24 ม.ค. 62 ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ถ.เจริญกรุง ซ.63 ศาลอ่านคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ คดีที่กลุ่มนักกิจกรรมขบวนการประชาธิปไตยใหม่ (NDM) และนักศึกษา รวม 13 คน เป็นโจทก์ยื่นฟ้องสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.), กองบัญชาการกองทัพบก (บก.ทบ.) และสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นจำเลยที่ 1-3 เรื่องละเมิด ตาม พ.ร.บ.ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ.2539 เรียกค่าเสียหายและค่าสินไหมทดแทนจำนวน 16,468,583 บาท
กรณีเมื่อวันที่ 22-23 พ.ค. 2558 ต่อเนื่องกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบ ซึ่งสังกัดอยู่ในหน่วยงานของจำเลยทั้งสามได้ร่วมกันทำละเมิดต่อโจทก์ที่ 1-13 ขณะพวกโจทก์กำลังทำกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ “ศุกร์ 22 เรามาฉลองกันมะ?” ที่บริเวณลานด้านหน้าหอศิลปวัฒนธรรม กรุงเทพมหานคร เจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจได้ร่วมกันสั่งการและควบคุมกำลังเข้ามาห้ามไม่ให้โจทก์ใช้เสรีภาพในการชุมนุมจัดกิจกรรม ด้วยการนำรั้วเหล็กสีเหลืองมาปิดกั้นบริเวณลานหน้าหอศิลป์ฯ ไว้โดยรอบ ทำให้พวกโจทก์ไม่สามารถจัดกิจกรรมในบริเวณดังกล่าวได้ จึงต้องทำกิจกรรมบริเวณด้านนอกรั้วที่ถูกกั้นไว้ จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็ใช้กำลังประทุษร้ายต่อร่างกายและจิตใจ จากนั้นควบคุมตัวโจทก์ไว้ที่สถานีสน.ปทุมวัน
โดยไม่มีอำนาจที่จะควบคุมตัวไว้ตามกฎหมาย และไม่ใช่การควบคุมตัวไว้เพื่อสอบสวนตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา เพราะไม่ได้มีการแจ้งข้อกล่าวหาหรือสอบสวนโจทก์แต่อย่างใด โดยหน่วงเหนี่ยวกักขัง โจทก์นานถึง 10 ชั่วโมง โดยไม่ชอบด้วยกฎหมายเป็นเหตุให้โจทก์ต้องปราศจากเสรีภาพในร่างกาย เสรีภาพในการเดินทาง ไม่สามารถเดินทางไปไหนตามที่ใจปรารถนาได้ อีกทั้งยังทำให้ได้รับผลกระทบกระเทือนต่อจิตใจอย่างรุนแรง และทำให้ทรัพย์สินของโจทก์ที่ 1 ที่ 5 และที่ 13 เสียหาย ถือเป็นการร่วมกันกระทำโดยจงใจ กระทำละเมิดต่อโจทก์
คดีนี้ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เห็นว่ากิจกรรมที่กลุ่มโจทก์จัดขึ้นถือเป็นการชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ ตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 มาตรา 4 และพันธกรณีระหว่างประเทศ แต่รัฐธรรมนูญมีมาตรา 44 ซึ่งหัวหน้า คสช. ได้ออกคำสั่งที่ 3/2558 จำกัดเสรีภาพการชุมนุมไว้ จึงไม่สามารถใช้เสรีภาพการชุมนุมได้ การที่โจทก์ไปร่วมชุมนุมทางการเมืองนั้น เจ้าหน้าที่ใช้กำลังเข้าควบคุมจึงชอบด้วยตามคำสั่งหัวหน้า คสช. ส่วนการควบคุมตัวโจทก์ไว้ที่สถานีตำรวจนครบาลปทุมวันนั้น ไม่ได้มีการยึดอุปกรณ์สื่อสาร อาจารย์ของกลุ่มโจทก์สามารถเข้าพบได้ ดังนั้นการควบคุมตัวจึงชอบแล้ว สำหรับความเสียหายที่โจทก์ได้รับเกิดขึ้นจากการขัดขืนของโจทก์เอง
โจทก์ยื่นอุทธรณ์ว่าคำสั่ง คสช. ที่ 3/2558 ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขัดรัฐธรรมนูญและพันธกรณีระหว่างประเทศ การชุมนุมของกลุ่มนักศึกษาทำโดยสงบ
ทั้งนี้ศาลอุทธรณ์เห็นว่า ที่ศาลชั้นต้นพิพากษายกฟ้องมานั้นศาลอุทธรณ์เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์โจทก์ฟังไม่ขึ้น พิพากษายืนยกฟ้อง
ด้านน.ส.คุ้มเกล้า ส่งสมบูรณ์ ทนายความศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน ในฐานะทนายความโจทก์ เปิดเผย ว่า นายรังสิมันต์ โรม, น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว และนายกรกช แสงเย็นพันธุ์ โจทก์ ประสงค์จะยื่นฎีกาต่อไป
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี