‘บิ๊กตู่’สั่งล่ามือปืนนรก
บุกยิงพระมรณภาพ2รูป
หลายองค์กรร่วมประณาม
เหี้ยมโหดไร้มนุษยธรรม
แม่ทัพ4นอนวัดปลอบขวัญ
แม่ทัพภาค 4 ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ นอนวัดปลอบขวัญให้กำลังใจชาวบ้าน เตือนสติอย่าตกหลุมพรางโจรใต้ เสี้ยมให้แตกแยก หลังคนร้ายก่อเหตุยิงเจ้าอาวาสและพระลูกวัด วัดรัตนานุภาพ อ.สุไหงปาดี มรณภาพ 2 รูป นายกฯ สั่งเร่งติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีรมว.กห.สั่งปฏิบัติการเชิงรุกต่อเนื่อง เปิดโปงกลุ่มอิทธิพลอยู่เบื้องหลังสร้างความรุนแรง
จากเหตุการณ์สะเทือนขวัญ คนร้ายกว่า 10 คน แต่งกายคล้ายทหารพราน มีรถจักรยานยนต์เป็นพาหนะ บุกเข้าไปภายในวัดรัตนานุภาพ หรือ วัดโคกโก ตั้งอยู่ที่บ้านโคกโก หมู่ 2 ต.โต๊ะเด็ง อ.สุไหงปาดี จ.นราธิวาส จากนั้นได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงใส่กุฏิพระ ส่งผลให้ พระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ เจ้าอาวาสวัด และเจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี และ พระสมุห์ อรรถพร ขุนอำไพ พระลูกวัด มรณภาพ ส่วนพระอีก 2 รูปบาดเจ็บ คือ พระประเวศ สุขแก้ว และ พระธนโชติ ชุมเลิศ อาการปลอดภัยแล้ว เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 20.30 น. วันที่ 18 มกราคม ที่ผ่านมานั้น
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 19 มกราคม พล.ท.พรศักดิ์ พูลสวัสดิ์ แม่ทัพภาค 4 ที่เดินทางมาค้างแรมตั้งแต่ในช่วงคืนที่ผ่านมา ณ วัดรัตนานุภาพ ได้ร่วมกับ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 และนายเอกรัฐ หลีเส็น ผวจ.นราธิวาส เดินทางมาตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมทั้งให้กำลังใจชาวบ้านไทยพุทธที่อาศัยอยู่ในพื้นที่และ อ.ใกล้เคียง จำนวนกว่า 200 คน ที่ต่างตกอยู่ในสภาวะเสียขวัญกำลังใจถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ตรวจที่เกิดเหตุพบรอยกระสุนอื้อ
โดยทางคณะได้เดินทางไปตรวจสอบยังจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นกุฎิพระที่อยู่ด้านซ้ายมือของอุโบสถหลังที่ 2 และ 3 ซึ่งสร้างด้วยไม้ยกพื้นชั้นเดียว ที่มีร่องรอยกระสุนของคนร้ายยิงพรุนทั้ง 2 หลัง และมีคราบเลือดจำนวนหนึ่งตกอยู่ พร้อมกระสุนปืนเอ็ม.16 ที่ตกกระจายเกลื่อนพื้นเป็นจำนวนมาก จากร่องรอยของกลุ่มคนร้ายได้แฝงตัวเข้ามาด้านซ้ายมือของกฎิที่เป็นส่วนยางพารา โดยคนร้ายได้ยิงถล่มใส่กุฎิจนพระประเวศ สุขแก้ว ที่อาศัยอยู่ในกุฎิได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้ที่บริเวณชายคาของศาลาการเปรียญตรงกับอุโบสถ เจ้าหน้าที่พบร่องรอยวิถีกระสุนของคนร้ายถูกที่บริเวณฝาผนังด้านข้างของศาลาการเปรียญเป็นรูพรุนเช่นกัน ในที่ขณะพระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ เจ้าอาวาสพร้อมพระลูกวัดอีก 2 รูป กำลังนั่งฉันท์น้ำชา เพื่อรอเวลาเข้าไปปฏิบัติกิจสงฆ์ภายในอุโบสถ โดยเจ้าหน้าที่พบปลอกกระสุนปืน เอ็ม.16 ตกอยู่จำนวนมาก
เผยคนร้ายเปิดฉากยิงทันที
ซึ่งจุดนี้ทราบว่า ในขณะที่ พระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ และพระลูกวัด รวม 3 รูป นั่งฉันท์น้ำชามีชายฉกรรจ์ จำนวน 5 ถึง 6 คน ขี่รถจักรยานยนต์มาจอด พระครูประโชติ รัตนานุรักษ์ จึงสอบถามไปว่า โยมเข้ามาทำไมไม่แจ้งให้ทางวัดทราบก่อนในยามวิกาล แต่กลุ่มคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนยิงใส่ทันที ก่อนที่จะหลบหนีออกไปทางด้านประตูหน้า และคนร้ายได้พบกับ ชรบ.ที่วิ่งตามเสียงปืนมา จนทั้ง 2 ฝ่าย ได้ใช้อาวุธปืนยิงตอบโต้กัน แต่คนร้ายหลบหนีไปได้
คาดคนร้ายมีมากกว่า10
อย่างไรก็ตามในช่วงเช้าและช่วงคืนคืนที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน จ.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เดินทางมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุและเก็บรวบรวมพยานหลักฐานอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อนำไปตรวจสอบทางกระบวนการวิทยาศาสตร์แล้ว และจากการประเมินในเบื้องต้นคาดว่ากลุ่มคนร้ายมีไม่ต่ำกว่า 10 คน ที่ร่วมกันก่อเหตุในครั้งนี้
ขออย่าตกหลุมพรางปลุกเกลียดชัง
หลังจากเสร็จสิ้นการตรวจสอบที่เกิดเหตุ พล.ท.พรศักดิ์, พล.ต.ท.รณศิลป์ และนายเอกรัฐ ได้ร่วมกันพบปะชาวบ้านซึ่งมีทั้งไทยพุทธและมุสลิมบางส่วน ที่ทราบข่าวได้เดินทางมาทราบข้อเท็จจริงเหตุที่เกิดขึ้น ภายใต้ความกังวลถึงเรื่องความปลอดภัย โดยแม่ทัพภาค 4 ได้กล่าวกับชาวบ้านว่า เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการสร้าสถานการณ์ของคนร้าย เพื่อต้องการให้เกิดความแตกแยกในพื้นที่ ซึ่งชาวบ้านอย่าตกหลุมพรางของคนร้าย โดยทางเจ้าหน้าที่จะมีมาตรการดูแลในการรักษาความปลอดภัย วัดทุกแห่งในพื้นที่เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอย จนสร้างขวัญกำลังให้กับชาวบ้านเป็นที่น่าพึ่งพอใจ
ให้แต่ละวัดพิจารณาการบิณฑบาต
ต่อมา ได้มีการเปิดการแถลงข่าวเหตุที่เกิดขึ้น โดย พล.ท.พรศักดิ์ บอกว่า หลังเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยที่เกี่ยวข้อง ได้มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเพิ่มเติมอย่างเข้มข้น ขอให้ชาวบ้านไว้วางใจ ในส่วนของพระสงฆ์ไม่ได้มีการสั่งหรือห้ามและกำชับในการออกบิณฑบาต แต่ให้วัดแต่ละวัดเป็นผู้พิจารณาตามความเหมาะสมเพื่อความปลอดภัย
คาดเป็นฝีมือคนร้ายกลุ่มเดิมๆ
พล.ต.ท.รณศิลป์ กล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการประเมินพบว่า เป็นกลุ่มคนร้ายกลุ่มเดิมๆ ที่เคยร่วมกันก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก และร่วมกับยิงอาสาสมัครรักษาดินแดน อ.สุไหงปาดีเสียชีวิต ซึ่งหลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปซ่อนตัวในประเทศเพื่อนบ้าน และทราบเบาะแสว่าได้ลักลอบข้ามแดนมาก่อเหตุในครั้งนี้ โดยมุ่งเน้นสร้างความแตกแยกระหว่างไทยพุทธและมุสลิม ซึ่งเป็นกระบวนการของเจ้าหน้าที่ที่จะมีการติดตามไล่ล่ากดดัน เพื่อจับกุมมาดำเนิคดีต่อไป โดยจะยึดหลักกฎหมาย และดำเนินการขั้นเด็ดขาดกับผู้กระทำผิด ล่าสุดทราบตัวกลุ่มคนร้ายแล้ว
ศูนย์พิทักษ์พระพุทธฯประฌามคนร้าย
ศูนย์พิทักษ์พระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ออกแถลงการณ์ประฌามเหตุการณ์คนร้ายบุกโจมตีวัดรัตนานุภาพ จ.นราธิวาส มีพระสงฆ์มรณภาพ และบาดเจ็บเมื่อวานนี้ว่า เป็นการกระทำที่ไร้ซึ่งมนุษยธรรม ทำร้ายพระภิกษุผู้สงบ ผู้บริสุทธิ์ ผู้ไม่ได้เป็นภัยต่อผู้ใด พร้อมขอให้องค์กรสิทธิมนุษยชน ออกมาร่วมประณามต่อการกระทำที่โหดเหี้ยมของผู้ก่อการร้าย และขอให้ภาครัฐ ฝ่ายความมั่นคง มีมาตรการที่เด็ดขาดต่อผู้ก่อการร้าย ดำเนินการตามกฎหมายโดยไม่มีข้อยกเว้นและขอให้พี่น้องชาวพุทธทั่วประเทศ ช่วยกันส่งกำลังใจให้พี่น้องชาวพุทธในพื้นที่
นายกฯ ให้กำลังใจพี่น้องชายแดนใต้
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้กำลังใจพี่น้องประชาชน ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครองทุกคนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะที่ จ.นราธิวาส หลังเกิดเหตุคนร้ายกว่า 10 คน บุกเข้าโจมตีภายในวัดรัตนานุภาพ อ.สุไหงปาดี ทำให้พระภิกษุมรณภาพและได้รับบาดเจ็บหลายรูป พร้อมประณามการกระทำที่อุกอาจเช่นนี้ และกำชับให้เจ้าหน้าที่เร่งสืบสวนหาข้อเท็จจริงและไล่ล่าคนร้ายมาลงโทษให้ได้ โดยย้ำว่ารัฐบาลจะปกป้องประเทศชาติและประชาชนด้วยการรักษาความสงบเรียบร้อยให้ดีที่สุด จึงขอให้ทุกคนเชื่อมั่นในรัฐบาล และร่วมมือกันสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นทุกตารางนิ้วบนผืนแผ่นดินขวานทองของเรา
“บิ๊กป้อม”สั่งเปิดโปงกลุ่มอิทธิพล
พล.ท.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เรียกร้องให้สังคมร่วมประณามการกระทำอันป่าเถื่อน ไร้มนุษยธรรมดังล่าว พร้อมเปิดเผยว่า พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม สั่งการให้ฝ่ายความมั่นคงโดยกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4(กอ.รมน.ภาค 4) เร่งให้ความช่วยเหลือเยียวยาและติดตามขยายผลจับกุมผู้ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีให้ถึงที่สุด รวมทั้งให้ขยายผลเปิดเผยพฤติกรรมความเชื่อมโยงของกลุ่มอิทธิพลและผลประโยชน์ในพื้นที่ที่สนับสนุนความรุนแรงและอยู่เบื้องหลังมายาวนาน เพื่อให้สังคมรับรู้และร่วมกันประณามโดยทั่วกัน
ประทานกำลังใจภิกษุสามเณร
สำนักงานเลขานุการสมเด็จพระสังฆราช เผยแพร่ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า ตามที่เกิดเหตุคนร้ายเข้าทำร้ายพระภิกษุ วัดรัตนานุภาพ บ้านโคกโก หมู่ที่ 2 ตำบลโต๊ะเด็ง อำเภอสุไหงปาดี จังหวัดนราธิวาส เป็นเหตุให้พระครูประโชติรัตนานุรักษ์ เจ้าอาวาสวัดรัตนานุภาพ เจ้าคณะอำเภอสุไหงปาดี พร้อมพระภิกษุในวัดถึงมรณภาพ ความทราบแล้ว นั้น
สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก มีพระบัญชาโปรดให้รับการศพของพระครูประโชติรัตนานุรักษ์ พร้อมพระภิกษุทุกรูปที่ถึงมรณภาพไว้ในพระสังฆราชานุเคราะห์โดยตลอด
อนึ่ง โปรดให้เชิญรับสั่งประทานกำลังใจแก่พระภิกษุสามเณรในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ในการบำเพ็ญศาสนกิจเพื่อความมั่นคงแห่งพระบวรพุทธศาสนา ด้วยปณิธานอันแกล้วกล้าและอดทน เพื่อเป็นหลักชัยของพุทธศาสนิกชนและเพื่อความไพบูลย์แห่งพระสัทธรรม แม้ในพื้นที่และในช่วงเวลาอันยากลำบาก ทั้งนี้ หากมีสิ่งใดเกี่ยวกับการคณะสงฆ์ในพื้นที่ยังบกพร่อง ขาดแคลน หรือพึงวิตก ขอเจ้าคณะพระสังฆาธิการนำความแจ้งมหาเถรสมาคม สำหรับการดำเนินการแก้ไขป้องกันได้ทุกเมื่อ
พร้อมกันนี้ โปรดให้เชิญรับสั่งประทานพรให้เจ้าหน้าที่ตลอดจนประชาชนผู้มีความสามัคคีพร้อมเพรียงกันเพื่อสันติสุข จงประสบสวัสดิภาพ ช่วยกันเป็นกำลังในการทำนุบำรุงราชอาณาจักรไทยสืบไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี