รบ.ตั้งวอร์รมส้ฝ่นพิษ
นายกฯฮึ่มปิดโรงงาน
อุตตมจี้ตรวจทั่วประเทศ
ตร.เพิ่มด่านจับควันดำ
ห้ามรถใช้ดีเซลเข้ากทม.
“คพ.”เผยกทม.ฝุ่นพิษยังส่งผลกระทบสุขภาพ 20 เขต น่าเป็นห่วง กรมฝนหลวงฯ บินทำฝนเทียม 2 รอบ นครบาลเพิ่มด่านจับควันดำ เข้มรถขนาดใหญ่ใช้ดีเซล ห้ามเข้าเมืองชั่วโมงเร่งด่วน ตั้งวอร์รูมลุย 9 มาตรการเข้มงวด ขณะที่นายกฯขันนอตทุกหน่วยลดฝุ่น สั่งอุตฯตรวจโรงงานสร้างมลพิษ เจอสั่งปิดสถานเดียว
เมื่อวันที่ 15 มกราคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เฟซบุ๊คกรมควบคุมมลพิษ (คพ.) ได้รายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอนหรือ PM 2.5ว่า จากสภาพอุตุนิยมวิทยาที่อากาศในช่วงเช้า มีการลอยของอากาศในแนวตั้งค่อนข้างดีในช่วงระดับต่ำและอุณหภูมิเพิ่มขึ้นตามความสูง (Inversion) ระดับล่าง ระดับ 1 กิโลเมตร อากาศลอยขึ้นไปได้ดี ระดับ Level condensation level (LCL) อยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 274 เมตร ระดับ LFC 1,257 เมตร
อากาศกทม.ยังกระทบสุขภาพ
ขณะเดียวกัน ลักษณะของอากาศ ระดับบนมวลอากาศเย็นกว่าสิ่งแวดล้อมจะกดอากาศที่อุ่นกว่าไว้ ทำให้อากาศไม่สามารถลอยตัวขึ้นไประดับชั้นบรรยากาศระดับบนๆ ลมค่อนข้างสงบในช่วงเช้า ส่งผลทำให้สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 พื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลวันนี้ คุณภาพอากาศโดยรวมยังอยู่ในระดับ เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ ดังนี้
พื้นที่ริมถนน โดยสถานีวัดคุณภาพอากาศแสดงผลค่าฝุ่นละออง PM 2.5 โดยรวมอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ มีค่าเกินมาตรฐาน (50 มคก./ลบ.ม.)อยู่ 22 พื้นที่ มีแนวโน้มไม่เปลี่ยนแปลงจากเมื่อวันที่ 14 มกราคม และพื้นที่ทั่วไป (ห่างจากริมถนนสายหลัก) โดยรวมอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ มีค่าเกินมาตรฐาน 50 มคก./ลบ.ม. อยู่ 15 พื้นที่ มีแนวโน้มลดลง คาดการณ์ว่าคุณภาพอากาศวันที่ 16 มกราคม จะอยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ และจากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา พื้นที่ กทม.และปริมณฑล มีโอกาสมีฝน 10 % ครอบคลุมพื้นที่กรุงเทพฯชั้นในด้วย คพ.ได้ประสานเพื่อบูรณาการการดำเนินมาตรการป้องกันและแก้ไขปัญหา PM2.5 ร่วมกับ กทม. บก.จร. ขนส่ง กองทัพฯ กรมอุตุนิยมวิทยา ผวจ.ปริมณฑล ทั้ง 5 จังหวัด อย่างต่อเนื่อง ประกอบด้วยมาตรการ ดังต่อไปนี้
ตั้งวอร์รูมเข้ม9มาตรการแก้ฝุ่น
1.เพิ่มความถี่กวาดล้างทำความสะอาดถนน และฉีดพ่นน้ำในอากาศตั้งแต่เวลา 18.00-06.00 น. ทุกวัน จนกว่าฝุ่นละอองจะลดลง 2.แจกหน้ากากอนามัย N95 ในพื้นที่งานอุ่นไอรัก สวนลุมพินี บางคอแหลม จตุจักร บางกะปิ บางขุนเทียน โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มเสี่ยง ผู้ป่วย คนชรา เด็ก และผู้ปฏิบัติงานใกล้ชิดกับแหล่งกำเนิด 3.เข้มงวดตรวจจับรถควันดำและบังคับใช้กฎหมายเคร่งครัดกับรถยนต์ทุกประเภท 4.ตั้งคณะกรรมการร่วมแก้ปัญหาฝุ่นละอองจากเส้นทางก่อสร้างรถไฟฟ้า เร่งคืนพื้นผิวการจราจร ณ จุดที่ดำเนินการเสร็จแล้ว สำหรับจุดที่อยู่ระหว่างดำเนินการ จะปรับพื้นที่ผิวถนนให้กว้างขึ้น โดยบีบหรือลดพื้นที่การก่อสร้างบนพื้นผิวการจราจรให้แคบลง
5.ตั้งคณะทำงานร่วมกันแก้ปัญหาฝุ่นละอองจากการก่อสร้างอาคารสูงและระบบสาธารณูปโภคโดยจะดำเนินการตามมาตรการลดฝุ่นละอองให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ 6.การแก้ปัญหาจราจรติดขัด เข้มงวดการจอดรถริมถนนสายหลัง 7.เข้มงวดไม่ให้เผาขยะและเผาในที่โล่ง 8.รณรงค์ไม่ให้ติดเครื่องยนต์ขณะจอดในสถานที่ราชการ โรงพยาบาล โรงเรียนและพื้นที่มลพิษสูง 9.การทำฝนเทียม กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ซึ่งตั้งหน่วยเคลื่อนที่เร็วจ.ระยอง เตรียมทำฝนเทียมตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 19 มกราคม
พบ20เขตยังเกินมาตรฐาน
ขณะที่กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อม กทม.รายงานผลตรวจวัดฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ PM 2.5 วันที่ 15มกราคม เวลา 08.00น.ค่าเฉลี่ย 24ชั่วโมง พบว่า ผลตรวจวัดเกินค่ามาตรฐาน 50 มคก./ลบ.ม.เฉลี่ยอยู่ที่ 53-90 มคก./ลบ.ม. อยู่ในระดับเริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ 20 เขต คือเขตสัมพันธวงศ์ วังทองหลาง พญาไท ปทุมวัน บางรัก สาทร คลองเตย บางคอแหลม ยานนาวา จตุจักร ธนบุรี บางกอกน้อย ภาษีเจริญ หลักสี่ บางเขน บางขุนเทียน พระนคร บึงกุ่ม บางซื่อ และราชเทวี
ความกดสูงทำฝนตกช่วยลดฝุ่น
ผู้สื่อข่าวรายงานสภาพอากาศหลายพื้นที่ของกรุงเทพมหานครและปริมณฑลช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ว่า มีฝนตกลงมาหลายพื้นที่ ทำให้มีความหวังที่จะลดปริมาณฝุ่นละอองและฝุ่นพิษในอากาศเกินมาตรฐานมาหลายวันได้ โดยแบบจำลองสภาพอากาศ (วาฟ-รอม) สถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร(สสนก.) กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.)ระบุว่า ฝนที่ตกลงมาหลายพื้นที่ขณะนี้ เกิดจากอิทธิพลของความกดอากาศสูงระลอกใหม่าจากประเทศจีน ส่งผลให้หลายพื้นที่ ภาคเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพและปริมณฑลมีฝนตก มีลมพัดอาจส่งผลให้ปริมาณฝุ่นสะสมในบรรยากาศเบาบางลง ไม่ใช่การทำฝนเทียม
เพิ่มด่านควันดำ-ห้ามรถดีเซลเข้า
ขณะที่หลายหน่วยงาน เร่งออกมาตรการแก้ปัญหาฝุ่นละอองควันพิษที่เกินมาตรฐานในกทม.และปริมณฑล โดยพล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเปิดเผยว่า ได้เพิ่มการตั้งด่านตรวจปัญหาควันดำ หนึ่งในต้นตอปัญหาฝุ่นละอองจาก 12 ด่านเป็น 20 ด่าน โดยเฉพาะย่านชานเมืองกรุงเทพฯ อาทิ ฝั่งธนบุรี บางขุนเทียน บางชัน บางคอแหลม จตุจักร บางนา พระราม 2 ที่มีค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน พร้อมประชาสัมพันธ์ไม่ให้รถขนาดใหญ่และใช้น้ำมันดีเซลเข้ากรุงเทพฯชั้นใน ช่วงเวลาเร่งด่วน พร้อมเสนอขอเครื่องตรวจจับควันดำเพิ่ม จากกรมควบคุมมลพิษ อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบรถดีเซลขนส่งมี 500,000 คัน พบ 100,000 คัน มีควันดำเกินค่ามาตรฐาน อยู่ระหว่างตรวจสอบว่าวิ่งเส้นทางใดบ้าง
นายกฯขันน๊อตทุกหน่วยลดฝุ่น
ด้านท่าทีของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ถึงการแก้ปัญหาฝุ่นละอองสูงเกินมาตรฐานใน กทม.และปริมณฑลส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนว่า ปัญหาฝุ่นละอองในบ้านเรามาจากหลายสาเหตุ ซึ่งตนกำชับทั้งเรื่องการขนส่ง รถเมล์ รถบรรทุก ขณะที่กระทรวงอุตสาหกรรมได้ตรวจสอบโรงงานทั้งหมด รวมถึงฉีดน้ำล้างพื้นถนน บ้านเรือน ลดฝุ่นตกค้าง ส่วนการทำฝนหลวงนั้น เตรียมพร้อมไว้แล้ว สภาพอากาศความชื้นพอเมื่อใดปฎิบัติการได้ทันที ขณะเดียวกัน ก็ต้องแก้ปัญหาจราจรรถติด การไม่เผาไร่นา ซึ่งยังมีให้เห็นอยู่ ตนจึงสั่งให้ทุกหน่วยงานเข้มงวดกวดขัน รัฐบาลพยายามให้เลิกทำสิ่งเหล่านี้ให้ได้ ทุกคนต้องช่วยกัน คนที่ทำให้เกิดฝุ่นละอองมีหลายประเภท จะโทษกันไปมาไม่ได้ต้องช่วยกัน วันนี้กรุงเทพฯมีปัญหาฝุ่น เนื่องจากปัญหาจราจรและการก่อสร้าง ซึ่งเป็นเรื่องปกติแต่เราจะคุมได้อย่างไร และอีกเรื่องที่สำคัญคือ ฤดูนี้เกิดความกดอากาศต่ำ ซึ่งปกติฝุ่นละอองจะปลิวขึ้นไปในอากาศแล้วจางลง แต่เมื่อความกดอากาศต่ำฝุ่นละอองจึงลงมาข้างล่าง
ฮึ่มสั่งปิดรง.ปล่อยฝุ่นควันพิษ
ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเทศอุตสาหกรรมกำหนดค่าฝุ่นละอองไว้ที่ 25 ไมครอน แต่ไทยกำหนดไว้ 50 ไมครอน กำหนดไว้สูงเกินไปหรือไม่ นายกฯกล่าวว่า ต้องควบคุม จะมอบหมายให้กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปหามาตรการ รวมถึงด้านกฎหมาย ซึ่งกำชับไปแล้วถ้าผิดกฎหมายต้องปิดปรับปรุง ทุกคนก็อยากให้ใช้ยาแรง แต่เมื่อใช้ยาแรงก็มีปัญหาทันที เพราะคนไม่เคารพกฎหมาย จะโยนให้ใครรับผิดชอบทั้งหมดไม่ได้ จึงอยากให้ทุกคนมีส่วนร่วมช่วยรัฐบาลแก้ปัญหา ไม่ใช่ยังเอาเปรียบกันอยู่ และปล่อยฝุ่นละอองให้ฟุ้งกระจายเหมือนเดิม ขณะเดียวกันต้องทำโรงงานอุตสาหกรรมให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ดังนั้น ต่อไปนี้ตนจะให้ปิดให้หมด
อุตฯตั้งคณะตรวจรง.ปล่อยฝุ่น
นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรมสั่งการให้หน่วยงานในสังกัดทั้งหมดกำชับผู้ประกอบกิจการอุตสาหกรรมที่อยู่ในความรับผิดชอบ กำหนดมาตรการ ปรับปรุงกระบวนการทำงาน ป้องกันไม่ให้เกิดหรือลดปัญหาฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM2.5) ที่มีสาเหตุจากกระบวนการอุตสาหกรรม รวมทั้งให้สำรวจการประกอบกิจการอุตสาหกรรมที่มีความเสี่ยงเป็นสาเหตุให้เกิดปัญหาดังกล่าว โดยตั้งคณะทำงานวางแผนติดตามจัดการมลพิษ ฝุ่นละอองจากโรงงาน มีปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธาน ทำหน้าที่ตรวจสอบ แก้ปัญหามลพิษฝุ่นละอองโรงงานนอกจากนี้ สั่งให้อุตสาหกรรมจังหวัดทั่วประเทศ ตรวจโรงงานเสี่ยงปล่อยฝุ่นทั่วประเทศ ถ้าตรวจพบมีการปล่อยมลพิษทางอากาศเกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด จะดำเนินคดีอย่างเด็ดขาด
ทำฝนหลวงลดมลพิษเมืองกรุง
นายสุรสีห์ กิตติมณฑล อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กระทรวงเกษตรฯเผยว่า หน่วยเคลื่นที่เร็วปฎิบัติการฝนหลวง ขึ้นบินทำฝนหลวง ที่จ.ระยองสองรอบแล้ว เพื่อเร่งทำฝนหลวงบริเวณจ.ฉะเชิงเทรา และจ.นครนายก โดยให้กระแสลมพาเฆมฝนมาตกในกทม.และปริมณฑล แก้ปัญหาฝุ่นละออง โดยสภาพอากาศขณะนี้มีแนวโน้มทำฝนหลวงได้จนถึงวันที่ 18 มกราคม คาดว่าจากปฎิบัติการต่อเนื่องจะทำให้เกิดฝนตกในกทม.ต่อเนื่อง
ล่าชื่อจี้รัฐออกมาตรการด่วน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เว็บไซต์ change.org ออกเคมเปญรณรงค์ “ออกมาตรการเร่งด่วนแก้วิกฤตฝุ่นรุนแรง ที่ไม่ใช่การฉีดน้ำ!” เรียกร้องให้ภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีมาตรการแก้ปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5 ในกทม.และปริมณฑล ที่มีปริมาณเกินค่ามาตรฐานอยู่ในภาวะที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ มีผู้มาลงชื่อสนับสนุนแล้ว 1,829 คน ณ เวลา 15.18 น.
สาระสำคัญของการรณรงค์ดังกล่าวนั้น ต้องการมากกว่าแค่การฉีดน้ำไปวันๆ 379 คือ ระดับฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอนที่วัดได้สูงสุดในพื้นที่สะพานควายเมื่อเช้านี้ แสดงว่าอากาศเป็นพิษในระดับรุนแรง การฉีดน้ำช่วยเฉพาะฝุ่นเม็ดใหญ่ ทำได้เพียงชั่วคราว และที่สำคัญอาจไปรบกวนเซ็นเซอร์วัดฝุ่นทำให้การวัดค่าฝุ่นออกมาผิดเพี้ยน แต่ปัญหาที่กทม.กำลังผชิญขณะนี้ เป็นฝุ่นขนาดเล็กจากรถยนต์เป็นหลัก หยดน้ำที่กทม.ฉีดใหญ่กว่าขนาดฝุ่น เลยจับฝุ่นไม่ได้ ต้องใช้วิธีอื่นเพิ่มเติมทั้งในระยะเร่งด่วนและระยะยาวและควรต้องยกปัญหาให้เทียบเท่าภัยพิบัติระดับชาติ เพราะส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี