จัดทัพใหญ่บุกเหนือ-อีสาน
พปชร.รุกหนัก
มั่นใจโค่น‘เพื่อไทย’เจ้าถิ่น
ย้ำกวาดสส.เกิน150ที่นั่ง
อัพเกรดบัตรสวัสดิการฯ
‘มาร์ค’ลุยแปดริ้วกระหึ่ม
สุวัจน์ชูแนวทาง‘น้าชาติ’
“พลังประชารัฐ” ขนทัพใหญ่บุก “เหนือ-อีสาน” มั่นใจล้มเจ้าถิ่น เพื่อไทยได้สบาย ในขณะที่ “สนธิรัตน์” เดินหน้าเติมสิทธิ ในบัตรคนจน-ก้าวข้ามขัดแย้ง ส่วน “กอบศักดิ์” อาสาปักธงกทม.มั่นใจได้ สส.เกิน 150 ที่นั่ง “อภิสิทธิ์” ลงแปดริ้วเปิดตัวผู้สมัคร ระบุเป็นมืออาชีพ
เมื่อวันที่ 19 มกราคม ที่ จ.อุบลราชธานี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พร้อมด้วยนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งภาคอีสาน นายอนุชา นาคาศัย นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ กรรมการบริหารพรรค นายสุพล ฟองงาม กรรมการยุทธศาสตร์การเลือกตั้ง นายภิรมย์ พลวิเศษ คณะทำงานเฉพาะกิจรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง
สนธิรัตน์นำผู้สมัคร4จว.หาเสียง
โดยนำทีมว่าที่ผู้สมัครส.ส.จากอุบลราชธานี บุรีรัมย์ ศรีสะเกษและสุรินทร์ทั้ง23เขต 4 จังหวัด ร่วมกันลงพื้นที่พบปะสมาชิกพรรค และเปิดเวทีปราศรัย3อำเภอ เริ่มจากจุดแรก ที่หอประชุมราชภัฎเขื่องใน อ.เขื่องใน จุดที่ 2โรงเรียนศรีเมืองใหม่พิทยา อ.ศรีเมืองใหม่ และเวทีสุดท้าย ที่โรงเรียนพิบูลมังสาหาร อ.พิบูลมังสาหาร โดยนายสนธิรัตน์ได้เน้นชี้แจงนโยบายและอุดมการณ์ของพรรคที่จะนำพาประเทศและคนไทยก้าวข้ามความขัดแย้ง รวมถึงการเตรียมเปิดนโยบายสร้าง-เสริม-ปรับ-เปลี่ยน เพื่อสร้างความสุขและลดความเหลื่อมล้ำให้กับคนไทย
“ที่สำคัญพรรค จะสนับสนุนให้มีการเดินหน้าโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐและเพิ่มสิทธิให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นซึ่งได้รับการตอบรับจากชาวอุบลราชธานีอย่างมากและจากการเดินสายในพื้นที่ภาคอีสาน พี่น้องประชาชนให้การตอบรับอย่างดี เชื่อว่าจะให้การสนับสนุนพรรคและผู้สมัครของพรรคด้วยคะแนนเสียงที่ท่วมท้น”นายสนธิรตน์ ย้ำ
พปชร.ขนทัพใหญ่บุกเหนือ-อีสาน
ด้านนายธนกร วังบุญคงชนะ รองโฆษก พปชร. เปิดเผยว่า ขณะนี้คณะผู้บริหารพรรคได้ลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนและสมาชิกอย่างหนักทุกพื้นที่ โดยในวันอาทิตย์ที่20ม.ค.นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้ง ดร.รอ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาคเหนือและตนจะเดินทางลงพื้นที่พบปะประชาชนที่ อ.แม่ระมาด และ อ.แม่สอด จ.ตากเพื่อพบปะสมาชิก
นายธนกร กล่าวว่า ส่วนนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาคอีสานได้ลงพื้นที่ในภาคอีสานอย่างต่อเนื่องโดยวันจันทร์ที่ 21 ม.ค.นายสุริยะ นายสมศักดิ์ และนายอนุชา นาคาศัย ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ภาคกลางจะลงพื้นที่พบปะพี่น้องประชาชนใน จ.ชัยภูมิ ทั้ง3เขตโดยมีนายวสันต์ กล้าแท้,นายสัมฤทธิ์ แทนทรัพย์และนายพีระพล ติ้วสุวรรณ ว่าที่ผู้สมัครส.ส.พร้อมชาวบ้านนับหมื่นคนมาให้การต้อนรับ
มั่นใจสามารถโค่น’พท.’ได้แน่
รองโฆษกพรรค พปชร.ยังระบุว่าจากการลงพื้นที่ในหลายจังหวัด ทำให้เรามั่นใจว่าการต่อยอดนโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่พรรคจะปรับเพิ่มประสิทธิภาพให้ดีที่สุด และจะมีสวัสดิการในหลายๆด้านเพื่อสร้างหลักประกันให้ผู้มีรายได้น้อยและนโยบายการสร้างความเข้มแข็งให้กับเกษตรกร ไม่ว่าจะเป็นมาตรการช่วยเหลือชาวนา ยางพารา การเลี้ยงโคแก้จน จะสามารถโค่นพรรคเพื่อไทยได้
ปักธงกทม.-ได้สส.เกิน150ที่นั่ง
เช้าวันเดียวกัน นายนายกอบศักดิ์ ภูตระกูล โฆษก พปชร.ได้เดินทางเปิดศูนย์ประสานงานพรรค เขตบางแค โดยให้สัมภาษณ์มั่นใจว่าจะปักหมุดในเขตบางแคได้ พรรคพลังประชารัฐเป็นพรรคการเมืองที่อยู่จริง อยู่นาน อยู่ถาวร ตอบโจทย์และทำงานกับประชาชนอย่างใกล้ชิด ไม่กังวลใจว่าพื้นที่นี้เคยมี ส.ส.พรรคอื่นมาก่อน เรามีความสดใหม่และตั้งใจทำงานมาก ไม่แพ้กัน ผู้สมัครในเขตนี้ ตั้งใจทำงานเต็มที่และ เชื่อว่าจะดูแลประชาชนได้เต็มที่เช่นกัน เราต้องการ ส.ส.ในกทม.ให้มากที่สุด ต้องการเป็นพรรคการเมืองของคนกรุงเทพฯ ให้ได้ และเชื่อว่าจะได้ส.ส.เขตทั่วประเทศเกิน 150ที่นั่ง
โอ่ ปชช.ชอบ4ปีสงบ ไม่มีม็อบ
ส่วนกรณีที่มีการชุมนุมของกลุ่มคนอยากเลือกตั้งและกลุ่มคนที่ไม่อยากเลือกตั้ง จะมีความรุนแรงหรือไม่ นายกอบศักดิ์กล่าวว่าการเลือกตั้งต้องปล่อยให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เป็นผู้กำหนด เชื่อว่าจะหาวันที่เหมาะสมที่สุด ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะไม่มีเลือกตั้ง และการเลือกต้องเกิดขึ้นแน่นอน พรรคเราพร้อมเลือกตั้งทุกวันอยู่แล้ว เราเน้นว่าจะไม่จะกลับไปทะเลาะกันอีกแล้ว เราควรเดินไปข้างหน้า เพื่อเป็นประเทศไทยที่สุขสงบ มันหมดสมัยแล้วที่จะกลับไปเดินขบวน ทะเลาะกัน ซึ่งประชาชนคนไทยชอบ4ปีที่ผ่านมา ที่มีความสงบ เราควรมีความสามัคคีและช่วยกันเปลี่ยนแปลง
“ประชาธิปไตย ต้องฟังเสียงประชาชน รับฟังความเห็นต่าง ต้องไม่มีความรุนแรง ตอนนี้เรากำลังจะกลับสู่การให้ประชาชนตัดสินใจ ขอให้รออีกไม่นานตอนนี้พรรค รอด้วยความตื่นเต้นว่า พระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งจะประกาศเมื่อใด เพื่อจะได้ดำเนินการเรื่องต่างๆต่อไป ต้องอดใจ”โฆษกพรรคพปชร.ย้ำ
‘มาร์ค’เปิดศูนย์ฯผู้สมัครแปดริ้ว
สายวันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ได้ไปเปิดศูนย์ประสานงานพรรคฯจ.ฉะเชิงเทรา เขต1และเปิดตัวผู้สมัครส.ส.ฉะเชิงเทราของพรรคทั้ง4เขตคือนายวัชระ ปิ่นเจริญ เขต 1นายอมรชัย ปิ่นเจริญ เขต 2 นายฉัตรชัย เข็มทองเขต 3 นายชำนาญ เกิดโสภา เขต 4 นายอภิสิทธิ์ปราศรัยช่วงหนึ่งว่าจ.ฉะเชิงเทราพรรคเรามีคนรุ่นใหม่ที่มีความพร้อมที่จะทำงานเพื่อประชาชน เราส่งผู้สมัครที่เป็นมืออาชีพ แม้จะไม่มีความแน่นอนเรื่องวันเลือกตั้งแต่พรรคเชื่อว่ากระบวนการประชาธิปไตยต้องเดินไปข้างหน้า เพื่อพาบ้านเมือง กลับสู่ความเป็นประชาธิปไตยจะทำให้ประชาชน เจ้าของประเทศ มีส่วนร่วมกำหนดอนาคต มีรัฐบาลที่จะต้องมาตอบสนองความต้องการประชาชน
“การกลับสู่การเลือกตั้ง ไม่มีหลักประกันว่าบ้านเมือง จะไม่กลับไปสู่วังวนเดิมๆ ดังนั้น พรรคประชาธิปัตย์อยากให้การเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นโอกาสของประชาชน ไม่ใช่การเลือกตั้งเพื่อคนบางคนได้อยู่ต่อ หรือเพื่อให้ใครบางคนได้กลับบ้าน เมื่อเลือกตั้งแล้ว ความเป็นอยู่ของประชาชนต้องดีขึ้น พรรคจึงขออาสาด้วยคติพจน์ที่ว่า“ประชาชนเป็นใหญ่ ประชาธิปไตยต้องสุจริต”ด้วยภารกิจ “แก้จน สร้างคน สร้างชาติ”ซึ่งภารกิจแก้ปัญหาความยากจน คือภารกิจเร่งด่วนที่พรรคต้องเร่งทำ และมั่นใจว่านโยบายพรรค ครบวงจร ตอบโจทย์ประชาชน ได้ทุกกลุ่มอาชีพ”
ลุงกำนันเดินคารวะที่เมืองแพร่
วันเดียวกัน ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดแพร่ว่าสำหรับปฏิบัติการเดินคารวะแผ่นดินของพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.)นำโดย นายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำผู้ก่อตั้งพรรคและประธานคณะทำงาน พร้อม นายประสาร มฤคพิทักษ์ นายสำราญ ยอดเพชร ผู้ร่วมก่อตั้งพรรค นายประสงค์ ชุ่มเชื้อ อดีตสมาชิกสภาจังหวัดแพร่ ว่าที่ผู้สมัคร เขต 1 จ.แพร่ ร่วมเดิน ได้เข้าสักการะหลวงพ่อเพชร วัดพระบาทมิ่งเมือง จากนั้นได้เดินพบปะเชิญชวนประชาชนที่ตลาดชมภูมิ่ง ตลาดวัดน้ำบ่อ อ.สูงเม่น มีประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก มีทั้งให้กำลังใจและเรียกร้องให้ช่วยเหลือแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจเช่นเรื่องการค้าขาย
ทั้งนี้ ระหว่างที่เดินที่บริเวณถนนเจริญเมืองได้พบ นพ.ทศพร เสรีรักษ์ อดีตส.ส.แพร่ พรรคเพื่อไทยเข้ามาทักทายจับมือพร้อมสวมกอดโดยบอกว่า คนละพรรค แต่ก็พวกเดียวกัน นายสุเทพบอกว่า คนละพรรค แต่เราก็รักกัน โดยนพ.ทศพรได้มอบภาพวาดลายเส้นให้นายสุเทพ แต่ขอนำไปแสดงในงานก่อนแล้วจะส่งให้ หลังทักทายกันแล้วนายสุเทพพร้อมคณะได้เดินพบปะประชาชนต่อ
ย้ำชัด รปช.ไม่เสนอชื่อชิงนายกฯ
โดยนายสุเทพให้สัมภาษณ์เรื่องการเสนอรายชื่อนายกรัฐมนตรีว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ตระหนักดีว่าเป็นพรรคการเมืองใหม่ คงไม่ชนะเลือกตั้ง ถึงขั้นได้คะแนนเป็นที่หนึ่งแต่ตกลงกันในพรรคแล้วว่า จะไม่เสนอรายชื่อผู้ที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีของพรรค ตามที่กฎหมายกำหนดให้แต่ละพรรคสามารถเสนอได้ 3รายชื่อ เพื่อให้สะดวกกับการที่จะร่วมมือกับพรรคการเมืองอื่นๆจัดตั้งรัฐบาลได้เปิดกว้าง จะได้ไม่ต้องมีข้อผูกมัดว่าส.ส.ของเราต้องเลือกคนของเรา เราถือประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญว่า ทำอย่างไร จะให้การเลือกตั้งครั้งนี้ได้รัฐบาลที่ดี ที่จะมาดูแลบ้านเมือง ดูแลปัญหาบ้านเมือง ปัญหาประชาชน
“การที่พรรคจะสนับสนุนใครเป็นนายกรัฐมนตรี ต้องดูว่า มีใครให้เลือกบ้างในขณะนั้นรวมทั้งฟังต้องประชาชนด้วยเพราะเราเป็นพรรคการเมืองของประชาชนและคนที่จะเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้ารัฐบาล ต้องรับข้อเสนอที่สำคัญจากเรา คือ มุ่งมั่นปฏิรูปประเทศ เปลี่ยนแปลงประเทศตามเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชน แก้ปัญหาเศรษฐกิจของประชาชน ให้เศรษฐกิจของชาวบ้านมีความเข้มแข็ง ตรงนี้เป็นเรื่องใหญ่”นายสุเทพ กล่าว
‘สุวัจน์’ชูแนวทาง’น้าชาติ’มาสานต่อ
บ่ายวันเดียวกัน นายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ประธานที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา นายเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา พร้อมแกนนำ กรรมการบริหารพรรค และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.นครราชสีมา ทั้ง14 เขต มาร่วมเปิดศูนย์ประสานงานพรรคชาติพัฒนา เขต 9 อ.โชคชัย จ. นครราชสีมา มี นายองอาจ พฤกษ์พนาเวศ กรรมการบริหารพรรค และ ว่าที่ผู้สมัคร เขต 9 พร้อม ประชาชน กว่า 1,000คนร่วมงาน
โดยนายสุวัจน์กล่าวเปิดงานว่าพรรคชาติพัฒนา เป็นพรรคอยู่กับคนโคราชมานาน มีพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ ผู้ก่อตั้งพรรคและเป็นนายกฯที่พัฒนาประเทศชาติ ถือเป็นยุคทองเศรษฐกิจไทย เป็นนักการเมืองที่มีความเป็นประชาธิปไตย และไม่สร้างความขัดแย้ง ประโยคที่ ท่านชาติชาย จะพูดเสมอคือ ไม่มีปัญหา No Problem ซึ่งเป็นการเมือง ที่คอยแก้ปัญหา เป็นทางสายกลาง ไม่ขัดแย้ง ซึ่งพรรคในยุคนี้จะนำแนวทางการทำงานพล.อ.ชาติชาย มาสานต่อ คือแก้ปัญหาเศรษฐกิจ สร้างความสามัคคี ไม่ขัดแย้ง ไม่สร้างปัญหา มุ่งมั่นทำงานแก้ปัญหาเป็นหลักสำคัญ
จากนั้น นายสุวัจน์ได้ลงจากเวทีและเปิดศูนย์ประสานงานซึ่งการเตะฟุตบอล โดยมีนายเทวัญ เป็นกรรมการเป่านกหวีดซึ่งนายสุวัจน์ได้เตะฟุตบอล เข้าประตูไปอย่างสวยงาม เรียก เสียงเฮใหัผู้ที่ร่วมงานกันอย่างสนุกสนาน และได้ถ่ายรูปกับผู้ที่มาร่วมงานซึ่งมีเยาวชน และ ประชาชนมาร่วมถ่ายภาพด้วย
‘ภราดรภาพ’เดินลงพื้นที่หนัก
ขณะที่ ร.อ.ดร.รชฏ พิสิษฐบรรณกร ประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์พรรคภราดรภาพกล่าวว่า พรรคภราดรภาพได้ลงพื้นที่อย่างเต็มที่เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีทางการเมืองในยุคใหม่ แม้จะมีการเลื่อนการเลือกตั้งก็ไม่ได้หวั่นไหว เพราะเชื่อว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นแน่นอน เพียงแต่รอพระราชกฤษฎีกาจะโปรดเกล้าฯลงมาเท่านั้น โดยพรรคภราดรภาพ มีแนวทางว่า จะไม่ใช้เวทีการหาเสียง ไปใส่ร้ายป้ายสีหรือพูดจายั่วยุโจมตี ใครก็ตาม อยากเห็นการเมืองรอบนี้ เป็นการเมืองที่ ขาวสะอาด โปร่งใส
ประชุมใหญ่-จัดทัพผู้สมัครสส.
ด้าน นายพันธ์ยศ อัครอมรพงศ์ เลขาธิการพรรคภราดรภาพ กล่าวว่าในวันอาทิตย์ที่ 20 ม.ค.นี้พรรคภราดรภาพจะจัดประชุมใหญ่สามัญครั้งที่1/2562 เพื่อให้มีการแต่งตั้งเพิ่มเติมกรรมการบริหารและรับรองงบการเงินรวมถึงเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.ในเขตพื้นที่ กทม.และปริมณฑลชุดแรกที่ศูนย์ประสานงานพรรคภราดรภาพ อาคารไทยเฮลท์ หนองแขม กทม.โดยจะมีหม่อมราชวงศ์ ดำรงดิศ ดิศกุล หัวหน้าพรรคฯเป็นประธาน หลังประชุมใหญ่เสร็จจะเปิดปราศรัยพร้อมกับมีกิจกรรมอบรมเพื่อแนะนำแนวทางการปฏิบัติตัวให้เหมาะสมกับการเป็นผู้สมัครรับเลือกตั้งด้วย
อุเทนกางโพล ฟันธง พท.เข้าวิน
นายอุเทน ชาติภิญโญ อดีตหัวหน้าพรรคคนไทย เปิดเผยว่า เมื่อช่วงเดือนพ.ย.61ได้เฝ้าสังเกตสถานการณ์ทางการเมืองอย่างใกล้ชิดมาตลอดจึงได้ทำแบบสอบถามความคิดเห็นจากประชาชนหรือโพลเกี่ยวกับความนิยมที่มีต่อพรรคการเมืองต่างๆขึ้นมาในหลายจังหวัด ทั้งในกทม.จำนวน7เขตเลือกตั้ง โดยใช้การนักศึกษาในเครื่องแบบ อีกทั้งได้ลงไปควบคุมการทำผลสำรวจด้วยตัวเองทุกขั้นตอนโดยเลือกทำโพลในพื้นที่รอบนอกที่เป็นชายขอบติดกับ จ.สมุทรปราการ พร้อมยังทำโพลในต่างจังหวัด อาทิ จ.สมุทรสาครทั้ง 3 เขตและบางเขต ในจ.หนองคายและอุดรธานี
ผลปรากฏว่า แนวโน้มการเลือกพรรคที่ชนะยังคงเป็นเหมือนการเลือกตั้งเมื่อปี 2554 โดยพรรคเพื่อไทย ยังสามารถรักษาแชมป์ไว้ได้ ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ยังเหนียวแน่นในเขตเดิมๆของตัวเองโดยเฉพาะในพื้นที่ กทม.ฝั่งธนบุรีและภาคใต้จนพอสรุปได้ว่าผลการเลือกตั้งที่กำลังจะมีขึ้นนั้น พรรคเพื่อไทยจะได้ที่นั่งอันดับ 1และพรรคประชาธิปัตย์ จะได้ที่นั่งมา เป็นอันดับ 2 เช่นเดิม ส่วนพรรคเล็กอาจไปไม่ถึงฝั่ง และเป็นไปได้ยากที่ พปชร.จะได้สส.ถึง 150 เสียง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี