ค้านพรบ.หวย
เจิมศักดิ์ติงเกาผิดที่คัน
สอนมวยขายผ่านแอพ
เครือข่ายเด็กฯจี้ทบทวน
ห่วงคสช.ทิ้งมรดกบาป
เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ผิดหวัง คสช.-ประธานบอร์ดสลากฯ หนุนกฎหมายเปิดช่องกองสลากออกหวยรูปแบบใหม่ ตัดกองทุนสลากเพื่อพัฒนาสังคม-บทลงโทษจ้องเล่นรายย่อยมากกว่าเสือนอนกินล้มเจตนารมณ์เดิมทิ้งสิ้นเชิงจี้ทบทวนอย่าทิ้งมรดกบาป ให้เป็นบ่อทองนักการเมือง ดร.เจิมศักดิ์แนะใช้ไอทีแก้ปัญหา กองสลากฯขายหวยผ่านแอพแก้ได้ทั้งขายแพง คุมอายุคนซื้อ-ตัดคนกลาง
เมื่อวัน 11 มกราคม นายณัฐพงศ์ สำเภาแก้ว ผู้ประสานงานเครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนันกล่าวถึงกรณีที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติเห็นชอบหลักการร่างพ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาลวาระแรกซึ่งเปิดทางให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลสามารถผลิตสลากรูปแบบใหม่ออกมาได้ว่า เป็นการให้อำนาจบอร์ดกว้างขวาง เปิดประตูออกสลากฯรูปแบบใหม่ได้ง่ายขึ้นเช่นสลากออนไลน์ ลอตโต้ สลาก 2 ตัว 3 ตัวรวมทั้ง สามารถกำหนดช่องทางขายผ่านระบบออนไลน์ หรือตู้อัตโนมัติได้ การเพิ่มเงินบริหารของกองสลากขึ้นอีก 5% และบทลงโทษที่เน้นไปที่ผู้ค้ารายย่อยมากกว่าจัดการพวกเสือนอนกิน พวกจัดชุด
นายณัฐพงศ์กล่าวว่าที่สำคัญและน่าเสียใจที่สุดคือ การตัดเรื่องกองทุนสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อพัฒนาสังคมออกไป ถือเป็นการจงใจฉีกเจตนารมณ์ดั้งเดิมของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)เพราะกองทุนดังกล่าว ตั้งขึ้นมาด้วยคำสั่ง คสช.ที่11/2558เป็นเจตนารมณ์ที่ดี ต้องการปกป้องเด็ก เยาวชน ประชาชนจาการการพนัน เพื่อความสงบสุขและคุณภาพชีวิตคนไทยที่ดีขึ้น แต่กองสลากกลับมีเจตนารมณ์ตรงกันข้ามโดยสิ้นเชิง และมีเจตนาทำลายเครื่องมือสำคัญด้วยร่างกฎหมายฉบับนี้
“ผิดหวังต่อ คสช.และประธานบอร์ดสลากฯ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ที่ยอมให้สำนักงานสลาก ทำลายความตั้งใจเดิมของคสช. หวังว่าทั้ง คสช.และประธานบอร์ดสลากฯ จะเร่งทบทวนเรื่องนี้ ส่งสัญญาณที่ถูกต้องในการพิจารณากฎหมายฉบับนี้ ให้คงเจตนารมณ์เดิมของ คสช.ไว้มากกว่าทิ้งมรดกบาป และเป็นบ่อทองของนักการเมืองที่จะเข้ามาใหม่” นายณัฐพงศ์ กล่าว
นอกจากนี้ยังเรียกร้องว่าเครือข่ายฯหวังมากที่ช่วงแรกรัฐบาลเข้ามา แก้ปัญหาสลากฯเกินราคา และตั้งกองทุนสลากฯเพื่อพัฒนาสังคม วัตถุประสงค์สำคัญ ลดปัญหาจากการพนันในสังคม ถือเป็นเรื่องที่ก้าวหน้า แต่ท้ายที่สุดกองทุนนี้ไม่ได้สร้างคุณูปการกับสังคมตามเจตนารมณ์ ด้วยโครงสร้างการบริหารที่ไปอยู่ภายใต้สำนักงานสลากฯขาดความเป็นอิสระและการเข้าถึงของประชาชน ส่วนการแก้ปัญหาสลากฯเกินราคา ก็กลายเป็นตลกร้าย สับขาหลอกด้วยวิธีเพิ่มจำนวนสลากฯมอมเมาประชาชนมากขึ้น จนปัจจุบันมีการพิมพ์สลากฯออกจำหน่ายต่องวดสูงถึง 90 ล้านฉบับ โดยอ้างว่าจะช่วยแก้ปัญหาขายเกินราคา แต่วิธีนี้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า แก้ไม่ได้จริง
ด้านดร.เจิมศักดิ์ ปิ่นทอง ศาสตราภิชาน มหาวิทยาลัยรังสิตให้ความเห็นต่อร่างพ.ร.บ.สลากกินแบ่งรัฐบาลที่สนช.เห็นชอบในหลักการวาระแรกว่า เป็นเรื่องเกาผิดที่คัน และการแก้ปัญหาขายสลากเกินราคาของรัฐบาลด้วยการเพิ่มจำนวนสลากจาก 37 ล้านฉบับเป็น 90 ล้านฉบับ ไม่ได้ผล และยังถูกมองว่ามอมเมาผู้มีรายได้น้อย ทั้งนี้ ตนมีข้อเสนอต่อสนช.ระหว่างการพิจารณาแก้พ.ร.บ.สำนักงานสลากฯที่คณะรัฐมนตรีเสนอว่า เป็นการเปิดโอกาสให้สำนักงานสลากฯออกผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ที่เป็นการพนันได้มากขึ้น รวมถึงการออกหวยออนไลน์รูปแบบต่าง ๆ เพื่อดึงดูดเล้าใจผู้บริโภคได้มากขึ้น ซึ่งการแก้กฎหมายลักษณะนี้คือ การให้เช็คเปล่ารัฐบาลในการออกผลิตภัณฑ์ สินค้าการพนันที่รัฐเป็นเจ้าของ ที่สำคัญน่าติดตามดู เรื่องการปรับโครงสร้างส่วนแบ่งรายได้เข้าแผ่นดินครั้งใหญ่ รวมๆว่ารายได้ของแผ่นดินจะลดลงประมาณเกือบ 9 พันล้านบาทต่อปี และสำนักงานสลากฯ จะมีรายได้เพิ่มขึ้นปีละเกือบ 9 พันล้านบาท เขาเอาไปทำอะไร
ดร.เจิมศักดิ์ยังมีข้อเสนอแนะโดยไม่ต้องแก้ พ.ร.บ.สำนักงานสลากฯและสอดคล้องกับข้อเสนอของมหาวิทยาลัยรังสิต และองค์กรพัฒนาเอกชน 4 องค์กรด้วยว่ากองสลากควรนำความก้าวหน้าของเทคโนโลยีและงานศึกษาวิจัยทางวิชาการมาแก้ปัญหาสลากโดยเฉพาะการใช้แอปพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือ ซึ่งไม่ใช่เป็นหวยออนไลน์ เพียง เพียงแต่ผู้ซื้อโหลดแอปพลิเคชั่นของสำนักงานสลาก แล้วซื้อตรงได้เลย ตัดคนกลาง โดยกดเลือกใบสลากและจ่ายโอนเงิน พร้อมระบุบัตรประชาชนหรือสแกนลายนิ้วมือผู้ซื้อ
ทั้งนี้ ถ้าถูกรางวัล กองสลากฯจะโอนเงินที่หักภาษี มาให้ตามเลขบัญชีที่โอนไปซื้อสลาก ป้องกันการแอบอ้างความเป็นเจ้าของ และสามารถจำกัดอายุคนซื้อ เพราะเลขบัตรประชาชนจะบอกข้อมูลคนซื้อ ในส่วนคนซื้อเลือกใบสลากได้ เลขใดก็ได้ ในราคาคงที่เท่ากัน ที่สำคัญรัฐบาลสามารถลดปริมาณสลากให้เกลือเท่าเดิมคือ 37ล้านฉบับหรือลดลงได้อีก พ้นข้อกล่าวหามอมเมาประชาชน
อย่างไรก็ตามวิธีการนี้อาจกระทบต่อผู้ขายสลากที่ได้รับจัดสรรโควต้าพิเศษ เช่น ผู้พิการ หรือผู้ซื้อที่อยู่ห่างไกล ไม่มีอินเตอร์เน็ต แต่เมื่อพิจารณาว่าสลากฯ เป็นสินค้าสิ่งไม่พึงจะส่งเสริม ที่จะแพร่ขยายการบริโภคและการจำหน่าย การจำกัดการเข้าถึงอย่างสะดวกในพื้นที่ห่างไกล ก็ไม่น่าจะส่งผลกระทบมากนัก
ดร.เจิมศักดิ์ ระบุด้วยว่าในระยะแรกที่ผู้บริโภคบางคน อาจไม่คุ้นเคยกับการซื้อสลากผ่านแอปพลิเคชั่น ให้มีผู้ค้าปลีกที่ขายสลากผ่านแอปพลิเคชั่นในบางพื้นที่ ซึ่งจะสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยกว่า ขณะนี้เจ้ามือหวยเถื่อนก็ขายหวยเถื่อนผ่านแอปพลิเคชั่นมาก่อนหน้าแล้ว
“เมื่อเทคโนโลยีใหม่ในยุค 4.0 พัฒนาขึ้น ธุรกรรมการซื้อขายสลากฯก็น่าจะพัฒนา เพื่อแก้ปัญหาการเอารัดเอาเปรียบผู้บริโภค ประสิทธิภาพการดำเนินการและการกระจายสลาก ต้นทุนทางการตลาดที่มีมูลค่า 17% ของรายได้จากการขายสลากฯ คิดเป็นเงินเกือบ 3 หมื่นล้านบาทต่อปีคำนวณจากสลากฯ งวดละ 90 ล้านฉบับ ที่ต้องละลายไปกับระบบพิมพ์กับระบบจัดจำหน่ายที่ล้าหลัง สามารถนำมาพัฒนาจ้างงานรองรับคนขายสลากเดิมและยังเหลือเพื่อพัฒนาประเทศ”ดร.เจิมศักดิ์ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี