‘ธิดา’มาแล้ว! โยน ปชช.ไม่ให้‘เลื่อนเลือกตั้ง’ ฮึ่ม! นปช.ยอมนานเกินแล้ว
9 ม.ค.62 นางธิดา ถาวรเศรษฐ ประธานที่ปรึกษาแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ(นปช.) กล่าวในการทำ Facebook Live ว่า เรื่องที่ดูแล้วสำคัญและน่าเป็นห่วงมากคือเรื่อง “ทัศนะคสช. VS ทัศนะประชาชน เรื่องวันเลือกตั้ง” ซึ่งถือเป็นปรากฎการณ์ความขัดแย้งของประชาชนทุกฝ่ายกับ คสช.เกี่ยวกับวันเลือกตั้ง
นางธิดา ระบุว่า เมื่อ คสช.มีคำสั่งที่ 22/2561 ปลดล็อคให้ประชาชนและพรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง โดยมีผลตั้งแต่ 11 ธ.ค.61 ซึ่งประกาศคำสั่งนี้ก็มีผลยกเลิกคำสั่ง คสช.เรื่องของประชาชน , พรรคการเมือง รวมถึงเรื่องการดำเนินการตามกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ลงวันที่ 22 ธ.ค.60 ทั้งหมดนี้ก็ทำให้มีปัญหาการตีความ ก็คือในทัศนะของ คสช.เรื่องวันเลือกตั้ง การที่ส่งนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ออกมาพูดชี้นำว่าให้เลื่อนการเลือกตั้งไปเป็นวันที่ 24 มี.ค. เป็นเหมือนทัศนะของ คสช.ที่แสดงออกโดยคำพูดของนายวิษณุ และมีเค้าว่า กกต.ตีว่าควรจะเป็นวันที่ 10 มี.ค.62
นางธิดา กล่าวอีกว่า มีความแตกต่างตรงที่ว่าการตีความตามรัฐธรรมนูญ(รธน.) ว่า การจัดการเลือกตั้งให้เสร็จเรียบร้อยนั้นตีความไปแค่ไหน? กกต.ตีความว่าจัดการเลือกตั้งและประกาศผลการเลือกตั้งเสร็จเรียบร้อย แต่ทัศนะของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กลายเป็นว่ามีเวลาถมเถ เลือกตั้งสามารถทำได้ 150 วัน นับจาก 11 ธ.ค.61 วันสุดท้ายของวันเลือกตั้งคือ 10 พ.ค. หมายความว่าตีความว่าเลือกตั้งให้แล้วเสร็จเท่านั้น (แค่วันเลือกตั้ง) ไม่ได้หมายความถึงประกาศผลการเลือกตั้งด้วย แล้วไปชูมือผู้ชนะเอาเดือนก.ค.
“ดังนั้นในภาคประชาชนเรื่องการเลือกตั้ง ประชาชนออกมาเรียกร้องไม่ให้เลื่อนการเลือกตั้ง หรือถ้าเลื่อนก็ไม่ควรเกิน 10 มี.ค. และทัศนะของดิฉันเห็นว่าตรงนี้กระแสประชาชนจะแรงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะรอมาจะ 5 ปีแล้ว ปัญหาคือถ้าสมมุติว่าไปเลือกตั้งหลัง 10 มี.ค. แล้ว 150 วันยังไม่สามารถชูมือผู้ชนะเลือกตั้งได้ ถึงตอนนั้นก็จะต้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญให้ตีความ ถ้าศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าให้แล้วเสร็จแปลว่าต้องประกาศผลด้วย นั่นหมายถึงจบ เจ๊ง แล้วบิ๊กป้อมจะมารับผิดชอบได้ไหมตรงนี้? สรุปว่าคสช.ให้เลื่อน ประชาชนไม่ให้เลื่อน” นางธิดา กล่าว
นางธิดา กล่าวต่ออีกว่า เรื่องนี้จะบานปลายมั้ย? ตนเชื่อว่าประชาชนทั้งหลายอยากให้งานพระราชพิธีดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ดังนั้นคำแถลงไม่ว่าจะเป็นของสิรวิชญ์ หรือพวกที่ไม่อยากเลื่อนการเลือกตั้งก็ยืนยันในข้อหนึ่งว่าให้รัฐบาลนี้จัดการงานพระราชพิธีให้ดีที่สุด และให้แจ้งมาว่าสถานะของพระราชกฤษฎีกาอยู่ที่ตรงไหน? ให้สังคมทราบอย่างชัดเจน!!! ปัญหาสังคมไทยก็คือเป็นสังคมที่คลุมเครือ ไม่ชอบทำความจริงให้ปรากฎ
นางธิดา ระบุว่า ตนจึงเห็นด้วยกับสิ่งที่สิรวิชญ์นำเสนอคือพูดให้ชัดเรื่องพระราชกฤษฎีกา ดังนั้นการอมพะนำและเลื่อนไปเรื่อยๆ ทำให้ไม่มีเครดิตในหมู่ประชาชนเพราะประชาชนเห็นต่างว่าพระราชพิธีก็สามารถทำได้เต็มที่ และทัศนะของตนก็เห็นว่าจริงๆ ควรจะถวายพระเกียรติยศโดยรัฐบาลใหม่ที่มาจากการเลือกตั้งที่ประชาชนมีส่วนร่วม เรื่องนี้ win win ทั้งคู่ คือ ทำให้ประชาชนมีความสุข ได้มีการเลือกตั้งตามกำหนดการ และถวายพระเกียรติยศให้ได้เต็มที่โดยไม่จำเป็นต้องเลื่อนการเลือกตั้ง
นางธิดา กล่าวต่อไปว่า ปัญหาการใช้เทคนิคทางกฎหมายมาทำให้ล้มการเลือกตั้ง หรือใช้ม็อบมาล้มการเลือกตั้ง เป็นสิ่งซึ่งฝ่ายอนุรักษ์นิยมถนัดมาก เพราะสัญลักษณ์การเลือกตั้งคือสัญลักษณ์ของการเดินไปสู่ระบอบประชาธิปไตย สัญลักษณ์ของการเลื่อนและล้มการเลือกตั้งก็คือสัญลักษณ์ของระบอบอำมาตยาธิปไตยและขุนศึก ที่ไม่ต้องการให้มีระบอบประชาธิปไตยเพราะนั่นคือการลดและทำลายอำนาจของชนชั้นนำอนุรักษ์นิยม
“ดิฉันมองว่านานเกินไปแล้ว ประชาชนก็ยินยอมอยู่ในความสงบ พรรคการเมืองก็ยอม แม้กระทั่งนปช.เพราะเราก็รู้ว่าประเทศชาตินั้นลำบากตรงที่ประชาชนมีความเข้าใจไม่ตรงกัน มีความขัดแย้งกันด้วย ไม่ใช่ความขัดแย้งเฉพาะในกลุ่มชนชั้นนำ เราจึงให้เวลา แต่ขณะนี้ประชาชนดูเหมือนว่าเขาจะทนไม่ได้และไม่อยากให้เวลา ขอเตือนมายัง คสช.ให้คิดดีๆ คุณผิดคำพูดมาหลายรอบแล้ว” นางธิดา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี