“อภิสิทธิ์” กำชับสมาชิกพรรค ให้ปฏิบัติตามกฎหมาย ย้ำเรื่อง “ทำได้ – ทำไม่ได้” ในช่วงที่มี พ.ร.ฎ. เลือกตั้ง - ยัน ปชป. มีนโยบายที่จับต้องได้
12 ธ.ค. 61 ที่โรงแรม เดอะสุโกศล นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติที่ 22/2561 เรื่องการให้ประชาชนและพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมืองว่า เมื่อจะเข้าสู่การเลือกตั้งแล้ว ก็ควรจะให้พรรคการเมืองทำงานได้ตามปกติ ซึ่งตอนนี้อาจจะมีความสับสนหรือไม่เข้าใจอยู่บ้างว่า กิจกรรมที่ทำได้ก่อนหลังช่วงที่มีพระราชกฤษฎีกา (พ.ร.ฎ.) มีอะไรบ้าง ซึ่งขณะนี้ได้มีการซักซ้อมกับสมาชิกว่า การทำกิจกรรมทางการเมืองทำได้ตามปกติ แต่ว่า อะไรที่หลังจากที่ พ.ร.ฎ. มีผลบังคับใช้แล้ว ถูกมองว่าจะทำให้การเลือกตั้งไม่สุจริต ตรงนี้ก็ทำไม่ได้ เช่น การจัดเลี้ยง ก็ทำไม่ได้ ซึ่งตนก็ได้กำชับสมาชิกทุกคนแล้ว เพราะเวลานี้ พรรคยังอยู่ในช่วงที่มีการสรรหาผู้สมัคร ส.ส.ตามกฎหมาย โดยคาดว่าจะเสร็จสิ้นในสัปดาห์สุดท้ายของเดือนธันวาคม
นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ขณะเดียวกัน การพูดจาและแสดงความคิดเห็นในเชิงนโยบาย และการประชาสัมพันธ์ก็สามารถทำได้เต็มที่ ทั้งนี้ เนื่องจากกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเลือกตั้ง จะต้องนำนโยบายไปบรรจุไว้ในข้อบังคับพรรค และก็ต้องจดทะเบียนไว้กับ กกต. เพราะฉะนั้น จะต้องรอให้มีการประชุมใหญ่ของพรรคฯ เพื่อที่จะแก้ไขข้อบังคับพรรค เนื่องจาก ข้อบังคับที่เขียนอยู่ในเวลานี้ เป็นเพียงหลักการกว้างๆ แต่เมื่อถึงเวลาหาเสียง จะต้องระบุที่มาที่ไปของเงินงบประมาณ และประโยชน์ที่จะได้รับในแต่ละนโยบาย ซึ่งตนคาดว่า อีกไม่กี่วันทางพรรคก็จะทำเสร็จแล้ว ซึ่งทั้งหมดจะต้องผ่านกรรมการบริหารพรรค และจะต้องผ่านที่ประชุมใหญ่ เพื่อจะได้อนุมัติให้เป็นส่วนหนึ่งของข้อบังคับ
นายอภิสิทธิ์ กล่าวอีกว่า ส่วนนโยบายเรื่องการกระจายอำนาจไปยังท้องถิ่นนั้น ทางพรรคฯ เป็นผู้สนับสนุนแนวทางการกระจายอำนาจมาทุกยุคทุกสมัย และขณะนี้ควรจะต้องมาถึงจุดที่ยกระดับในเรื่องดังกล่าวอีกครั้งหนึ่ง คือการเลือกผู้บริหารสูงสุด ตามแนวคิด ‘จังหวัดจัดการตนเอง’ ในเรื่องของการให้อำนาจ ความเป็นอิสระของท้องถิ่นในด้านของการพัฒนา ไม่ติดขัดข้อกฎหมายเหมือนที่ผ่านมา ควบคู่ไปกับมีกฎหมายแม่บทกำกับ เพื่อให้เกิดธรรมาภิบาล และแก้ปัญหาเรื่องทุจริตคอร์รัปชั่น เพราะถ้าไม่ทำตรงนี้ ความเหลื่อมล้ำในสังคมก็จะแก้ยาก การบริหารจัดการไม่ว่าจะเป็นทรัพยากร การศึกษา พลังงาน ก็จะติดขัดอยู่ตลอดเวลาเพราะฉะนั้น ถ้าเราจะเติมพลังให้กับชุมชนและท้องถิ่นได้ ก็จะทำให้หลายพื้นที่สามารถจะยกระดับชีวิตความเป็นอยู่ขึ้นมาได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า ที่ผ่านมานโยบายของพรรคฯ แม้จะเป็นนโยบายที่มีความยั่งยืน แต่ก็มีผลเป็นนามธรรม ในการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ ทางพรรคฯ จะมีการปรับนโยบายให้ประชาชนสามารถจับต้องได้อย่างไร นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า จริงๆทุกนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ที่ผ่านมา เช่น การเรียนฟรีอย่างมีคุณภาพ การคืนครูให้นักเรียน เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ก็ถือเป็นนโยบายจับต้องได้ เพียงแต่บางนโยบายก็มองไม่เห็นเหตุผล และไม่สมควรที่จะทำ เช่น รถคันแรก จำนำข้าว เป็นต้น แต่ในเรื่องของประกันรายได้เกษตรกรก็จะต้องมี ซึ่งทางพรรคฯ ก็จะมีแนวคิดในการขยายสิทธิการประกันรายได้ ไปยังคนทุกกลุ่ม และเป็นระบบที่เป็นสวัสดิการจริงๆ ไม่ใช่อย่างที่เป็นอยู่ทุกวันนี้ที่แจกโดยไม่มีหลักเกณฑ์ ตนยังงงอยู่ว่าเมื่อต้นปีที่ผ่านมา รัฐบาลประกาศว่าคนจนจะหมดไป แต่ตอนนี้ยอดคนจนเพิ่มขึ้นมาเป็น 3 ล้านคน แล้วก็กลายเป็นความสำเร็จด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี