"ธีรยุทธ"ชี้ภาพพจน์เลือกตั้งไม่ดีตั้งแต่เริ่ม หวั่นการเลือกตั้งสกปรก แนะ"ประยุทธ์"ต้องแสดงบทนายกฯ"ใจกว้าง -เป็นธรรม" เชื่อ"บิ๊กตู่"อยู่ต่ออีกสมัย แต่หากจะ"อยู่ยาว"ต้องปรับวิธีคิด-การทำงานใหม่
10 ธ.ค.61 นายธีรยุทธ บุญมี นักวิชาการอิสระ ให้สัมภาษณ์ภายหลังปาฐกถา "45 ปี 14 ตุลา" ครั้งที่ 4 ในหัวข้อ "มองประเทศไทยหลังการเลือกตั้ง ปัญหาที่ใหญ่กว่าวิกฤตการเมือง" ถึงกับกระบวนการเลือกตั้งที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในวันที่ 24 ก.พ.62 ว่า ภาพพจน์การเลือกตั้งครั้งนี้เริ่มต้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มีคำกล่าวหาตั้งแต่เรื่องการดึงนักการเมืองที่มีเครดิตที่ไม่ค่อยดีนักเข้ามา ซึ่งตนติงไปว่า อย่าทำถึงขั้นใช้อำนาจที่ไม่ชอบ จนลามไปถึงการเลือกตั้งสกปรก หรือโกงการเลือกตั้ง ซึ่งเรื่องนี้จะต้องมีความระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ประชาชนเกิดความไม่พอใจ ทั้งนี้หลักคิดคือจะทำอย่างไรให้การเลือกตั้งเป็นประโยชน์ต่อประชาชนและสามารถแสดงออกได้ดีที่สุด ไม่ว่าบัตรเลือกตั้งจะเป็นแบบไหนก็ต้องแสดงออกได้ดีที่สุด
นายธีรยุทธ กล่าวว่า การหาเสียงเลือกตั้งที่มีการห้ามอะไรต่างๆ ตนคิดว่าน่าจะให้ประชาชนรับรู้และมีส่วนร่วมมากที่สุด ซึ่งตนไม่คิดว่าจะมีใครทำเกิดสถานการณ์อะไร เพราะทุกคนต้องมีความระมัดระวัง ไม่อย่างนั้นจะเสียคะแนนเสียง ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) จะต้องถือบทการเป็นนายกฯ ที่บริหารประเทศ ซึ่งกำลังจะมีการเลือกตั้ง นายกฯ จะต้องมีความเป็นธรรม ต้องใจกว้างที่สุด
เมื่อถามถึงกรณีบัตรเลือกตั้ง มีความจำเป็นหรือไม่ที่จะต้องมีชื่อพรรค และโลโก้พรรค นายธีรยุทธ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ แต่ขอให้ดูในเรื่องความสะดวกของประชาชน
เมื่อถามว่า การเลือกตั้งครั้งต่อไป พล.อ.ประยุทธ์ จะยังได้เป็นนายกฯ 100% ใช่หรือไม่ นายธีรยุทธ กล่าวว่า มีโอกาสสูงมาก เพราะมีเสียง ส.ว.250 เสียง และเสียงเพิ่มเติมอีก 125 ถึง 126 เสียง จากกลุ่ม ส.ส.ที่ดึงกันเข้ามา ก็ทำให้มีคะแนนเยอะ หรือพรรคอื่นที่พร้อมจะเข้าร่วม ซึ่งหากคนที่อยู่ในวงการการเมืองเสียง จะเห็นว่า 125 เสียงนั้น เป็นเกณฑ์พอดีที่จะดึงจากคนเหล่านี้มาได้ และในส่วนความสามารถที่จะทำเพิ่ม
เมื่อถามว่า ที่ระบุว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะกลับมาเป็นนายกฯ อีกครั้ง ประชาชนจะยอมรับหรือไม่ นายธีรยุทธ กล่าวว่า หากไม่มีการโกงเลือกตั้ง ไม่ถูกหาว่าเลือกตั้งสกปรก ทุกคนจะยอมรับ ซึ่งทุกคนจะยอมรับกติกานี้ไปก่อนและจะหาทางแก้ไข แต่ พล.อ.ประยุทธ์ จะมีแรงกดดัน ซึ่งตัว พล.อ.ประยุทธ์ เอง จะต้องหาเปลี่ยนวิธีคิดในการทำงานใหม่ เพราะก่อนหน้านี้ ตนมองว่า พล.อ.ประยุทธ์ คิดแต่คำว่า รัฏฐาธิปัตย์ พูดอะไรทำอะไรมีความถูกต้อง แต่ครั้งนี้จะเจอบรรยากาศ ที่มีพรรคการเมืองอื่น กลุ่มพลังอื่น และมีเสียงประชาชนเข้าร่วม จึงทำให้เปลี่ยนไป ทำให้ พล.อ.ประยุทธ์ เจอปัญหา ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ลำบาก ทั้งนี้ หาก พล.อ.ประยุทธ์ ปรับวิธีคิดและวิธีทำงาน ก็จะยังเป็นนายกฯ ต่อไปได้
ส่วนหากมีการยกเลิกมาตรา 44 แล้วประชาชนจะลำบากหรือไม่นั้น นายธีรยุทธ์ กล่าวว่า โดยธรรมชาติเพราะอย่างไร ประชาชนก็ยังมีความทุกข์ยากและมีความเดือดร้อนอยู่ ตนคิดว่าคนมีสิทธิ์ที่จะแสดงออกถึงเรื่องความทุกข์ยากและลำบากของตน จะไปปิดกั้นไม่ได้ ทั้งนี้ ปัญหาที่ควรแสดงออกเกิดขึ้นแน่ แต่หากรัฐบาลหรือพรรคที่ร่วมรัฐบาลมีการตอบรับก็จะสามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือการคอรัปชัน ถ้ามีปัญหาใหญ่เกิดขึ้นจะทำให้ฐานะรัฐบาลสั่นคลอนเป็นอย่างมาก ฉะนั้น รัฐบาลที่มีเสียง ส.ว.เข้ามาหนุนหากมีปัญหาคอร์รัปชัน แล้วไม่แก้ไขให้ได้ ก็จะนำมาซึ่งอายุรัฐบาลที่จะไม่ยืนยาว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี