เมื่อเอ่ยถึง “ภาคใต้” หลายคนอาจนึกถึง “พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)” เป็นพรรคแรก เนื่องจากการเลือกตั้งหลายครั้งที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์มักชนะแบบ “กวาดเรียบยกจังหวัด” เสมอ จนอาจมีผู้เข้าใจกันไปว่าพรรคประชาธิปัตย์เป็นพรรคของคนใต้ ทั้งที่ต้นกำเนิดของพรรคเก่าแก่ที่มีตราประจำพรรคเป็นรูปพระแม่ธรณีบีบมวยผมนั้นอยู่ในเมืองหลวงอย่างกรุงเทพมหานคร (กทม.)
อย่างไรก็ตาม สำหรับ “3 จังหวัดชายแดนใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส)” ดูจะแตกต่างออกไป ที่ผ่านมาในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้มักมีการแข่งขันทางการเมืองระหว่างพรรคการเมืองต่างๆ ค่อนข้างมาก เช่น พรรคความหวังใหม่ พรรคเพื่อไทย และพรรคมาตุภูมิ นอกจากนี้ “สำหรับการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2562” ไม่ว่าภาคใต้ตอนบน ตอนล่าง หรือ 3 จังหวัดปลายด้ามขวาน “อาจไม่มีของง่ายสำหรับพรรคประชาธิปัตย์” อีกต่อไป
เนื่องจากการเลือกตั้งครั้งนี้ สนามการเลือกตั้งภาคใต้จะมีการเปลี่ยนแปลง โดยคอการเมืองในพื้นที่มองว่า “พรรคที่จะเป็นคู่แข่งของพรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ ตอนบนและตอนกลางคือพรรคภูมิใจไทย (ภท.)” สำหรับโซนอันตรายของพรรคประชาธิปัตย์ที่ต้องจับตามองคือ จ.กระบี่ สตูล และพัทลุง ที่อาจจะต้องเสียที่นั่งให้พรรคภูมิใจไทย หรือแม้แต่พรรคอื่นๆ ไม่ต่ำกว่า 5-6 ที่นั่ง
ในขณะที่ “สนามเลือกตั้ง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั่น ต้องจับตาที่พรรคประชาชาติ (ปช.)” ซึ่งเป็นพรรคการเมืองใหม่ ที่ใช้เวลาเพียง 5 เดือน ในการเปิดตัว และขับเคลื่อนงานการเมือง จากพรรคที่ช่วงแรกๆ ผู้คนเข้าใจว่าเป็นเพราะพรรคระดับภูมิภาค แต่ด้วยการขับเคลื่อนอย่างจริงจังภายใต้ 2 แกนนำอย่าง “วันนอร์”นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรค กับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรค รวมถึงคณะกรรมการบริหารของพรรค
ทำให้ระยะหลังๆ มานี้ “พรรคประชาชาติถูกจับตามองในฐานะพรรคระดับประเทศ ไม่ต่างจากบรรดาพรรคเกิดใหม่แต่มาแรงอย่างพรรคอนาคตใหม่ (อนค.) หรือพรรคไทยรักษาชาติ (ทษช.)” โดยเฉพาะสำหรับ 3 จังหวัดชายแดนใต้นั้นถูกพูดถึงมากที่สุด เนื่องจากทั้งนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ที่เคยดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีมาแล้วหลายกระทรวง และมีพื้นเพเป็นชาว จ.ยะลา และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง ที่เคยดำรงตำแหน่งเลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) ทั้ง 2 คนจึงถือเป็นผู้ที่เข้าใจบริบทสังคมชายแดนใต้อย่างดียิ่ง
และเมื่อพูดถึง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ “ความรุนแรง” มักเป็นสิ่งแรกที่คนทั่วไปนึกถึงเสมอ “กว่าทศวรรษที่เปลวไฟแห่งความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนใต้ไม่เคยดับ” ทำให้เศรษฐกิจในพื้นที่ซบเซา ผู้คนไม่กล้าเดินทางไปท่องเที่ยวแม้มีแหล่งท่องเที่ยวทัศนียภาพสวยงามมากมาย ซึ่ง พ.ต.อ.ทวี ได้ชูนโยบายพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนไว้ 5 เรื่อง หรือ “5 อ.” ได้แก่ 1.อาหาร คนต้องมีอาหารกิน เศรษฐกิจดี ไม่เป็นหนี้
2.อาชีพ คนมีอาชีพ มีรายได้ มีที่ดินอาศัยและทำกิน 3.อนามัย หลักประกันสุขภาพ คืนโรงพยาบาลให้ประชาชน 4.โอกาส ส่งเสริมการศึกษา เพื่อสร้างโอกาสในชีวิต 5.อัตลักษณ์ เคารพในความแตกต่าง ส่งเสริมสิทธิและความเท่าเทียมของกลุ่มชาติพันธุ์ หรือก็คือ “พหุวัฒนธรรม” นำไปสู่การสร้างความสามัคคีของคนในชาติ “ดับไฟใต้” ทำให้ความรุนแรงยาวนานในพื้นที่ปลายด้ามขวานสิ้นสุดลง นอกจากนี้ “ต้องไม่มีคำว่าอยุติธรรม” สิ่งที่พรรคประชาชาติจะทำอย่างแน่นอนคือปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและกฎหมายโดยให้ประชาชนมีส่วนร่วม
“ในสนามการเมืองภาคใต้นั้นพรรคประชาชาติส่งผู้สมัครทั้งหมด 50 เขต ซึ่งจากการลงพื้นที่พบปะประชาชน รวมทั้งความรู้ความสามารถของผู้สมัครแต่ละเขต มั่นใจว่าพรรคประชาชาติ คือทางเลือกใหม่ของคนในภาคใต้และคนในประเทศ เพราะพรรคประชาชาติส่งผู้สมัครครบทุกภาคและเป็นพรรคการเมืองพรรคเดียวที่มีผู้สมัครที่มาจากชนเผ่าต่างๆ มากที่สุด รวมทั้งในคณะกรรมการบริหารพรรคมีตัวแทนชนเผ่าต่างๆ ร่วมเป็นกรรมการ เพื่อการทำยุทธศาสตร์ที่ที่เหมาะสมและเป็นตามวิถีชีวิตของคนชายขอบที่ขาดการดูแลอย่างจริงจัง” พ.ต.อ.ทวี กล่าว
ย้อนไปเมื่อการเลือกตั้งปี 2554 ภาคใต้ 14 จังหวัด แบ่งเขตเลือกตั้งได้ทั้งหมด 53 เขต หรือมีโควตา สส. ทั้งหมด 53 ที่นั่ง พรรคประชาธิปัตย์ชนะ 51 เขต แพ้ 2 เขต โดยเขตที่แพ้คือ เขต 3 จ.ปัตตานี แพ้ให้กับผู้สมัครจากพรรคมาตุภูมิ กับเขต 4 จ.ปัตตานี แพ้ให้กับผู้สมัครพรรคภูมิใจไทย แต่ในการเลือกตั้ง 24 มี.ค. 2562 โควตา สส. ภาคใต้ลดลงเหลือ 50 ที่นั่ง จากเขตเลือกตั้งที่ลดลงเหลือ 50 เขต
ซึ่งนอกจากพรรคประชาชาติแล้ว พรรคประชาธิปัตย์ยังต้องเผชิญคู่แข่งอื่นๆ อย่างพรรคภูมิใจไทยที่มุ่งยกระดับจากพรรคขนาดกลางเป็น
ขนาดใหญ่และฝันไกลถึงขั้นชนะการเลือกตั้งระดับประเทศ หรือแม้แต่พรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ที่ทาง “ลุงกำนัน” นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตนักการเมืองระดับตำนานคนหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์ให้การสนับสนุน การเลือกตั้งที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้จึงเป็นที่น่าจับตามองอย่างยิ่งว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยังสามารถรักษาพื้นที่ภาคใต้อย่างเหนียวแน่น เฉกเช่นที่ผ่านๆ มาได้หรือไม่?!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี