“นพดล”ขอบคุณ กกต.ยอมให้มีผู้สังเกตการณ์ต่างประเทศ พร้อมเสนอ4ข้อ อย่าจำกัดป้ายหาเสียง แนะไปคุมที่งบหาเสียงแทน
20 ธ.ค.61 นายนพดล ปัทมะ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศ พรรคเพื่อไทยกล่าวขอบคุณ กกต.เรื่องกำหนดให้บัตรเลือกตั้งมีโลโก้และชื่อพรรคและท่าทีที่สร้างสรรค์ของประธาน กกต.ที่เห็นว่าการสังเกตการณ์การเลือกตั้งจากต่างประเทศอาจทำได้ อย่างไรก็ตามมีอีกหลายเรื่องที่ กกต.สามารถใช้อำนาจของตนหรือนำเสนอเพื่อให้การเลือกตั้งบริสุทธิ์ ยุติธรรมและมีความหมายต่อประเทศมากขึ้น
โดยตนขอเสนอ 4 เรื่องคือ 1. กกต.ไม่ควรไปคุมจำนวนป้ายแต่ไปคุมที่ค่าใช้จ่าย ตัวเลขจำนวนป้ายที่เสนอเบื้องต้นก็น้อยไปเมื่อเทียบกับขนาดของเขตที่ใหญ่ขึ้น กกต.ไม่ควรไปลงรายละเอียดและกำหนดขนาดป้ายและจำนวนป้ายของผู้สมัครที่สามารถติดได้ในแต่ละเขต แต่ควรไปคุมที่ตัวเลขค่าใช้จ่ายในการหาเสียงของผู้สมัครในเขตที่อาจกำหนดไว้ที่คนละ 2 ล้าน แล้วให้ผู้สมัครคิดเองว่าจะทำป้ายขนาดไหน จำนวนเท่าไหร่ ตราบใดที่อยู่ในวงค่าใช้จ่ายที่ กกต.กำหนด
2. กกต.ควรเสนอให้มีการแก้กฎหมายให้พรรคเดียวกันใช้เบอร์เดียวกันทั่วประเทศเพื่อความสะดวกของผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้งและสร้างความเข้มแข็งให้ระบบพรรคการเมือง เรื่องนี้ตนเคยผลักดันและใช้ได้ผลดีมาร่วม 20 ปีแล้ว
3. กกต.ต้องดูแลให้การเลือกตั้งเสรีและเป็นธรรม เพื่อให้สังคมมั่นใจว่าจะไม่มีฝ่ายใดใช้อำนาจรัฐและทรัพยากรของรัฐที่จะกระทบต่อการเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม และสร้างหลักประกันแห่งความเท่าเทียมในการรณรงค์หาเสียงของพรรคต่างๆ พรรคใดชนะเลือกตั้งจะได้มีความสง่างามเพราะไม่เอาเปรียบพรรคอื่น ประชาชนจะยอมรับผลเลือกตั้งและไม่นำไปสู่ความขัดแย้ง
และ 4. ควรเปิดให้พรรคการเมืองกำหนดสถานที่และรณรงค์ปราศรัยหาเสียงอย่างเต็มที่ ตามที่เคยทำมา ถ้า กกต.ทำทั้ง 4 เรื่องดังกล่าวสำเร็จจะได้รับคำชื่นชมจากสังคมเป็นอย่างมาก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี