“จาตุรนต์” อัดเอาเปรียบถ่วงเวลาปลดล็อก ขัดขวางพรรคการเมืองพูดคุยประชาชนถึงนโยบายพรรคจนนาทีสุดท้าย หวังใช้เวลา ใช้งบฯรัฐ -โครงการประชารัฐ หาเสียงเพื่อให้คุณพรรคดันเป็นนายกฯต่อ สับไร้ข้อตกลงใช้ม.44 ช่วงเลือกตั้ง
8 ธ.ค. 61 นายจาตุรนต์ ฉายแสง สมาชิกพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) และประธานยุทธศาสตร์พรรค กล่าวถึงผลการหารือร่วมกันของแม่น้ำ 5 สายกับพรรคการเมือง เพื่อชี้แจงแผนและขั้นตอนการดำเนินการทางการเมืองเพื่อนำไปสู่การเลือกตั้งทั่วไปว่า การหารือของ คสช. กับพรรคการเมืองที่ทำท่าทีขึงขัง เหมือนกับว่า เป็นเรื่องสำคัญมาก จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรมากๆ ปรากฏว่า เมื่อออกมาแล้ว ไม่มีอะไรเลยสมกับที่ทำเป็นว่า จะเป็นเรื่องใหญ่เรื่องสำคัญ แนวโน้มที่จะปลดล็อก คงถูกถ่วงไปใกล้วันรับสมัครเลือกตั้ง ส่วนเนื้อหาที่ชี้แจงออกมาเป็นเรื่องที่รู้กันอยู่แล้ว และ กกต. สามารถชี้แจงเองได้อยู่แล้ว การที่มีแนวโน้มว่า จะถ่วงเวลาการปลดล็อกออกไป นอกนั้นไม่มีการประกาศยืนยันอะไรทำให้เห็นได้ว่า การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นจะเป็นไปอย่างยุติธรรม คงเห็นการเอาเปรียบในการเลือกตั้งอยู่ต่อไป รวมทั้งจะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เสรีเป็นธรรม อย่างที่หลายๆฝ่ายอยากเห็น เรื่องแรกคือการยังไม่ปลดล็อก ทำให้การที่พรรคจะรับฟังความเห็นและสื่อสารกับประชาชนเกี่ยวกับนโยบายยังทำไม่ได้ ทั้งๆที่เรื่องนโยบายเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับประชาชนควรจะได้รับข้อมูลและควรมีสิทธิเสนอต่อพรรคการเมืองว่ามีปัญหาอะไร และต้องการให้พรรคการเมืองมีนโยบายอย่างไร กระบวนการนี้ถูกขัดขวางมาตลอดที่ผ่านมา และคงถูกขัดขวางไปถึงนาทีสุดท้าย
“ในขณะที่นายกรัฐมนตรีและรัฐบาล สามารถหาเสียงในเรื่องที่เกี่ยวกับนโยบายได้ตลอดเวลา โดยเฉพาะการใช้โครงการและงบประมาณของรัฐ อย่างโครงการประชารัฐที่ลด แลก แจก แถม อย่างไม่อั้น และไม่ได้คำนึงถึงผลทางเศรษฐกิจ โดยโครงการนี้มีชื่อพ้องกันกับพรรคการเมืองที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช.เป็นนายกฯต่อไป และพล.อ.ประยุทธ์ กำลังจะมีชื่ออยู่ในบัญชีพรรคที่จะเสนอให้เป็นนายกฯ ขณะที่นายกฯกำลังจะมีชื่อเป็นผู้สมัครคือ เข้าสู่การแข่งขัน แต่ไม่มีทีท่าที่นายกฯและรัฐบาล จะประกาศที่จะเป็นรัฐบาลรักษาการเหมือนกับรัฐบาลหลังการยุบสภาก่อนการเลือกตั้ง ทำให้รัฐบาลไม่มีข้อจำกัดใช้งบประมาณ อนุมัติงบประมาณ และการใช้งบประมาณผูกพัน รวมทั้งการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ เมื่อนายกฯมีฐานะเป็นหัวหน้า คสช. ด้วย ยิ่งสามารถปลด โยกย้ายข้าราชการได้ แม้กระทั่งองค์กรอิสระ ดังนั้นสภาพอย่างนี้จะทำให้ข้าราชการตกเป็นเครื่องมือของผู้มีอำนาจ และใช้อำนาจรัฐให้คุณให้โทษกับพรรคการเมือง” นายจาตุรนต์ กล่าว
นาจาตุรนต์ กล่าวอีกว่า ส่วนที่สำคัญอีกอย่างการหารือเมื่อวันที่ 7 ธ.ค.ควรประกาศให้ชัดเจนว่า หัวหน้า คสช. จะไม่ใช่อำนาจตามมาตรา 44 ในเรื่องที่เกี่ยวกับการเลือกตั้งอีกต่อไป แต่ก็ไม่มีการประกาศ รวมทั้งมีคำถามว่า คสช. ยังใช้อำนาจตัวเองให้ทหารไปแจ้งความดำเนินคดีกับคนที่วิจารณ์รัฐบาลหรือวิจารณ์นายกฯ และไม่ได้บอกด้วยว่า จะยุติการแทรกแซงสื่อหรือไม่ ทั้งหมดนี้จึงเป็นเรื่องที่หารือกันไม่มีความก้าวหน้า แล้วยังทำให้เราเห็นได้ว่า เรื่องเลวร้ายทั้งหลายไม่เป็นธรรม และเป็นประโยชน์ต่อพรรคการเมืองที่สนับสนุนนายกฯยังมีขึ้นต่อไป
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า การที่ยังไม่พูดทันทีจะปลดล็อกได้เมื่อไหร่วันไหน ซึ่งอาจจะปลายเดือน ธ.ค. เลยก็ได้ จริงๆควรปลดล็อกหลายเดือนมาแล้ว นี้ก็ถ่วงเวลานาทีสุดท้าย ระหว่างนี้ นายกฯและรัฐมนตรี สามารถโฆษณาหาเสียงด้วยนโยบาย และโครงการต่างๆที่พรรคการเมืองจะไปอวดอ้างว่า เป็นนโยบายของตน หากเลือกพรรคของตนเองแล้วจะใช้นโยบายเหล่านี้ต่อไป โดยดำเนินโครงการต่างๆเหล่านี้ใช้งบประมาณจำนวนมาก โดยที่ไม่ใช่รัฐบาลรักษาการ นั้นเท่ากับสามารถใช้งบฯรัฐในการหาเสียงให้กับพรรคการเมือง และตัวนายกฯเอง
นายจาตุรนต์ กล่าวว่า ส่วนที่เปิดให้หาเสียงได้หลังประกาศ พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง วันที่ 2 ม.ค.62 โดยความจริงแล้วเมื่อมีพ.ร.ฎ.กำหนดวันเลือกตั้งแล้ว กกต.จะใช้กฎระเบียบต่างๆต่อผู้ที่เตรียมจะสมัครหรือต่อมาจะเป็นผู้สมัครจะใช้กฎระเบียบนี้ หมายความว่า ถ้าใครทำอะไรเข้าข่ายหาเสียงและมีค่าใช้จ่ายในขณะที่ยังไม่ได้เป็นผู้สมัครและต่อมาเป็นผู้สมัครจะถูกคิดค่าใช้จ่ายย้อนหลัง ถ้าทำอะไรผิดกฎหมายจะถูกดำเนินการจาก กกต.ได้ เรื่องนี้ขึ้นอยู่กับการทำสอดคล้องกับวัฒนธรรม ค่านิยมทางสังคมหรือไม่ ที่ผ่านมา กกต. มักจะมีกฎระเบียบที่เข้มงวดเกินเหตุ จนทำให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งไม่สามารถทำตามประเพณีวัฒนธรรมได้
นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า แต่เรื่องนี้ยังไม่น่าเป็นห่วงกับการที่ กกต. จะมีข้อจำกัดในการสื่อสารกับประชาชน หรือจำกัดการหาเสียงที่ทำกันมาคือการปราศรัยกับประชาชนจำนวนมากได้อย่างเสรี กับการใช้โซเชียลมีเดียที่มีค่าใช้จ่ายถูกมาก แต่ กกต. ดูเหมือนจ้องจำกัดการใช้ช่องทางนี้ ซึ่งเวลานี้น่าเป็นห่วง 2 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนก่อนประกาศ พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ห้ามสื่อสารประชาชน ห้ามจัดประชุมเสวนาเพื่อสื่อสารประชาชน และการหาเสียงมากกว่าปกติต่อไปอีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี