24 ม.ค. 62 ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เป็นประธานการประชุม พิจารณา ร่างพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น วาระ 2 และ3 ที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ซึ่งมี 144 มาตรา มีการแก้ไข 46 มาตรา
นายตวง อันทะไชย สนช. ตั้งข้อสังเกตในมาตร 48 วงเล็บสองที่เพิ่มขึ้นมาใหม่เป็น 2/1 โดยระบุว่า เป็นเจ้าของหรือผู้ถือหุ้นในกิจการหนังสือพิมพ์หรือสื่อมวลชนใด ๆ ซึ่งการเพิ่มคำว่า สื่อมวลชนใด ๆ เป็นการจำกัดอาชีพของสื่อมวลชน และเป็นคำที่กว้างเกินไป หากบัญญัติแบบไม่มีที่มาที่ไปถือว่าขัดสิทธิการทำหน้าที่ของสื่อมวลชนและขัดรัฐธรรมนูญ หมวดสิทธิเสรีภาพมาตรา 45 จึงเกรงว่า ร่างกฎหมายนี้จะขัดต่อบทบัญญัติรัฐธรรมนูญ ที่ไปละเมิดสิทธิประชาชน จึงขอให้พิจารณาทบทวน
พล.ท.ชาญชัย ภู่ทอง ประธานกรรมาธิการฯ ยืนยันว่า เป็นการกำหนดให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้สมัครรับเลือกตั้งที่เป็นเจ้าของ หรือมีอาชีพเป็นสื่อมวลชนใช้ประโยชน์ในการลงสมัครรับเลือกตั้ง และไม่ล่วงละเมิดรัฐธรรมนูญในหมวดหน้าที่พลเมือง รวมทั้งรัฐธรรมนูญมาตรา 40 ไม่ได้จำกัดอาชีพไว้ ที่สำคัญเพื่อให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ในที่สุดที่ประชุมให้ความเห็นชอบร่างกฎหมายดังกล่าววาระ 3 ด้วยคะแนน 162 เสียงต่อ 1 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง ประกาศเป็นกฎหมายต่อไป
นอกจากนี้ ที่ประชุมได้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร วาระ 2-3 ซึ่งมีทั้งสิ้น 24 มาตรา มีการแก้ไข 8 มาตรา พล.อ.สมเจตน์ บุญถนอม สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ อภิปรายว่า จำเป็นต้องจำกัดเวลาการดำรงตำแหน่งของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นคราวละ 4 ปี แต่จะดำรงตำแหน่งเกิน 8 ปีมิได้ เพื่อให้สอดคล้องกับการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ที่รัฐธรรมนูญกำหนด หากเว้นระยะเวลาไว้เกิน 4 ปี อาจทำให้มีนอมินีเข้ามาดำรงตำแหน่งแทนได้ และทำให้เกิดระบบอุปถัมภ์ ไม่ยึดหลักคุณธรรม เจ้าหน้าที่วิ่งเต้นประจบสอพลอรับใช้ผู้มีอำนาจ และเกิดการเสพติดอำนาจ ที่สำคัญทำให้เกิดการทุจริตและประพฤติมิชอบในตำแหน่งหน้าที่ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประชาชนโดยตรง
นายนรนิติ เศรษฐบุตร กรรมาธิการ ยืนยันว่า ร่างของกรรมาธิการเป็นไปตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด ซึ่งการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามรัฐธรรมนูญนั้น ต้องมาจากการเลือกของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น วาระการดำรงตำแหน่งของนายกรัฐมนตรีจึงไม่มีความแน่นอน แต่วาระขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมีความแน่นอนอยู่แล้ว หากเข้ามาดำรงตำแหน่งก็ไม่สามารถปลดออกได้ จึงถือว่าไม่สามารถนำมาเปรียบเทียบกันได้
หลังอภิปรายอย่างกว้างขวาง ที่ประชุมให้ความเห็นชอบตามที่กรรมาธิการเสนอในวาระ 2 และ 3 ด้วยมติเอกฉันท์ 142 เสียง งดออกเสียง 4 เสียง ประกาศใช้เป็นกฎหมาย โดยจะส่งให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี