12 ธ.ค.61 ที่โรงแรมสวิสโฮเต็ล เลอ คองคอร์ด กรุงเทพฯ พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ โฆษกและทีมยุทธศาสตร์พรรคภูมิใจไทย ได้บรรยายในหัวข้อ "IT Trends 2019 : The Year of Disruption" ซึ่งจัดโดย IMC Institute และ Optimus (Thailand) โดยหลังจากการบรรยาย พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้สั่งให้ตนเองในฐานะที่เป็นโฆษกและหัวหน้าทีมยุทธศาสตร์ด้านดิจิทัลของพรรคภูมิใจไทย อธิบายขยายความให้พี่น้องชาว กทม.รับทราบแนวคิดของพรรค เพื่อให้พี่น้องประชาชนใน กทม.พิจารณาพรรคภูมิใจไทยเป็นทางเลือกใหม่ของคนกรุงเทพฯ
ปัจจุบันรูปแบบของธุรกิจ การใช้ชีวิตและการทำงานของผู้คนในเมืองหลวงทั่วโลกโดยเฉพาะใน กทม.เปลี่ยนไปอย่างมาก ซึ่งเทคโนโลยีดิจิทัลสามารถที่จะนำมาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดความสะดวกสบาย ไม่ต้องเดินทางโดยไม่จำเป็น อีกทั้งยังสามารถที่จะพัฒนาประชาชนให้มีคุณภาพในด้านการศึกษาและใช้ชีวิตที่มีคุณภาพได้ดีขึ้น อย่างไรก็ตามปัญหาการจราจรติดขัดกลายเป็นปัญหาที่หมักหมมและไม่เคยแก้ไขได้เลยจนถึงปัจจุบัน ทำให้พรรคภูมิใจไทยได้นำเสนอแนวคิด "กรุงเทพ สะดวก สบาย" ขึ้น เพื่อให้พี่น้องประชาชนใน กทม.พิจารณาพรรคภูมิใจไทยเป็นทางเลือกใหม่ ทั้งนี้สำหรับปัญหาของคนกรุงเทพฯ มีความต่างจากจากพี่น้องต่างจังหวัด แนวทางการแก้ปัญหา มีลักษณะเฉพาะทาง
พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า ปัญหาการจราจร สร้างความแออัดบนถนน ปัญหามลพิเศษ ปัญหาค่าใช้จ่ายในการเดินทาง ปัญหาสุขภาพร่างกายจิตใจ และวุฒิภาวะทางอารมณ์ ส่งผลอย่างมากมายต่อคุณภาพชีวิต พรรคภูมิใจไทยจึงมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาการจราจร ซึ่งเป็นปัญหาต้นทางของชาวกรุงเทพมหานครด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ทั้งนี้ความทุกข์ของคน กทม.และปริมณฑล คือ เรื่องของปัญหารถติด ทำลายทั้งสุขภาพกาย และสุขภาพจิต เราต้องลดปริมาณรถบนท้องถนน แนวทางของพรรค คือ การให้รถรับจ้างผ่าน APP ต้องเป็นเรื่องถูกกฎหมาย พร้อมไปกับสนับสนุนให้ประชาชนทำงานออนไลน์อยู่บ้านมากขึ้น หรือที่ในหลายประเทศเรียกว่า work from home และเด็กนักเรียนนักศึกษาต้องสามารถเรียนออนไลน์อยู่บ้านเพื่อลดจำนวนรถบนท้องถนน พร้อมไปกับเปิดช่องทางให้ประชาชนได้ทำมาหากินสะดวกขึ้น ไม่ยึดติดกับกฎกรอบแบบเดิม
พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ทางพรรคภูมิใจไทยมองถึง Co-Working Space คือ ให้คนนอกเมือง ได้มาพบปะสร้างสรรค์งานในพื้นที่ ที่ภาครัฐจัดให้ และไม่ต้องเดินทางเป็นระยะทางไกลเพื่อเข้าเมืองอีกต่อไป เป็นการสกัดรถ ไม่ให้ต้องมาแออัดอยู่ในเมือง มันถึงเวลาที่พรรคการเมืองต้องกล้านำเสนอทางเลือกใหม่ ที่สามารถทำได้จริง ทำได้เลย ทั้งนี้ แนวคิดของพรรคภูมิใจไทย ไมใช่เรื่องเพ้อฝัน ทางพรรคมีทีมยุทธศาสตร์ที่เชี่ยวชาญเรื่องนี้
ในส่วนระบบการศึกษาที่มีอยู่ในปัจจุบันปรับตัวไม่ทัน ทั้งนี้เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด จึงทำให้การเรียนไม่สามารถที่จะอยู่แต่ในห้องเรียนตามโรงเรียนและมหาวิทยาลัยเท่านั้น แต่ควรจะอยู่ทุกที่ทุกเวลา ดังนั้นในปัจจุบันประเทศชั้นนำด้านการศึกษาทั่วโลกได้มุ่งเน้นการศึกษาตลอดชีวิตและศึกษาที่บ้านหรือที่ใดก็ได้ผ่านระบบออนไลน์ สำหรับคนทุกคนได้ตลอดเวลาและฟรี ดังนั้นรัฐบาลจำเป็นที่จะต้องเร่งปรับทักษะของประชาชนและนักศึกษาเพื่อเข้าสู่ธุรกิจที่เปลี่ยนไปและรูปแบบงานที่เปลี่ยนไปอย่างมาก จนต้องการบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถและมีทักษะใหม่ที่สอดคล้องกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ซึ่งการที่ประชาชนคนทำงานและนักเรียนนักศึกษาไม่จำเป็นต้องเคลื่อนที่ออกจากบ้านมากเกินความจำเป็น ก็จะทำให้สามารถอยู่กับครอบครัวได้นานขึ้น มีความสุขกับครอบครัวมากขึ้น รวมถึงการแก้ปัญหาจราจรก็จะเกิดขึ้นได้อย่างอัตโนมัติ
พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวว่า ตนเองเป็นทั้งโฆษกและหัวหน้าทีมยุทธศาสตร์ด้านดิจิทัลของพรรคภูมิใจไทยซึ่งนายอนุทิน ได้เคยเเถลงแนวคิดของพรรคภูมิใจไทยได้ที่จะผลักดัน "Thailand Sharing University เรียนฟรีตลอดชีวิต" ตามที่ประชาชนและสื่อมวลชนได้ทราบไปแล้ว ทางทีมยุทธศาสตร์ของพรรคก็ได้เสนอในทุกระดับชั้นการศึกษา ตั้งแต่ระดับประถมถึงปริญญาเอก ยิ่งไปกว่านั้นยังมีหลักสูตรวุฒิบัตรระยะสั้น เช่น มีแนวคิดในการทำหลักสูตรระยะสั้นที่เกี่ยวข้องกับเอไอ (AI) และบล็อกเชน (Blockchain) ในระดับต่างๆ ไม่ว่าระดับพื้นฐานเพื่อประชาชน , ระดับประถมศึกษา , ระดับมัธยมศึกษา และมหาวิทยาลัย ให้อยู่ในรูปแบบออนไลน์ของ Thailand Sharing University ทั้งนี้ เนื่องจากสังคมในชีวิตประจำวันและการทำงานกำลังพบกับเทคโนโลยีเอไอและบล็อกเชนที่กำลังเข้ามาอยู่ในชีวิตประจำวันทั่วไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แล้ว
พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ ยังให้รายละเอียดต่อไปว่า หลักสูตรทุกหลักสูตรจะมีกระบวนการทดสอบ โดยใช้เลข 13 หลักของบัตรประชาชน ไปจนถึงการสแกนใบหน้าหรือลายนิ้วมือผ่านเข้าไปในระบบ Thailand Sharing University เพื่อทำการเรียนและทดสอบภาคทฤษฎี อย่างไรก็ตามหากมีภาคปฏิบัติ ผู้เรียนสามารถที่จะไปสอบตามสถานที่ที่หน่วยงานภาครัฐที่รับผิดชอบจัดสอบไม่ว่าจะเป็น Co-Working Space ตามนโยบาย "กรุงเทพ สะดวก สบาย" ที่จะจัดสร้างขึ้น โดยการทดสอบภาคปฏิบัติเป็นในรูปแบบเวิร์คช็อป และโครงการขนาดเล็กที่ผู้เรียนสามารถนำเสนอเองตามความต้องการของผู้เรียน แต่ต้องสอดคล้องกับวิชาเรียน โดยจะมีการออกวุฒิบัตรโดยรัฐบาลเมื่อสำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรที่กำหนดซึ่งอาจจะเป็นระยะเวลา 3 เดือน, 5 เดือนหรือนานกว่านั้น ซึ่งขึ้นอยู่กับความลึก และความสามารถของผู้เรียน โดยในส่วนของนักศึกษามหาวิทยาลัยสามารถที่จะนำเอาจำนวนหน่วยกิตที่ได้ไปใช้กับระบบการศึกษาของตนเองได้ด้วย และระบบดังกล่าวก็นำมาใช้กับทุกจังหวัดทั่วประเทศอีกด้วย
พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ ได้ขยายความต่อไปว่า ในส่วนบุคลากรและผู้เชี่ยวชาญในด้านการสอน เอไอและบล็อกเชน พรรคภูมิใจไทยมีแนวคิดที่จะใช้บุคลากรผู้เชี่ยวชาญที่ถูกคัดเลือกมาจากมหาวิทยาลัยต่างๆ รวมทั้ง แสวงหาความร่วมมือจากภาคเอกชนในธุรกิจดิจิทัลและไอซีที ซึ่งในขณะนี้มีหลายบริษัทระดับโลกได้เข้ามาตั้งศูนย์และทีมวิจัยและพัฒนา รวมทั้งทำธุรกิจด้านเอไอและบล็อกเชนหลายแห่ง โดยสามารถร่วมมือกันจัดทำหลักสูตรทุกหลักสูตร คู่ขนานในเวลาเดียวกัน เพื่อให้หลักสูตรดังกล่าวเกิดด้วยความรวดเร็ว ด้วยการสร้างคอนเทนท์ และระบบการเรียนการสอนที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญต้องมีการสอนที่เข้าใจง่าย เพื่อที่จะสามารถเรียนในระบบออนไลน์ได้ตามที่ได้กล่าวไปแล้ว ซึ่งในหลายประเทศได้มีการทำระบบในลักษณะนี้ ซึ่งได้รับการยอมรับและได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และมหาวิทยาลัยในประเทศเกาหลีใต้ เป็นต้น
ทั้งนี้ พื้นฐานที่หลากหลายก็จะทำให้ผู้เรียนสามารถเลือกหลักสูตรที่เหมาะสมกับตัวเองได้ ในส่วนระดับมหาวิทยาลัยนักศึกษาที่มีพื้นฐานทางด้านเทคนิคที่เกี่ยวข้องกับการเขียนโค้ดคอมพิวเตอร์ก็สามารถเลือกเรียนในหลักสูตรเชิงลึก และสามารถนำเอาวุฒิบัตรไปสมัครงาน ซึ่งในขณะนี้ในสาขาเอไอและบล็อกเชนเป็นสาขาที่ขาดแคลนอย่างมากในทุกประเทศ จึงทำให้แนวคิด “Thailand Sharing University เรียนฟรีตลอดชีวิต” จะสามารถที่จะเตรียมทักษะของคนและงานในอนาคตที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างมากมายจากการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมเข้าสู่อุตสาหกรรม 4.0 ได้อย่างรวดเร็วและทันเวลา
พันเอก ดร.เศรษฐพงค์ กล่าวทิ้งท้ายว่า นายอนุทินได้ย้ำกับตนเองว่า สิ่งที่ทีมยุทธศาสตร์คิด "ต้องทำได้จริงและทำได้เลย" เท่านั้น และแนวคิดนี้จะทำให้ชาว กทม.มีความสุขขึ้น สมกับสโลแกน "กรุงเทพ สะดวก สบาย"
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี