25 ม.ค.62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 09.30 น. ที่ห้องทำงานนายกู้เกียรติ วงศ์กระพันธุ์ ผวจ.พัทลุง บนศาลากลางจังหวัดพัทลุง นายฉลอง เทอดวีระพงศ์ ปลัดจังหวัดพัทลุง ซึ่งถูกนายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รอง หน.พรรค ปชป. กล่าวพาดพิงว่าเก็บบัตรประชาชนเพื่อเตรียมซื้อเสียงในการเลือกตั้ง ได้เข้ายื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่งปลัดจังหวัดพัทลุง เพื่อลงสมัคร ส.ส.พัทลุง เขต 2 พรรคภูมิใจไทย ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคม 2562 เป็นต้นไป โดยมีนายศิลป์ชัย รามณีย์ รอง ผวจ.พัทลุง และนางสุมิตรา สิงหะพล หน.สำนักงานจังหวัดฯ เข้าร่วมรับหนังสือลาออกด้วย โดยนายกู้เกียรติได้อวยพรขอให้นายฉลอง ได้ประสบความสำเร็จทางด้านการเมืองด้วย

ต่อมาที่หน้าศาลากลางจังหวัดพัทลุง กลุ่มแกนนำพรรคภูมิใจไทยของ จ.พัทลุง ภายใต้การนำของ นางนาที รัชกิจประการ เหรัญญิกพรรคภูมิใจไทย ซึ่งเป็นผู้ดูแลการสมัคร ส.ส.ของพรรคฯ ใน 14 จังหวัดภาคใต้ นายสมใจ ด้วงทอง หัวหน้าสาขาพรรคฯ ภาคใต้ และว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พัทลุงของพรรคฯ ประกอบด้วย นายภูมิศิษฏ์ คงมี (เขต 1) นายเขมพล อุ้ยตระกุล (เขต 3) พร้อมคณะ มาให้การต้อนรับนายฉลองฯ ในขณะที่ผู้นำท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ฯลฯ จากเขตเลือกตั้งทั้ง 3 เขต แก่ว่าที่ผู้สมัครของพรรคฯ ทั้ง 3 คนด้วย ในขณะที่นางน้อย เทอดวีระพงศ์ อายุ 94 ปี และนางพกุลกาญจน์ ภรรยานายฉลอง ก็เดินทางมาให้กำลงใจเช่นกัน

นายฉลอง กล่าวว่า สมัยที่ตนรับราชการในพื้นที่ภาคอีสาน ได้มีความนิยมชื่นชอบ นโยบายพรรคภูมิใจไทยในการแก้ปัญหาปากท้องให้กับประชาชน และพรรคภูมิใจไทยเองเป็นพรรคเดินสายกลาง ไม่เคยขัดแย้งหรือสร้างศัตรูกับพรรคการเมืองใดๆ จนส่งผลให้คะแนนนิยมของพรรคได้พุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะนโยบายของพรรคในการแก้ไขปัญหาราคาข้าวแบบแบ่งบันกำไรนั้นได้รับการตอบรับจากชาวบ้านดีมาก ตนจึงตัดสินใจลาออกจากราชการมาลงสมัคร ส.ส.พัทลุง เขต 2 ในครั้งนี้

นายฉลอง กล่าวอีกว่า จากการที่นายนิพิฏฐ์ ออกมาพาดพิงว่ามีปลัดจังหวัดให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เดินเก็บบัตรประชาชนในราคาบัตรละ 500 บาทนั้น นายนิพิฏฐ์ไม่ได้ระบุว่าปลัดจังหวัดคนนี้เป็นใคร ในขณะนั้นตนกำลังปฏิบัติหน้าที่ในการบำบัดทุกข์ บำรุงสุข ให้กับประชาชน จึงไม่อยากออกมาโต้ตอบกับนายนิพิฏฐ์ อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าวันนี้ตนได้ลาออกจากราชการแล้วก็ไม่อยากไปโต้ตอบ สร้างความขัดแย้งกับนักการเมืองคนไหน พรรคใด หลังจากนี้ขอเดินหน้าออกพบปะประชาชนเพื่อชี้แจงนโยบายพรรคอย่างเดียว ใครจะสาดโคลนใส่ตนก็เชิญตามสบาย

ทางด้านนางนาที กล่าวว่า ต้องยอมรับในช่วง 11 ปีที่ผ่านมา พรรคภูมิใจยังไม่ประสบความสำเร็จในการมีที่นั่ง ส.ส.ในพื้นที่ภาคใต้ แต่ตนก็ไม่ย้อท้อแต่อย่างใด จากการที่ลงพื้นที่จังหวัดต่างๆ ตามนโยบาย "เสียสละ ทำมากกว่าพูด" ทำให้คะแนนนิยมของพรรคดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนโยบายของพรรคในการแก้ปัญหาราคาข้าวแบบแบ่งปันกำไรนั้นชาวใต้ให้การตอบรับสูงมาก จนทำให้ว่าที่ผู้สมัครของพรรคฯ ได้รับความนิยมคู่คี่สูสีกับว่าที่ผู้สมัครของพรรคต่างๆ ที่เป็นตัวเต็งทุกๆ จังหวัด 

อย่างไรก็ตาม ตนเชื่อว่าผู้สมัครของพรรคฯ จะสามารถคว้าที่นั่ง ส.ส.ได้ทุกจังหวัด และจะมี ส.ส.แบบรายชื่อไม่น้อยกว่า 16 ที่นั่ง อย่างไรก็ตามก็ต้องชื่นชมพี่น้องชาวใต้ที่มีความตื่นตัวทางการเมืองในการเลือกตั้งครั้งนี้สูงมาก ขณะนี้พวกเขารู้แล้วว่าพรรคการเมืองใดที่สามารถพึ่งพาได้ พรรคภูมิใจไทยจะทำมากกว่าพูด จะไม่พูดมากกว่าทำ จนนำไปสู่การขัดแย้งทางการเมืองจนไม่มีวันสิ้นสุด โดยที่ชาวบ้านไม่ได้รับผลประโยชน์อะไรเลย ผลการเลือกตั้งประชาชนเป็นผู้ตัดสินใจ มิใช่นักการเมืองคนใด พรรคใด เป็นผู้ออกมาตัดสินแทนชาวบ้าน