ยกประชาชนเป็นใหญ่

‘มารค’สั่งลุย

ส่งรถหาเสียงทั่วปท.

เปิดตัว30ผู้สมัครกทม.

อุตตมนำพปชร.บุกเชียงราย

โพลล์ให้‘บิ๊กตู่’บริหารต่อ

“บิ๊กตู่” เยือนเหนือประชุมครม.สัญจรเชียงใหม่-ลำปาง “ซูเปอร์โพล” เผยผลสำรวจย้ำนักการเมืองยังไม่มีคุณธรรมมากพอจะเป็นรัฐบาล ทั้งมองไม่เห็นใครเหมาะสมมากกว่า “ประยุทธ์” ด้าน “ปชป.” ยึดอนุสาวรีย์ปชต.ปล่อยขบวนรถหาเสียงทั่วประเทศ ชูสโลแกน “ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต” พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครสส.กทม.30 เขต “อภิสิทธิ์” ปลุกคนไทยไปเลือกตั้ง ดับฝัน 250 สว.ข้ามหัวประชาชน

เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2562 พล.ต.สาธิต ศรีสุวรรณ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 33 เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมรองรับการประชุมครม.สัญจร

เชียงใหม่-ลำปาง ของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรี ในระหว่างวันที่ 14-15 มกราคม 2562 นี้ว่า มีการประชุมซักซ้อมทำความเข้าใจทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องแล้ว ซึ่งก็จะเป็นไปตามแผนและหลักสากลในการอารักขาบุคคลสำคัญอยู่แล้ว เชื่อว่าจะไม่มีปัญหาอะไรอย่างแน่นอน

“สำหรับกลุ่มบุคคลที่อาจจะมีการออกมาเรียกร้องหรือชุมนุมในช่วงที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีเดินทางมาปฏิบัติราชการในพื้นที่นั้น ในแต่ละจุดจะมีศูนย์ดำรงธรรมมารอรับทราบปัญหาและข้อมูลที่ประชาชนต้องการเรียกร้องแล้ว ซึ่งเข้าใจดีว่าแต่ละกลุ่มก็อาจจะมีเจตนาต้องการแสดงออกในเชิงสัญลักษณ์หรือมีการชูป้ายอะไรต่างๆ แต่หากขอร้องได้ ก็ไม่อยากให้ทำหรือเคลื่อนไหวอะไร เพราะปกตินายกรัฐมนตรีก็รับฟังปัญหาประชาชนในทุกเรื่องอยู่แล้ว” พล.ต.สาธิต

ย้ำจริยธรรมนักการเมืองต่ำ

นายนภดล กรรณิกา ผอ.สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดเผยว่า จากการสำรวจความเห็นประชาชน เรื่อง คุณธรรม จริยธรรม นักการเมือง จำนวน1,018ตัวอย่าง ระหว่าง วันที่11 – 12ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่าประชาชนร้อยละ71.4ระบุการรับรู้ภาพลักษณ์นักการเมืองในสื่อมวลชนมีข่าวเสื่อมเสียมากกว่า ร้อยละ28.6มีข่าวภาพลักษณ์ดูดีมากกว่า ที่น่าเป็นห่วงคือ ความเห็นต่อข่าวสัมพันธ์รักนักการเมืองกับนักเคลื่อนไหวในคลิปที่เผยแพร่ในสื่อต่างๆ ส่งผลต่อพรรคการเมือง นั้นร้อยละ58.7ระบุเสื่อมเสียต่อพรรคร้อยละ41.3ระบุไม่เสื่อมเสีย ส่วนข่าว กกต ลงมติรัฐมนตรีถือหุ้นสัมปทานรัฐผลประโยชน์ทับซ้อนมีผลต่อพรรคการเมือง ประชาชนร้อยละ64.4ระบุว่าเสื่อมเสียต่อพรรคการเมืองต้นสังกัด ร้อยละ35.6ระบุไม่เสื่อมเสีย

เมื่อถามถึง คุณธรรมจริยธรรมนักการเมืองที่จะเป็นรัฐบาลในอนาคต ร้อยละ76.7ระบุยังไม่มีคุณธรรมจริยธรรมมากพอ ยังไม่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ23.3ระบุมีมากพอแล้ว

ประยุทธ์เหมาะสมเป็นนายกฯ

เมื่อถามถึงบุคคลที่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ร้อยละ85.6ระบุว่ายังไม่มีใครเหมาะสมมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ร้อยละ14.4ระบุมีคนที่เหมาะสมมากกว่า

นายนภดล กล่าวต่อว่า รัฐมนตรีที่ถือหุ้นสัมปทานรัฐผลประโยชน์ทับซ้อนควรลาออกโดยเร็วที่สุดเป็นของขวัญวันเด็กให้แก่เด็กและเยาวชนของชาติ เพราะยุคนี้เป็นยุคที่รัฐบาลและ คสช. เข้ามาด้วยความหวังสูงสุดในการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปการเมืองให้ดีขึ้น แต่หากยังนิ่งเฉยรอเวลาต่อไปอีกอาจส่งผลกระทบกัดกร่อนฐานสนับสนุนและเสียหายต่อความเชื่อมั่นศรัทธาได้ เพราะวันนี้ผลสำรวจชี้ชัดว่า ประชาชนส่วนใหญ่ยังไม่เห็นมีใครเหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ดังนั้นเพื่อไม่ให้กระทบต่อฐานสนับสนุนของสาธารณชนต่อนายกรัฐมนตรี รัฐบาล และ คสช. จึงเสนอให้รัฐมนตรีเหล่านั้นพิจารณาเสียสละลาออกทันทีเพื่อรักษาระบบคุณธรรมจริยธรมนักการเมืองเป็นของขวัญวันเด็กให้แก่เด็กและเยาวชนของชาติสืบทอดต่อไป

ปชป.เดือนหน้าหาเสียงกทม.

วันเดียวกัน ที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ฝั่งถนนดินสอ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค เช่น นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองหัวหน้าพรรค นายอลงกรณ์ พลบุตร รองหัวหน้าพรรค นายจุติ ไกรฤกษ์ เลขาธิการพรรค และสมาชิกพรรค จัดกิจกรรมปล่อยขบวนรถคาราวานประกาศจุดยืนในการเลือกตั้ง ส.ส. ที่จะถึงนี้ จำนวน 50 คัน โดยชูคำขวัญ “แก้จน สร้างคน สร้างชาติ และ “ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต”พร้อมกับการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.กรุงเทพมหานคร ทั้ง 30 เขต โดยบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

เปิดตัวผู้สมัคร30สส.กรุงเทพ

โดยนายสรรเสริญ สมะลาภา รองหัวหน้าพรรค ดูแลพื้นที่ กทม. ได้เปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. ทั้ง 30 เขต ได้แก่ เขต 1 นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ เขต 2 น.ส.อรอนงค์ กาญจนชูศักดิ์ เขต 3 ม.ล.อภิมงคล โสณกุล เขต 4 นายอนุชา บูรพชัยศรี เขต 5 นายธนา ชีรวินิจ เขต 6 นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี เขต 7 นายคณวัฒน์ จันทรลาวัณย์ เขต 8 ดร.สรรเสริญ สมะลาภา เขต 9 พล.ต.ต.วิชัย สังข์ประไพ เขต 10 นายธัญญ์นิธิ ชวรัตน์นิธิโชติ เขต 11 ดร.สมชาย เวสารัชตระกูลเขต 12 นายรัฐพงศ์ ระหงษ์ เขต 13 นายพริษฐ์ วัชรสินธุ เขต 14 นายพรพรหม วิกิตเศรษฐ์เขต 15 นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย

เขต 16 นางฮูวัยดีย๊ะ พิศสุวรรณ อุเซ็ง เขต 17 น.ส.เบญญาภา เกษประดิษฐ์ เขต 18 นายอนันต์ ฤกษ์ดี เขต 19 นางนาถยา แดงบุหงา เขต 20 นายสามารถ มะลูลีม เขต 21 นายสุทธิ ปัญญาสกุลวงศ์ เขต 22 ทพ.สุรันต์ จันทร์พิทักษ์ เขต 23 นางนันทพร วีรกุลสุนทรเขต 24 นายสาทร ม่วงศิริ เขต 25 นายสากล ม่วงศิริ เขต 26 พ.ต.ท.นพ. สามารถ ม่วงศิริ เขต 27 นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เขต 28 นางอรอนงค์ คล้ายนก เขต 29 นายวิลาศ จันทร์พิทักษ์ และเขต 30 ผศ.ดร. รัชดา ธนาดิเรก

มาร์คปลุกใช้สิทธิ์เลือกตั้ง

ต่อมา นายอภิสิทธิ์ ได้ขึ้นเวทีปราศรัยประกาศจุดยืนของพรรคว่า ในปัจจุบัน อาจจะยังไม่แน่นอนเรื่องวันเลือกตั้ง แต่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้ชัดแจ้งว่า การเลือกตั้ง ส.ส.ต้องมีขึ้นใน 150 วัน นับจากกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.มีผลบังคับใช้ ซึ่งการเลือกตั้งต้องเกิดขึ้นก่อน 9 พฤษภาคมนี้ ซึ่งทางพรรคยืนยันว่า ความไม่แน่นอนจะเป็นอย่างไร แต่ประเทศไทยต้องกลับคืนสู่หนทางประชาธิปไตย อันเป็นหลักประกันว่า คนที่เข้ามาจะต้องตอบโจทย์ในการแก้ปัญหาเพื่อตอบสนองประชาชน ดังนั้นทางพรรคฯ จึงขอปล่อยขบวนรถประชาธิปไตย เพื่อบอกว่า การเดินหน้าครั้งนี้ จะต้องไม่วนกลับ พอแล้วกับการเมืองที่วนเวียนวัฏจักร เลือกตั้งแล้วผู้มีอำนาจทุจริต ก่อความขัดแย้ง วนมายังการรัฐประหาร จนบริหารบ้านเมืองมีสภาวะแบบที่เป็นอยู่ ดังเช่น 4-5 ปีที่เผชิญกันมา

ไม่ให้250สว.โหวตนายกฯ

นายอภิสิทธิ์ กล่าวต่อว่า ขบวนรถประชาธิปไตยจะต้องไม่วนกลับ โดยการรักษาประชาธิปไตยให้ยั่งยืนต้องถือคติ 2 ข้อ คือ 1.ประชาชนเป็นใหญ่ ถ้าไม่ ก็ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง การเดินหน้าประชาธิปไตยวันนี้ แม้มีการเลือกตั้ง แต่กติกาในรัฐธรรมนูญไม่ได้ถูกออกแบบเป็นประชาธิปไตยร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงอยากให้ประชาชนส่งเสียงดังๆได้โดยการไปเลือกตั้ง เพื่อให้ดังพอจน 250 ส.ว.แต่งตั้งต้องเคารพผลการเลือกตั้ง ไม่ให้รัฐบาลหลังการเลือกตั้งฝืนเสียงประชาชนแล้วนำไปสู่ความขัดแย้ง อีก และ 2.ประชาธิปไตยสุจริต คนที่อ้างตนเองเป็นประชาธิปไตยมาจากการเลือกตั้งนั้น ประชาธิปไตยที่ยั่งยืน ต้องไม่ใช่แค่มีอำนาจ แต่ต้องใช้อำนาจอย่างสุจริตด้วย ไม่ใช่เพื่อพวกพ้องหรือบุคคล ละเมิดสิทธิของคนในสังคม จนนำไปสู่ความขัดแย้ง จึงเป็นคำขวัญของพรรคในการเลือกตั้งครั้งนี้ว่า “ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยสุจริต”

“นอกจากมีอุดมการณ์แล้วต้องตอบโจทย์การแก้ปัญหาของประเทศได้ด้วย ซึ่งทางพรรคมีภารกิจสำคัญคือ แก้จน สร้างคน สร้างชาติ ปัญหาความเหลื่อมล้ำคือเรื่องใหญ่ที่สุด โดยขบวนรถของพรรคพร้อมออกไปอธิบายกับคนไทยทั้งประเทศกว่า 80,000 หมู่บ้าน ให้เข้าใจว่าเรามีวิธีอย่างไร ขจัดการผูกขาดทั้งภาครัฐภาคเอกชน ปฏิรูประบบภาษี ทางพรรคจะแก้ปัญหาอย่างเด็ดขาดยั่งยืน ไม่ฉาบฉวยชั่วคราว การเลือกตั้งครั้งนี้คือโอกาสทอง ในการพาประเทศไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองอย่างแท้จริง จึงขอปล่อยขบวนรถประชาธิปไตยไปทั่วประเทศ เพื่อเยี่ยมเยียนเชิญชวนให้มาร่วมกันเข้าสู่ยุคใหม่อย่างแท้จริง” นายอภิสิทธิ์กล่าว

กำนันสุเทพมั่นใจได้สส.ตาก

วันเดียวกัน นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานคณะทำงานพรรครวมพลังประชาชาติไทย พร้อมด้วย นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายสำราญ ยอดเพชร ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค และนายเอกสิทธิ์ คุ้มอรุณรัตนกุล นางหยดฝน ผู้กำจัด และนายพูลศักดิ์ ตันยา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดตาก เดินรณรงค์เชิญชวนประชาชนสมัครเป็นสมาชิกพรรค โดยเริ่มปฏิบัติการเดินคารวะแผ่นดิน คารวะประชาชนที่บริเวณตลาดวังหิน

นายสุเทพ กล่าวว่า ได้รับการต้อนรับจากประชาชนอย่างดี เกินความคาดหมาย พร้อมเชื่อว่าพรรคมีโอกาสที่จะมี ส.ส.ที่จ.ตาก และหลังจากเสร็จสิ้นภารกิจที่ จ.ตาก แล้ว นายสุเทพและคณะเดินทางต่อไปที่ จ.กำแพงเพชร

‘พปชร.’หาเสียงเขตบางแค

ด้านนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ประเดิมลงพื้นที่ย่านตลาดบางแค พร้อมด้วยนายกฤชนนท์ อัยยปัญญา ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. กรุงเทพมหานคร เขต 28 เพื่อรับฟังความคิดเห็น และพบปะพ่อค้าแม่ค้า รวมถึงประชาชนที่มาจับจ่ายใช้สอย พร้อมสอบถามถึงปัญหา และอุปสรรคในการค้าขาย โดยเฉพาะหาบเร่แผงลอยบนฟุตปาธ ริมถนนย่านบางแค ที่ร้องเรียนขอให้ พรรคพลังประชารัฐ ช่วยแก้ปัญหาการไล่รื้อ หลังการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินแล้วเสร็จในปลายปี 2562 พร้อมขอให้ตลาดบางแคเป็นต้นแบบของการอยู่ร่วมกันกับการพัฒนา กทม.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีตัวแทนจากวินมอเตอร์ไซค์ตลาดบางแค ออกมาแสดงความคิดเห็นขอให้ พรรคพลังประชารัฐช่วยดูแล การจัดทำป้ายราคากลาง เพื่อความเท่าเทียม ขอบคุณรัฐบาลที่เข้ามาจัดระเบียบ จนทำให้ไม่มีมาเฟีย อำนาจมืด แทรกแซงการทำมาหากินของชาวบ้าน นอกจากนี้ พ่อค้าย่านตลาดบางแค ยังสะท้อนถึงนโยบายรัฐบาลที่ผลักดันให้ พ่อค้าแม่ค้าในตลาดที่จัดตั้งแผงลอยผิดกฎหมาย ออกจากพื้นที่ ทำให้ต้องพยายามปรับตัว เปลี่ยนแปลงการค้าขายในทางที่ดีขึ้น จนพื้นสะอาด และไม่เบียดเบียนพื้นผิวจราจร พร้อมฝากให้ช่วยดูแลให้ตลาดอยู่คู่กับคนบางแคตลอดไป

ประชาชาติยกทัพลุยชายแดนใต้

ขณะที่ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ พร้อมคณะเดินทางไปพบปะประชาชน ในย่านตลาดเก่าเขตเทศบาลนครยะลา จังหวัดยะลา พร้อมร่วมกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติของชุมชน

พ.ต.อ.ทวี กล่าวถึงการตอบรับในการเดินทางหาเสียงทั่วประเทศว่า พรรคประชาชาติได้ส่งผู้สมัคร ส.ส.ทุกจังหวัดทั่วประเทศ การลงพื้นที่มีการตอบรับที่ดี พรรคเน้นนโยบายส่งเสริมสังคมพหุวัฒนธรรม ซึ่งหมายถึงวัฒนธรรมแห่งความเท่าเทียมกันซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับประเทศไทย ปัจจุบันมีการพัฒนาประเทศไปถึงจุดที่มีความเลื่อมล้ำมากอย่างผิดปกติ เนื่องจากคนกลุ่มหนึ่งได้ประโยชน์มากกว่าอีกกลุ่มหนึ่ง คนทุกกลุ่มทั่วประเทศแม้จะมีความแตกต่างหลากหลาย ก็ต้องมีความเท่าเทียมกัน เราต้องส่งเสริมการกระจายอำนาจที่จะส่งเสริมให้ท้องถิ่นต่าง ๆ มีอำนาจในการบริหาร การปกครอง และการออกกฎเกณฑ์เพื่อปกครองท้องถิ่นของตนเอง

เลขาธิการพรรคประชาชาติ กล่าวอีกว่า หากได้ร่วมจัดตั้งรัฐบาล พรรคประชาชาติจะต้องทำในสิ่งที่ได้หาเสียงไว้ และจะร่วมจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคที่มีแนวคิดส่งเสริมหลักประชาธิปไตย ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญ และมองว่าการเมืองจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของสังคมในทางที่ดีขึ้น จากการลงพื้นที่ได้รับเสียงสะท้อนจากประชาชนเรื่องเศรษฐกิจพบว่ามีกำลังซื้อน้อยลง และปัญหาที่สำคัญอีกเรื่องคือกฎหมายที่เกิดขึ้นในยุคที่มีการปฏิวัติเป็นกฎหมายที่ทำให้วิถีชีวิตของประชาชนลำบากมากขึ้น

ติงผบ.ทบ.พูดทำสังคมแตกแยก

นายจาตุรนต์ ฉายแสง ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.)โพสต์เฟซบุ๊กกรณีพล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ออกมาพูดถึงกลุ่มคนอยากเลือกตั้งออกมารณรงค์ไม่ให้มีการเลื่อนเลือกตั้งว่า การที่ผบ.ทบ.พูดถึงกลุ่มคนอยากเลือกตั้งและประชาชนที่คัดค้านการเลื่อนการเลือกตั้ง แสดงถึงความไม่เข้าใจเรื่องเสรีภาพและประชาธิปไตย มีอคติ คับแคบและเป็นการใช้คำพูดที่ไม่เหมาะสม ทำให้เกิดการแบ่งฝักแบ่งฝ่ายแตกแยกในสังคมในประเทศที่เป็นประชาธิปไตยนั้นการชุมนุมแสดงความคิดเห็นย่อมเป็นสิทธิเสรีภาพ ตราบใดที่ไม่ได้ทำผิดกฎหมายอะไร จะว่าเป็นความวุ่นวายได้อย่างไร การพูดว่าพวกนี้มีหน้าที่สร้างความวุ่นวายและมีคนสั่งให้ทำก็แสดงถึงความมีอคติ ไม่มีหลักฐานข้อเท็จจริงอะไรรองรับ เป็นการดูถูกประชาชนที่ชุมนุมคัดค้านการเลื่อนตั้งที่ไม่ได้มีเฉพาะกลุ่มคนอยากเลือกตั้ง แต่รวมถึงคนอีกมากมายทั่วประเทศที่อยากให้มีการเลือกตั้งโดยเร็วตามกำหนดที่ประกาศไว้