"ธนา"โต้"ณัฐวุฒิ"หลังพาดพิงปชป.บอยคอตการเลือกตั้งปี2557 ซัดทิ้งอุดมการณ์เพื่อไทยซบไทยรักษาชาติ หวังมีโอกาสกลับนั่งเป็นส.ส.
17 ม.ค.62 ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงข่าวตอบโต้ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง พรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.) ได้ระบุถึงการที่พรรคประชาธิปัตย์ไม่ส่งผู้สมัครลงแข่งขันในการเลือกตั้งปี 2557 ว่าการที่นายณัฐวุฒิ กล่าวอ้างว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ เพื่อเปิดทางให้มีสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) และไม่มีการแก้เนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับสถาบันเบื้องสูง เสร็จแล้วก็จะมีการทำประชามติก่อนบังคับใช้ แต่ทางพรรคประชาธิปัตย์แก้เพื่อประโยชน์ในการแบ่งเขตเลือกตั้ง เพื่อหวังให้พรรครัฐบาลในขณะนั้นได้เปรียบในการเลือกตั้ง แล้วตัดพ้อว่า "ประชาธิปัตย์ทำได้ เพื่อไทยทำไม่ได้" นั้น ตนขออนุญาตชี้แจงว่า การที่พรรคเพื่อไทยเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญฯ ขณะนั้น ได้มีการแก้หลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นที่มาของ ส.ส.ร.การเลือกตั้ง ส.ว.ที่ให้คนในครอบครัวเดียวกันลงสมัครได้ ซึ่งจะทำให้การเลือกตั้งไม่บริสุทธิ์ยุติธรรม แต่ทางพรรคฯ ได้แก้ในเรื่องการแบ่งเขตเลือกตั้งให้ใหญ่ขึ้น ให้เป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญ พ.ศ.2550 กำหนด เพราะเชื่อว่า หากเขตเลือกตั้งมีขนาดใหญ่ขึ้น จะช่วยป้องกันการซื้อเสียงได้ และการสกัดกั้นการซื้อสิทธิ์ขายเสียงได้นั้น ถือเป็นหัวใจสำคัญ ในระบอบประชาธิปไตย ถ้าคนเข้าสู่การเลือกตั้ง เข้ามาโดยไม่ชอบแล้ว โอกาสที่เข้ามากอบโกยผลประโยชน์ เพราะต้องเสียทุนในการเลือกตั้ง ก็จะมีมากขึ้น
นายธนา กล่าวต่อว่า ในประเด็นที่นายณัฐวุฒิ กล่าวอ้างว่า ในร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอยนั้น หลายฝ่ายคัดค้าน ตัวของนายณัฐวุฒิก็ไม่ได้ลงคะแนนให้ รัฐบาลก็แสดงความรับผิดชอบ ซึ่งน่าจะจบตรงนี้ แต่พรรคประชาธิปัตย์กลับบอยคอตการเลือกตั้ง และขัดขวางกระบวนการเลือกตั้ง จนทำให้ประเทศเกิดทางตัน จนไปสู่การรัฐประหาร ซึ่งตนต้องขอย้อนกลับไปในเหตุการณ์ที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ในขณะนั้น เชิญทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้ามาร่วมประชุมหารือที่สโมสรกองทัพบก
โดยในที่ประชุมดังกล่าว นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ก็ได้เสนอทางออกให้กับทุกฝ่าย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการรัฐประหาร ซึ่งกลุ่มคนของนายณัฐวุฒิ ไม่เห็นชอบด้วย และท้ายที่สุด เมื่อไม่สามารถตกลงกันได้ จึงนำไปสู่การปฏิวัติรัฐประหารขึ้น ดังนั้น คำกล่าวอ้างของนายณัฐวุฒิ จึงไม่เป็นจริง แต่พรรคเพื่อไทยเอง กลับทำสิ่งที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของพรรคการเมืองไทย ก็คือ การออกกฎหมายเพื่อนิรโทษกรรมให้ นายทักษิณ ชินวัตร และแกนนำคนเสื้อแดง ที่ทำผิดกฎหมายบ้านเมือง และคนที่ได้ผลประโยชน์จากกฎหมายดังกล่าวนั่นก็คือ นายณัฐวุฒิ เพราะยอมให้นิรโทษกรรมกลุ่มที่อ้างว่าทำร้ายคนเสื้อแดง ซึ่งถ้านายณัฐวุฒิ ทำได้เพียงงดออกเสียงในกฎหมายดังกล่าว ตนเห็นว่า เป็นละครที่นายณัฐวุฒิ แสดงได้ไม่แนบเนียน
"นายณัฐวุฒิ ร่วมเป็นร่วมตาย อ้างกลุ่มคนเสื้อแดงมาเพื่อเรียกร้องประชาธิปไตย มีหลายคนสูญเสียชีวิต หลายคนบาดเจ็บ แต่นายณัฐวุฒิไม่ได้แสดงถึงความเป็นผู้นำในการรับผิดชอบความเสียหายที่เกิดขึ้นเลย ถ้านายณัฐวุฒิทำได้เพียงงดออกเสียง นั่นแสดงว่าวุฒิภาวะในการเป็นผู้นำแสดงความรับผิดชอบในทางการเมืองนั้น ไม่มีเหลืออีกแล้ว" นายธนา กล่าว
นายธนา กล่าวต่อไปว่า ส่วนที่นายณัฐวุฒิกล่าวอ้างว่า พรรคประชาธิปัตย์บอยคอตการเลือกตั้งนั้น ตนต้องขอบอกกับนายณัฐวุฒิ ว่า การบอยคอตเป็นสิทธิอย่างหนึ่งของพรรคการเมืองตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งหากเห็นว่าการเลือกตั้งนั้นไม่ชอบ และทำให้ประเทศกลับไปสู่ปัญหาอีกครั้งหนึ่ง ทางพรรคฯ ในเวลานั้น จึงตัดสินใจไม่เข้าสู่การเลือกตั้ง แม้ว่าการเลือกตั้ง ทางพรรคจะได้เป็น ส.ส.หรือดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติ ต้องเหนือกว่าผลประโยชน์ของพรรคการเมือง ทางพรรคฯ จึงตัดสินใจบอยคอตการเลือกตั้งเมื่อปี 2557 เพราะเห็นว่าเป็นประโยชน์มากกว่า ผิดกับนายณัฐวุฒิ ที่ยืนยันมาตลอดว่าอยู่พรรคเพื่อไทย แต่เมื่อมีแนวโน้มว่าพรรคเพื่อไทยจะไม่มี ส.ส.ในระบบบัญชีรายชื่อมากพอ นายณัฐวุฒิ จึงประกาศย้ายพรรค ไปอยู่กับพรรคไทยรักษาชาติ และมีการดำเนินงานที่เป็นลักษณะเป็นการฮั้วกันทางการเมือง ซึ่งขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560 ในการส่งผู้สมัคร ส.ส.เขต ที่ไม่ชนกับพรรคเพื่อไทย ตามที่ปรากฏเป็นข่าว ทั้งนี้ นายณัฐวุฒิ ทำได้แม้กระทั่งการย้ายพรรค แตกแบงค์ และทิ้งอุดมการณ์ทางการเมือง เพียงเพื่อให้ตัวเองได้มีโอกาสเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ในระบบบัญชีรายชื่อ ทิ้งแม้กระทั่งอุดมการณ์ของคนเสื้อแดง ที่วันนี้ไปรวมอยู่ที่พรรคเพื่อชาติ ถือเป็นสิ่งที่เห็นได้ชัดว่า การทำการเมืองและเจตนารมณ์ในการทำงานทางการเมืองของนายณัฐวุฒิ เป็นอย่างไร
ส่วนที่นายณัฐวุฒิอ้างว่า จากนั้นคนของพรรคประชาธิปัตย์ได้ทยอยมีตำแหน่งในรัฐบาลบ้าง ในแม่น้ำ 5 สายบ้าง ในองค์กรอิสระบ้างนั้น เพราะได้ร่วมกับ พล.อ.ประยุทธ์ ในการยึดอำนาจนั้น นายธนา กล่าวว่า คนที่นายณัฐวุฒิอ้างมานั้น ปัจจุบันได้ออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไปแล้วทั้งสิ้น แสดงให้เห็นว่า แนวอุดมการณ์ของพรรคฯ ไม่เกี่ยวเนื่องกับ คสช.แต่อย่างใด ส่วนการที่นายณัฐวุฒิระบุว่า รัฐบาลแสดงความรับผิดชอบด้วยการยุบสภา ซึ่งน่าจะจบตรงนี้ แล้วให้ประชาชนตัดสินใจตามวิถีทางประชาธิปไตยนั้น โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า พรรคฯ ดำเนินแนวทางในระบอบประชาธิปไตยแบบสันติ ในขณะที่ นายณัฐวุฒิใช้กำลังและความรุนแรงในการแก้ไขปัญหา
ถ้านายณัฐวุฒิเชื่อมั่นในคำพูดของตัวเองจริงว่า เมื่อรัฐบาลยุบสภาแล้วก็น่าจะเข้าสู่กระบวนการประชาธิปไตย ตนจะต้องขอรำลึกความคิดของนายณัฐวุฒิอีกครั้งในวันที่ 15 ธ.ค.51 วันที่มีการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีเสร็จสิ้น ตนกับสมาชิกพรรคฯ หลายคน ที่เดินทางออกจากสภา มีกลุ่มคนเสื้อแดงของนายณัฐวุฒิ เข้ารุมทำร้ายสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และพี่น้องประชาชนในขณะนั้น รถคันที่ถูกทุบนั้นเป็นรถของตน และตนนั่งอยู่ในรถ เกือบเสียชีวิตในวันนั้น นายณัฐวุฒิไม่เคยแสดงความรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ความเสียหายที่มีคนบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว สิ่งนี้หรือคือสิ่งที่บอกว่าให้เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย ปากกับใจนายณัฐวุฒินั้นไม่เคยตรงกัน
นายณัฐวุฒิระดมคนเสื้อแดงออกมาต่อต้านรัฐบาล อ้างถึงแนวความคิดในการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย แต่ทุกเหตุการณ์นายณัฐวุฒิได้ผลประโยชน์ตอบแทนทางการเมืองทุกครั้ง ในขณะที่คนเสื้อแดงที่ถูกจับกุมในเหตุการณ์ต่างๆ ที่ปรากฎ อาทิ ในกลุ่มคนเสื้อแดงที่ออกมาเผาบ้านเผาเมืองตามที่นายณัฐวุฒิใช้วาทกรรมเรียกร้องให้เกิดความรุนแรงในบ้านเมือง กลับถูกศาลจำคุก และทนายความของจำเลยคนเสื้อแดงดังกล่าวก็เปิดเผยว่า เห็นได้ชัดเจนว่าไร้ซึ่งคนรับผิดชอบ ย้อนแย้งอย่างสิ้นเชิงกับคำกล่าวของนายณัฐวุฒิ สิ่งเหล่านี้เป็นตัวอย่างเหตุการณ์ที่คนเสื้อแดงเองบอกว่า ถูกคนอย่างนายณัฐวุฒิทอดทิ้ง และทิ้งขว้าง เวลาที่พวกเขาทุกจำคุก
"อุดมการณ์ทางการเมืองและแนวคิดของพรรคประชาธิปัตย์ แตกต่างจากอุดมการณ์ทางการเมืองและแนวคิดของนายณัฐวุฒิอย่างแน่นอน พรรคฯ ยึดมั่นในผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก แต่นายณัฐวุฒิยึดมั่นในผลประโยชน์ของตัวเอง มากกว่าผลประโยชน์ของคนที่ร่วมต่อสู้ และคนที่เข้าร่วมอุดมการณ์กับนายณัฐวุฒิ" นายธนา กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี