เมื่อถึงฤดูกาลเลือกตั้ง “การหาเสียง” เป็นไฮไลท์สำคัญที่จะขาดเสียไม่ได้ เราจะเห็นบรรดาผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ทั้งแบบแบ่งเขต แบบบัญชีรายชื่อ ตลอดจนแกนนำพรรคการเมืองต่างๆ เดินสายพบปะพี่น้องประชาชนตั้งแต่เช้าจรดค่ำอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ป้ายหาเสียงมากมายผุดขึ้นทั่วแทบทุกจุดทั้งในและนอกเมือง เวทีปราศรัยสำหรับนักการเมืองฝีปากกล้ามีลีลาการพูดที่ดึงคนฟังให้มีอารมณ์ร่วมคล้อยตาม แน่นอน การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นใน วันอาทิตย์ที่ 24 มี.ค. 2562 นี้บรรยากาศการหาเสียงก็คงคึกคักเช่นเคย
อย่างไรก็ตาม “ข้อควรระวัง” ก็มีอยู่และหากเผลอทำสิ่งที่ห้ามไปอาจถูกตัดสิทธิ์ได้ โดยทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออก “ระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้ง ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ.2561” กำหนดว่าผู้สมัครและพรรคการเมือง สามารถดำเนินการหาเสียงได้ด้วยวิธีต่างๆ ดังต่อไปนี้
1.แจกเอกสารหรือวีดิทัศน์ เกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งในเขตชุมชน สถานที่ต่างๆ หรืองานพิธีการต่างๆ โดยเอกสารหรือวีดิทัศน์เกี่ยวกับการหาเสียงเลือกตั้งสามารถระบุชื่อ รูปถ่าย หมายเลขประจำของตัวผู้สมัคร ชื่อของพรรคการเมือง สัญลักษณ์ของพรรคการเมือง นโยบายของพรรคการเมือง คติพจน์ คำขวัญ หรือข้อมูลประวัติเฉพาะที่เกี่ยวกับตัวผู้สมัครหรือพรรคการเมือง พร้อมระบุชื่อตัว ชื่อสกุล ที่อยู่ของผู้ว่าจ้าง ผู้ผลิต จำนวน และวันเดือนปีที่ผลิตไว้อย่างชัดเจนที่ด้านหน้า ของเอกสารหรือวีดิทัศน์ด้วย
2.ใช้พาหนะต่างๆ ในการหาเสียงเลือกตั้ง หรือจัดสถานที่หรือเวทีเพื่อโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งได้ ทั้งนี้ให้ผู้สมัครและพรรคการเมืองแจ้งรายละเอียดให้ผู้อำนวยการสำนักงาน กกต. ประจำจังหวัดทราบภายในสิบวันหลังจากปิดรับสมัครรับเลือกตั้งตามแบบที่กำหนดท้ายระเบียบ 3.ใช้เครื่องขยายเสียง เพื่อช่วยในการหาเสียงเลือกตั้ง 4.ปิดประกาศการโฆษณาหรือติดแผ่นป้ายการโฆษณาที่ยานพาหนะในการหาเสียงเลือกตั้ง สถานที่หรือเวทีเพื่อโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครหรือพรรคการเมือง
ซึ่งกรณีนี้ไม่อยู่ภายใต้บังคับของประกาศ กกต. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการจัดทำ สถานที่ปิดประกาศเกี่ยวกับการเลือกตั้งและสถานที่ติดแผ่นป้ายเกี่ยวกับการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเฉพาะเรื่องขนาด จำนวนสถานที่ และบุคคลที่ปรากฏในประกาศหรือแผ่นป้าย “อะไรอยู่บนป้ายหาเสียงได้บ้าง?” ระเบียบ กกต. กำหนดให้มีเฉพาะชื่อ รูปถ่าย หมายเลข ประจำของตัวผู้สมัคร ชื่อของพรรคการเมือง
สัญลักษณ์ของพรรคการเมือง นโยบายของพรรคการเมือง คติพจน์ คำขวัญ หรือข้อมูลประวัติเฉพาะที่เกี่ยวกับตัวผู้สมัครหรือพรรคการเมือง พร้อมระบุชื่อตัว ชื่อสกุล ที่อยู่ของผู้ว่าจ้าง ผู้ผลิต จำนวน และวันเดือนปีที่ผลิตไว้อย่างชัดเจนที่ด้านหน้าของประกาศ การโฆษณาหรือแผ่นป้ายการโฆษณาด้วย แต่ย้ำว่า “ทั้งป้ายและรถหาเสียง ถือว่านับรวมเป็นค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้ง” ของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองนั้นด้วย
5.หาเสียงเลือกตั้งผ่านจดหมาย สื่อสิ่งพิมพ์ ถึงผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 6.หาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ ตามหมวด 2 การหาเสียงเลือกตั้งทางอิเล็กทรอนิกส์ 7.จัดทำเอกสารที่มีการกากบาทในช่องลงคะแนนเลือกตั้งให้กับตนเองเพื่อใช้ในการหาเสียงเลือกตั้งให้แก่ตนเองได้ แต่การจัดทำเอกสารดังกล่าวต้องไม่มีขนาดลักษณะหรือสีที่คล้ายกับบัตรเลือกตั้ง และ 8.จัดให้มีผู้ช่วยหาเสียง เพื่อช่วยเหลือในการหาเสียงเลือกตั้งตามหมวด 3 ผู้ช่วยหาเสียง
ที่ต้องย้ำกัน “ในกรณีการจัดทำเอกสาร วีดิทัศน์ ประกาศการโฆษณาหรือแผ่นป้ายการโฆษณาเพื่อหาเสียงเลือกตั้งตามข้อ 1 หรือ 4 นอกจากภาพของผู้สมัครแล้ว สามารถนำภาพของผู้ที่ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีหัวหน้าพรรคการเมือง และสมาชิกพรรคการเมืองลงโฆษณาหาเสียงเลือกตั้งได้เท่านั้น” ส่วนภาพของคนดังหรือผู้มีบารมีทางการเมืองที่ไม่ใช่บุคคลตามที่กำหนดข้างต้นห้ามนำมาใส่ไว้โดยเด็ดขาด
และบรรดาป้ายหาเสียงที่ทำผิดแล้วถูกสั่งให้รื้อถอน ผู้สมัครยังต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการรื้อถอนด้วย แถมยังอาจถูกนำไปไต่สวนตามระเบียบ กกต. ว่าด้วยการสืบสวน การไต่สวนและการวินิจฉัยชี้ขาดได้!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี