ชงกกต.เลื่อนเลือกตั้ง
17.หรือ24มีนาฯ
วิษณุแจงงานพระราชพิธี
คลอดกฎเหล็กคุมหาเสียง
ห้ามเอาเงินใส่ซองทำบุญ
เปิดฟรีใช้โซเชียลทำแต้ม
“วิษณุ”ถกกกต.แจงขั้นตอนพระราชพิธีบรมราชาภิเษก คาดเลื่อนเลือกตั้งออกไปเป็น 17 มีนาคมหรือ 24 มีนาคม รอเคาะอย่างเป็นทางการอีกครั้ง พร้อมคลอดกฎเหล็กหาเสียงแล้วห้ามใส่ซองทำบุญ-ดึงสถาบัน-ใช้ถ้อยคำรุนแรง-หยาบคาย-ปลุกระดม เปิดฟรีหาเสียงโซเชียลมีเดียทุกช่องทาง
เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 3 มกราคม นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เพื่อหารือเกี่ยวข้องกับการเลือกตั้งและการจัดการเลือกตั้งว่าวันเหมาะสมควรจะเป็นเมื่อใดเพื่อที่จะไม่ให้กระทบต่อพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 4-6 พฤษภาคม.ค.นี้
รุดถกกกต.ขยับวันเลือกตั้ง
โดยนายวิษณุ กล่าวก่อนเข้าพบกกต.ว่า ประเด็นที่จะหารือคือเรื่องกำหนดวันเลือกตั้งที่ต้องฟังคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ชี้แจง ขณะที่รัฐบาลจะไปอธิบายเกี่ยวกับขั้นตอนการตั้งการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ระหว่างวันที่ 4-6 พ.ค.นี้ และพิธีในช่วงสงกรานต์ และก่อนจะถึงวันพระราชพิธีบรมราชาภิเษกต้องมีขั้นตอนนำหน้าเกี่ยวกับพระราชพิธีอย่างเช่นการเตรียมน้ำอภิเษก การจารึกพระสุพรรณบัฏ ทำพิธีบวงสรวงพระบรมราชบุพการี ใช้เวลาประมาณครึ่งเดือน
แจงไทม์ไลน์ช่วงพระราชพิธี
จากนั้นจึงเข้าสู่ขั้นตอนวันที่4-6พ.ค.นี้ หลังจากเสร็จสิ้นขั้นตอนพระราชพิธี จะมีขั้นตอนอื่นๆที่จะมีการจัดกิจกรรมโดยประชาชน ต้องใช้เวลาอีกประมาณครึ่งเดือนเช่นกัน ซึ่งข้อมูลทั้งหมดนี้จะนำไปอธิบายให้กกต.รับทราบ เพื่อพิจารณาว่ายังมีความเป็นไปได้หรือไม่ ที่จะให้เลือกตั้งในวันที่ 24 ก.พ.นี้ หรือควรขยับวันออกไป
“ถ้าจะขยับวันต้องให้เกิดความสะดวก และทุกอย่างเกิดความสอดคล้องกันตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญ และขั้นตอนของพระราชประเพณีจากนั้นกกต.ต้องเสนอวันเลือกตั้งออกมาโดยการจัดการเลือกตั้งต้องอยู่ในกรอบเวลา 150 วัน ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ ไม่เกินวันที่ 9 พ.ค.นี้”นายวิษณุ กล่าว
ย้ำจะทำอย่างสะเปะสะปะไม่ได้
นายวิษณุ กล่าวว่าที่จริงวันเลือกตั้งและการรณรงค์หาเสียงไม่ได้ส่งผลกระทบกับการจัดพระราชพิธี และหลังเลือกตั้งยังมีกิจกรรมทางการเมืองประมาณ 10 อย่างที่ต้องทำตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดกรอบเวลาเอาไว้ คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 75วัน ดังนั้นจะทำอย่างสะเปะสะปะไม่ได้ ส่วนใดที่ตรงกับวันพระราชพิธีไม่สามารถเลื่อนไปได้และจะขยับกิจกรรมทางการเมืองไม่ได้เช่นกันจึงต้องดูว่าจะขยับเป็นวันใด
เผยไทม์ไลน์ทับซ้อนพระราชพิธี
ส่วนปฏิทินไทม์ไลน์ที่มีการพูดคุยระหว่างพรรคการเมืองกับกกต.ก่อนหน้านั้น ยังไม่มีเรื่องพระราชพิธีเกี่ยวข้อง เมื่อพระราชพิธีแล้วต้องนำสองส่วนมาพิจารณาเห็นความทับซ้อน เพื่อดูว่าจะขยับส่วนใดได้ ซึ่งรัฐบาลยืนยันว่าจะจัดเลือกตั้งให้เร็วที่สุด แต่ไม่ใช่ขยับแล้วทุกอย่างยิ่งช้า อย่างไรก็ตามการพูดคุยในวันนี้อาจได้ข้อสรุปคร่าวๆ
ผู้สื่อข่าวถามว่าต้องได้ ครม.และส.ส.ชุดใหม่ ก่อนจะมีพระราชพิธีบรมราชาภิเษกหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตอบไม่ได้ ตอนนี้ต้องกำหนดวันเลือกตั้งให้ได้ก่อน
ให้กกต.ปรับขั้นตอนการทำงาน
ต่อข้อถามว่า แนวโน้มที่จะเลื่อนวันเลือกตั้งจาก 24 ก.พ.ออกไปหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า อาจไม่ต้องขยับก็ได้ ถ้านำปฏิทินไปอธิบายกับกกต.แล้ว กกต.สามารถปรับขั้นตอนของเขาได้ ถ้าปรับอะไรไม่ได้ก็ต้องขยับวันเลือกตั้ง ส่วนของพระราชกฤษฎีกา ที่ยังไม่ประกาศออกมาตามที่คาดการณ์ กกต.ต้องไปปรับกระบวนการของตัวเอง หากยังต้องการให้เลือกตั้งเป็นในวันที่ 24 ก.พ.นี้ ซึ่งเรื่องนี้ตนไม่กังวล
แจงพระราชพิธีบรมราชาภิเษก
เวลา 16.00 น.นายวิษณุ กล่าวภายหลังหารือกับกกต.ว่า เป็นการมาแจ้งให้กกต.ทราบเรื่องการเตรียมการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ระหว่างวันที่ 4-6 พ.ค.62 เพื่อเป็นข้อมูลให้กกต.นำไปประกอบการพิจารณาเรื่องการกำหนดวันเลือกตั้ง เพราะเป็นอำนาจของกกต. โดยเบื้องต้นในการประชุมแม่น้ำ 5 สายที่ผ่านมาเคยตกลงกันว่าโอกาสแรกสุดของการเลือกตั้งคือวันที่ 24 ก.พ.62 ซึ่งเป็นวันแรกและวันที่อยู่ใน 150 วันตามที่กฎหมายกำหนด รวมทั้งเป็นวันที่ทุกฝ่ายมีความพร้อม
นายวิษณุ กล่าวว่า ขณะนั้นยังไม่ได้พูดคุยเรื่องพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ในวันนี้จึงต้องมาแจ้งให้กกต.ทราบ เพราะพิธีดังกล่าวไม่ได้มีเพียงวันที่ 4-6 พ.ค.62 แต่จะมีกิจกรรมอื่น ๆ ก่อนและหลัง 15 วัน ดังนั้น ระหว่างที่มีพระราชพิธีและกิจกรรมต่าง ๆกกต.จะกำหนดวันเลือกตั้งวันใดก็ไม่กระทบกับพระราชพิธี แต่จะต้องไม่เกิน 150 วัน หากจะกำหนดวันเลือกตั้งเป็นวันที่ 24 ก.พ.62 ก็ไม่กระทบกับพระราชพิธี แต่อาจทำให้ระยะเวลาการหาเสียงหรือการเตรียมการของกกต.สั้นลง ซึ่งการที่กฎหมายกำหนด 150 วันในรัฐธรรมนูญนั้น ไม่สามารถใช้มาตรา 44 แก้ไขได้
ชัดแล้วเลื่อนเลือกตั้ง-ให้กกต.เคาะวัน
“ยอมรับว่าการที่ยังไม่มีพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งในช่วงระหว่างวันที่ 2-4 ม.ค.62 วันเลือกตั้งอาจจะไม่ใช่วันที่ 24 ก.พ.62 นอกจากนี้รัฐบาลยังเป็นห่วงช่วงหลังเลือกตั้งที่จะต้องประกาศผลการเลือกตั้งภายใน 60 วัน และหากกำหนดวันเลือกตั้งวันที่ 24 ก.พ.62 กกต.จะต้องประกาศผลให้เสร็จสิ้นภายในวันที่ 24 เม.ย.62 รวมทั้งยังมีเรื่องการประกาศรายชื่อและแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) พิธีเปิดประชุมรัฐสภา การเลือกประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานวุฒิสภาและการประชุมเลือกนายกรัฐมนตรี อย่างไรก็ตาม เป็นอำนาจของกกต. 7 คนที่จะพิจารณาว่าจะกำหนดวันเลือกตั้งวันใด ซึ่งกกต.ได้กล่าวขอบคุณที่นำข้อมูลมาให้และจะนำไปพิจารณาต่อไป”นายวิษณุ กล่าว
คาดเลื่อนตั้ง17มีนาฯหรือ24มีนาฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีความเป็นไปได้สูงว่า กกต.อาจจะขยับเวลาเลือกตั้งไปเป็นวันที่ 17 มีนาฯ หรือวันที่ 24 มีนาฯ เพราะน่าจะเป็นเวลาที่มีความลงตัวไม่กระทบอย่างหนึ่งอย่างใด และยังอยู่ในกรอบโรดแมป 150 วัน
“บิ๊กป้อม”โยนกกต.ชี้ขาด
ด้านพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณรองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงกระแสข่าวการเลื่อนวันเลือกตั้ง ว่า ไม่รู้ นายกรัฐมนตรีตอบไปเมื่อวานนี้(2 ม.ค.) ทั้งหมดแล้ว เมื่อถามว่า หากมีการเลื่อนวันเลือกตั้งออกไปประมาณ 2 สัปดาห์หรือหนึ่งเดือน ไปเป็นวันที่ 24 มีนาคม 2562 จะส่งผลกระทบอะไรหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า “ตามโรดแมป ก็แล้วแต่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)”
“ไม่รู้ต้องให้กกต. พิจารณา ดูความเหมาะสมอะไรต่างๆ และถ้ามีการขยับวันเลือกตั้งจริง ก็ยังอยู่ในช่วง 150 วันตามที่กฎหมายกำหนดอยู่แล้ว เพราะวันที่ 24 กุมภาพันธ์เป็นวันแรกในห้วง 150 วัน”พล.อ.ประวิตร กล่าว
‘สุเทพ’ชี้ยังไงก็ได้เลือกตั้งปีนี้
นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) กล่าวว่า การที่ยังไม่มีประกาศพ.ร.ฏ.เลือกตั้งตามที่คาดการณ์ไว้เมื่อวันที่ 2 มกราคมที่ผ่านมา ตนก็ติดตามดูอยู่เหมือนกันว่าจะทำยังไงต่อไป ตนเข้าใจว่าการเลือกตั้งทั่วไปคราวนี้เป็นงานยากสำหรับ กกต.ชุดนี้ เพราะเป็น กกต.ใหม่ทั้งชุด และกติกาทั้งหลายตั้งแต่กฎหมายรัฐธรรมนูญ กฎหมายพรรคการเมือง กฎหมายการเลือกตั้ง กฎหมาย กกต. ใหม่ทั้งนั้น เพราะฉะนั้นก็มีความยากลำบากอยู่ แต่เชื่อว่า กกต.คงต้องระดมคนมีฝีมือมาช่วยกันคิด
“วันนี้เชื่อว่าจะมีการเลือกตั้งอย่างแน่นอน ขออย่าให้คิดเป็นอย่างอื่น อย่างไรก็ตามประเทศไทยต้องมีการเลือกตั้งแน่ เวลาอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง อาจมีการเลื่อนไป 5-10 วัน หรือจะเป็นเดือน แต่ยังไงก็ต้องเลือกตั้ง”นายสุเทพ กล่าว
‘ลูกหมี’โร่เคลียร์มาร์คลงสส.ชุมพร
ที่พรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชุมพล จุลใส อดีตส.ส.ชุมพร หรือส.ส.ลูกหมี เดินทางเข้าพบและชี้แจงถึงบทบาททางการเมืองของตัวเองต่อนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค และนายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรคปชป. หลังจากที่นายสุพล จุลใส หรือ ลูกช้าง นายก อบจ.ชุมพร ซึ่งเป็นพี่ชายของนายชุมพล เป็นว่าที่ผู้สมัครส.ส.ชุมพร เขต 3 พรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.)โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที
เอาพรรคก่อน-พี่น้องไว้ทีหลัง
นายชุมพล กล่าวภายหลังการชี้แจงว่าเข้าใจกันดี ไม่มีปัญหาเรื่องการลงสมัครรับเลือกตั้งในเขต 1 จังหวัดชุมพร โดยคุยกันด้วยเหตุด้วยผล แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรค โดยส่วนตัวยังคงอยู่กับพรรคประชาธิปัตย์แน่นอน ส่วนเรื่องพี่ชาย ถือเป็นเรื่องของพี่ชายที่จะตัดสินใจเอง ตนไม่ขอพูดแทน แต่หากพรรคมีมติอย่างไร ก็พร้อมปฏิบัติตาม
“ผมว่าไม่น่าจะมีปัญหา ผมยึดเอาพรรคเป็นที่ตั้ง เรื่องพี่น้องก็ไว้ว่ากันอีกที หากพรรคมีมติอย่างไร ผมก็ยอมรับ เราไม่มีปัญหาขัดแย้งกัน ทุกอย่างเข้าใจกันด้วยดี”นายชุมพล กล่าว
ด้านนายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรค กล่าวว่า จากการพูดคุยกับนายชุมพลแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร เข้าใจกันด้วยดีและนายชุมพลได้รับปากแล้วว่า จะปฏิบัติตามมติพรรค
‘มาร์ค’คาดภายใน1-2วันชี้ขาดได้
ขณะที่นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า วันนี้นายชุมพล ได้เข้ามายืนยันว่า จะประสงค์ที่จะลงสมัครรับเลือกตั้ง ในนามพรรคฯ และก็พร้อมที่จะช่วยเหลือสนับสนุนพรรค แต่ตอนนี้ ทางพรรคกำลังจะไปดูว่า มีวิธีการอย่างไรที่จะทำให้ประชาชนในพื้นที่ ไม่ให้มีความสับสน และให้เกิดความมั่นใจ ซึ่งในวันที่ 6 มกราคมที่จะมีการประชุมกรรมการบริหารฯ เพื่อคัดเลือกผู้สมัคร ส.ส. นั้น ก็น่าจะเรียบร้อย
‘อนุทิน’ส่งผู้สมัครสส.ครบ350เขต
นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย(ภท.) กล่าวถึงความพร้อมของพรรคต่อการเลือกตั้ง
ว่า เราพร้อมมานานแล้ว จะเลือกตั้งเมื่อไหร่เราก็พร้อม ตอนนี้พรรคได้เคาะผู้สมัครสส.ไว้หมดแล้ว รอเพียงการประกาศพ.ร.ฎ.เลือกตั้งส.ส.อาจเหลือเพียงการปรับนิดหน่อยในเบื้องต้นทางพรรคจะส่งผู้สมัครส.ส. ครบ 350 เขตและส่งคนที่เหมาะสมที่สุด และอาจจะไดเเป็นแกนนำก็ได้
กกต.ออกกฎเหล็กคุมหาเสียง
ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวรายงานว่า กกต.มีมติเห็นชอบร่างระเบียบกกต.ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งส.ส.2561 แล้ว ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนสำนักงานฯ นำลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา. โดยสาระสำคัญของระเบียบดังกล่าวกำหนดเกี่ยวกับข้อควรปฏิบัติ ข้อห้ามไม่ให้ปฏิบัติสำหรับผู้สมัคร พรรคการเมืองและผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งในการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้น
โดยวิธีการหาเสียงที่ควรปฏิบัตินั้น ระบุว่า สามารถแจกเอกสาร วีดิทัศน์ที่เกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งในเขตชุมชน สถานที่ งานพิธีต่างๆได้ รวมทั้งจัดรถหาเสียงและเวทีหาเสียง ใช้เครื่องขยายเสียงช่วยหาเสียงได้ โดยผู้สมัคร พรรคการเมืองต้องแจ้งรายละเอียดให้ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทราบภายใน 10วันหลังปิดการรับสมัคร
ขึ้นภาพผู้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกได้
ซึ่งทั้งเอกสาร วีดีทัศน์ ประกาศการโฆษณา ป้ายโฆษณาที่จะติดตั้งบนรถหาเสียง เวทีหาเสียง สามารถระบุชื่อ รูปภาพและหมายเลขผู้สมัคร ชื่อสัญลักษณ์นโยบายของพรรค คติพจน์คำขวัญ ข้อมูลประวัติเฉพาะที่เกี่ยวกับผู้สมัคร พรรคการเมืองและ นำภาพของผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายก หัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรค ลงโฆษณาหาเสียงได้เท่านั้น
รถหาเสียง-เวทีคิดค่าใช้จ่ายหมด
โดยการดำเนินการในส่วนของรถหาเสียงและเวทีหาเสียง ให้นับรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง หาเสียงผ่านจดหมาย สิ่งพิมพ์ สื่ออิเล็กทรอนิกส์ถึงผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งได้ ทำเอกสาร ที่มีการกากบาทในช่องคะแนนเลือกตั้งให้กับตนเองได้แต่เอกสารต้องไม่มีลักษณะหรือสีคล้ายกับบัตรเลือกตั้ง
นอกจากนี้ สามารถตั้งผู้ช่วยหาเสียงได้โดยผู้สมัครแบบแบ่งเขตเลือกตั้งมีผู้ช่วยหาเสียงในเขตได้ไม่เกิน 20 คนต่อเขต ส่วนของพรรค ที่ส่งผู้สมัครแบบบัญชีรายชื่อ มีผู้ช่วยหาเสียงได้ ไม่เกิน 10 เท่าของจำนวนเขตที่พรรคนั้นส่งผู้สมัครแบบแบ่งเขต
ใครแหกกติกาสั่งรื้อถอนได้ทันที
อย่างไรก็ตาม กรณีพบมีการหาเสียงไม่เป็นไปตามที่กกต. กำหนด ผอ. กกต.จังหวัด จะแจ้งให้ผู้สมัคร พรรคการเมืองแก้ไข ภายใน 5วัน หากไม่ดำเนินการ กกต.สามารถรื้อถอน ปลดออกหรือให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการโดยคิดค่าใช้จ่ายกับผู้สมัคร พรรคการเมืองนั้น และนำมาเป็นเหตุสืบสวนวินิจฉัยได้
ส่วนในเรื่องการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ กำหนดให้ผู้สมัคร พรรคการเมือง สามารถหาเสียงด้วยตนเองหรือว่าจ้างบุคคลนิติบุคคลดำเนินการได้ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท ทั้งยูทูป เว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น อีเมล์ เอสเอ็มเอส โดยผู้สมัครต้องแจ้งวิธีการรายละเอียดช่องทางระยะเวลาการหาเสียงรวมถึงหลักฐานอื่นๆที่เกี่ยวข้องให้ผอ.กกต. ประจำจังหวัดทราบตั้งแต่วันสมัครหรือก่อนหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์
หาเสียงอิเล็กทรอนิกส์คิดค่าใช้จ่าย
สำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นผู้สมัครหรือสมาชิกพรรคหาต้องการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ ให้กับผู้สมัครพรรคการเมืองใดต้องแจ้งชื่อสกุลนิติบุคคล หรือเครื่องหมายใดๆที่สามารถเจาะจงตัวบุคคลที่ดำเนินการได้ โดยค่าใช้จ่ายในการหาเสียงส่วนนี้หากเกินกว่า 10,000 บาทต้องแจ้งให้ผู้สมัครพรรคการเมืองทราบและให้แจ้งต่อผอ.กกต.จังหวัดเลขาฯกกต.ทราบและการหาเสียงทางอิเล็กทรอนิกส์ให้นับรวมเป็นค่าใช้จ่ายของผู้สมัครพรรคการเมืองนั้น
ห้ามหยาบคาย-ปลุกระดม-ดึงสถาบัน
ส่วนกรณีกกต.พบว่ามีการใช้ถ้อยคำรุนแรง ก้าวร้าว หยาบคาย ปลุกระดมหรือนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้อง สามารถสั่งให้แก้ไขเปลี่ยนแปลง ลบข้อมูลนั้น หากผู้สมัครพรรคการเมืองไม่ดำเนินการในเวลาที่กำหนด เลขากกต.สามารถแจ้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ให้บริการ ดำเนินการโดยผู้สมัครพรรคการเมืองต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย และการแก้ไขเปลี่ยนแปลง ลบข้อมูล ไม่สามารถลบล้างความผิดที่ได้กระทำสำเร็จแล้วได้ ซึ่งกกต. สามารถนำมาสืบสวนและวินิจฉัยได้
ห้ามเงินใส่ซองทำบุญตามประเพณี
ส่วนข้อห้ามไม่ควรปฎิบัติในการหาเสียงนั้นกำหนดไว้กว้างๆ คือห้ามผู้สมัครพรรคการเมืองหรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการหาเสียง ห้ามผู้สมัครพรรคการเมืองหรือผู้ใด ให้ผู้ประกอบอาชีพ เจ้าของกิจการวิทยุโทรทัศน์ สื่อมวลชน สื่อโฆษณา หรือนักแสดง นักดนตรีพิธีกร ใช้ความสามารถทางวิชาชีพเอื้อประโยชน์ในการหาเสียงให้แก่ตน แต่ถ้าผู้สมัครมีความรู้ความสามารถทางศิลปะเป็นของตนเอง สามารถใช้หาเสียงให้กับตัวเองได้แต่ต้องไม่ใช้อุปกรณ์ในการแสดง
นอกจากนี้ ยังห้ามไม่ให้มีการแจกจ่ายเอกสารที่เกี่ยวกับการหาเสียงโดยใช้วิธีการวาง หรือโปรยในที่สาธารณะ ไม่ใช้ถ้อยคำรุนแรงก้าวร้าว หยาบคาย หรือปลุกระดม และไม่ช่วยเหลือเงินทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ให้แก่ผู้ใดตามประเพณี
‘พปชร.’เปิดนโยบาย6มค.
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) กล่าวถึงความคืบหน้าการแถลงนโยบายพรรค ว่า นายยอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรคพปชร.พร้อมแกนนำพรรค จะร่วมแถลงเปิดนโยบายพรรค ภายใต้คอนเซปต์ “สานพลังประชาราษฏร์ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน” ในวันที่ 6 ม.ค. ซึ่งการจัดทำนโยบายของพรรคมาจากการลงพื้นที่ไปรับฟังความต้องการ ปัญหาและข้อเรียกร้องของประชาชนมาทำเป็นนโยบาย แต่ละนโยบายสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงเป็นประโยชน์กับประชาชนอยู่ดีกินดี มีสวัสดิการต่างๆที่จะสร้างความเข้มแข็งให้กับประชาชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี