16 ธ.ค.61 ที่ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ การเปิดตัวนโยบายทางด้านการศึกษาของพรรค คือ "เด็กเข้มแข็ง" เมื่อวานนี้ (15 ธ.ค.) ว่า นโยบายการให้เงินเด็กแรกเกิดคนละ 5 พันบาท ในเดือนแรก นอกจากนั้นจะได้รับเดือนละ 1 พันบาท จนเด็กอายุครบ 8 ปีนั้น จะเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับประเทศ เพราะนี่คือฐานรากที่สำคัญที่สุดสำหรับอนาคตของประเทศไทย ทางพรรคไม่ได้คิดนโยบายขึ้นมาเล่นๆ เพราะการทำนโยบายเรื่องนี้ผ่านการปรึกษากับสถาบันวิจัยที่ไม่ใช่คนของพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับองค์กรระหว่างประเทศที่ทำงานด้านการพัฒนา ได้พยายามนำเสนอมาหลายครั้ง ขณะที่เรื่องของงบประมาณสำหรับนโยบายนี้ พรรคประชาธิปัตย์จะต้องมีคำอธิบายว่าจะสามารถหางบประมาณมาจากที่ไหน ซึ่งตอนนี้ทางพรรคเตรียมตัวเลขดังกล่าวไว้หมดแล้ว
ผู้สื่อข่าวถามว่า เงินดังกล่าวอาจถูกผู้ปกครองของเด็กนำไปใช้ในทางที่ผิดวัตถุประสงค์ ไม่ได้ใช้เป็นค่าอาหารสำหรับเด็กแรกเกิด นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เราคงไม่สามารถไปควบคุมได้ทั้งหมด แต่ถามว่าเกิดอย่างนั้นแล้วทำไมตอนรัฐบาลชุดปัจจุบันทำนโยบายให้เงินอุดหนุนเด็กแรกเกิด ตนก็ไม่เห็นมีใครว่าอะไร ยืนยันว่านโยบายนี้ไม่ใช่ประชานิยม แต่เป็นสวัสดิการขั้นพื้นฐาน ไม่มีเรื่องที่ขึ้นอยู่กับอารมณ์และความพอใจ หรือจังหวะการหาเสียงแต่นี่เป็นนโยบายที่ผ่านการศึกษามาโดยสถาบันวิจัยและคนที่ทำงานด้านการพัฒนาในประเทศต่างๆ ซึ่งเป็นข้อเสนอที่สำคัญ และที่จริงแล้วตัวเลขจำนวนเงินในนโยบายนี้ บางคนยังติงว่าน้อยเกินไป เพราะเฉลี่ยเป็นค่าอาหารแค่วันละ 30 บาท
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์ต้องการนำเสนอนโยบายสังคมสวัสดิการใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า สังคมสวัสดิการเป็นแนวทางที่เราผลักดันอยู่แล้ว สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ต้องการยืนยันคือคนไทยทุกคนต้องมีหลักประกันความมั่นคงในชีวิต ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการศึกษา เรื่องรายได้ และเรื่องคุณภาพการให้บริการแก่ประชาชนในด้านต่างๆ เราต้องการให้คนไทยมีความมั่นใจในหลักประกันตรงนี้ ไม่มีเรื่องแนวทางแบบประชานิยมอย่างแน่นอน เพราะประชานิยมต้องเป็นนโยบายที่ไม่มีเหตุมีผลให้รัฐต้องมายุ่งเกี่ยว ตนขอยกตัวอย่าง เช่น นโยบายรถคันแรก เป็นเรื่องที่หาคำตอบในทางวิชาการไม่ได้เลยว่าทำไมต้องเอาเงินภาษีไปสนับสนุนคนที่จะซื้อรถคันแรก อีกทั้งนโยบายที่เป็นประชานิยมไม่มีความยั่งยืน แต่นโยบายที่เราทำมีความเป็นระบบ และต้องมีคำตอบในเรื่องตัวเลขงบประมาณ ขณะเดียวกันนี่เป็นสิทธิขั้นพื้นฐาน ทำนองเดียวกับเรื่องของผู้สูงอายุและกลุ่มอื่นๆในสังคม ที่ต้องได้รับสิทธิ์ในสังคม เราจึงบอกว่าต้องเป็นการได้รับถ้วนหน้า
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี