ่งแปลว่าเขายังให้ความสำคัญกับระบบพรรคการเมืองอยู่ เป็นหลักการของประชาธิปไตยทั่วไป คือพรรคเลือกคน ประชาชนเลือกพรรค แต่หากในบัตรเลือกตั้งไม่มีโลโก้พรรคหรือชื่อพรรคก็ให้ผู้สมัครลงในนามอิสระดีหรือไม่
“ไม่ทราบที่ทำมาทั้งหมดคือการปฏิรูปการเมืองตรงไหนบ้างที่ทำแล้วดีขึ้น ดิฉันมองว่ามีแต่ความสับสนอลหม่านและมีค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ต้องมีการพิมพ์บัตรเลือกตั้งถึง 350 แบบ ประชาชนจะมีความสับสนบนถนนเส้นเดียวกัน จะเลือกพรรคเดียวกัน แต่ก็มี 3-4 เบอร์ หากเข้าคูหาแล้วไม่มีโลโก้อีก ประชาชนก็จะยิ่งสับสนขึ้นไปอีก ตนไม่ทราบว่าการทำเช่นนี้คือการปฏิรูปการเมืองหรือทำให้ประชาชนต้องฝึกจำ”
ด้าน นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ปกติการเลือกตั้งทั่วโลกจะต้องทำให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิด้วยความง่าย และจำนวนมาก ซึ่งบัตรเลือกตั้งเป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะทำให้ประชาชนตัดสินใจได้ง่ายว่าจะเลือกใคร แต่ที่ระบุว่าไม่ต้องใส่โลโก้พรรคในบัตรเลือกตั้งนั้นจะยิ่งทำให้ประชาชนสับสน เนื่องจากหมายเลขนั้นกระจายออกไปในแต่ละพื้นที่ ซึ่งสิ่งที่ควรคิดอยู่เสมอว่าทำอย่างไรที่ทำให้ประชาชนเข้าใจในการเลือกตั้งได้ง่าย ต้องการเลือกพรรคอะไร
โดยเฉพาะพรรคการเมืองที่ถูกส่งเสริมให้เป็นสถาบันต้องเป็นคนเลือกพรรค พรรคเลือกคนและหลักการ ซึ่งโลโก้พรรคเป็นเรื่องใหญ่ คนที่มาเลือกพรรค จะเลือกตามโลโก้ จะมีเหตุผลอะไรลบโลโก้ออก นอกจากจะทำให้ประชาชนสับสน อย่างไรก็ตาม นักการเมืองทำทุกอย่างเพื่อสกัดการโกงแล้ว สื่อวลชนก็ตีแผ่เรื่องการเบ่งเขตพิศดาร การตั้งกติกาที่เอาเปรียบ เหลือเพียงประชาชนที่ต้องปกป้องสิทธิของตัวเอง ถือเป็นสงครามครั้งสุดท้ายระหว่างประชาชนกับอำนาจนิยม ดังนั้นในการเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.ตนก็ฝากให้ประชาชนพิจารณา
เมื่อถามถึงระยะเวลาในการหาเสียงช่วงหลังปีใหม่เพียงพอหรือไม่นั้น นายวัฒนา กล่าวว่า ปกติแล้วการหาเสียงหรือการทำความเข้าใจกับประชาชนในทางการเมือง ไม่ใช่ทำก่อนการเลือกตั้ง แต่ต้องทำในช่วงระยะเวลา 4 ปี เนื่องจากปกติแล้วนักการเมืองหาเสียง 4 ปี เพราะทุกวันทำงานคือการหาเสียง การให้หาเสียงในระยะเวลาที่จำกัด ไม่เป็นเพียงแค่การหาเสียงประชาชน แต่เป็นการกำหนดนโยบาย ซึ่งรัฐธรรมนูญที่พวกคุณเขียนกันขึ้นมาแล้วไปรับฟังประชาชน ตนถามว่าจะเอาเวลาที่ไหนไปทำความเข้าใจกับประชาชน ทุกอย่างย้อนแย้งไปหมด
เมื่อถามว่า หากพรรคพลังประชารัฐชนะการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยจะให้การยอมรับหรือไม่ นายวัฒนา กล่าวว่า การเลือกตั้งครั้งนี้เป็นกระบวนการเลือกตั้งที่โกงมากที่สุดตั้งแต่มีประเทศไทยมา ตั้งแต่สมัยจอมพลป. พิบูลสงคราม ก็ไม่ได้มีการกำหนดกติกาอะไรขนาดนี้ นี่เป็นการกำหนดกติกาตั้งแต่แรก การเลือกนายกรัฐมนตรี ประชาชนนับหนึ่งแต่พล.อประยุทธ์ 250 คะแนน เนื่องจากเอาสว.เข้าไปเป็นของคุณ ที่มีสิทธิ์เลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งสว. 250 คน เทียบเสียงเท่ากับประชาชน 17-18 ล้านเสียง
หลังจากนั้นยังมีการกำหนดไม่ให้พรรคอื่นหาเสียงลงพื้นที่ แต่ตนเองทำได้หมด นั่นแสดงให้เห็นอย่างหนึ่งว่าเขากลัวประชาชน ซึ่งสิ่งที่พวกเขาทำไม่เป็นอย่างอื่นนอกจากการสืบทอดอำนาจ ตนมองว่าพล.อ.ประยุทธ หมดความชอบธรรมแล้ว แต่หากประชาชนต้องการเห็นประเทศมีเศรษฐกิจที่ย่ำแย่แบบนี้ ซึ่งทำให้เห็นว่าการบริหารประเทศ 4 ปี เกิดความล้มเหลว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี