กกต.ขอทุกพรรคอดใจรอ 15 ก.พ. ให้ประกาศรับรองแคนดิเดตนายกฯ ก่อนขึ้นใช้รูปขึ้นป้ายหาเสียง-รอพิจารณาระเบียบกกต.ว่าด้วยการหาเสียงข้อ 17 กำหนดไว้ว่า ห้ามผู้สมัครพรรคการเมืองหรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาหาเสียงเลือกตั้ง เชื่อทุกพรรคการเมืองรู้ขอบเขตกฎหมาย อะไรทำได้-ไม่ได้ สัปดาห์หน้ารู้ผลกกต.มีอำนาจตรวจคุณสมบัติหรือทำได้แค่ประกาศชื่อ ส่วนคำร้อง “ไพบูลย์” เป็นประเด็นนำสถาบันฯ มาใช้หาเสียงไม่ได้ร้องให้ตรวจสอบคุณสมบัติ
8 ก.พ. 62 เวลา 17.00 น. ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. นายณัฐฏ์ เล่าสีห์สวกุล รองเลขาธิการกกต. กล่าวถึงการตรวจสอบคุณสมบัติผู้ได้รับการเสนอชื่อเป็นนายกฯ ว่า การตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.เขตเป็นอำนาจของผอ.กกต.เขต ส่วนส.ส.บัญชีรายชื่อ กฎหมายก็เขียนชัดว่าเป็นอำนาจของกกต. แต่สำหรับคุณสมบัติของผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกฯ กกต.ยังเห็นว่าเป็นปัญหาข้อกฎหมายว่า กกต.มีอำนาจพิจารณาหรือไม่ หรือมีอำนาจเพียงประกาศรายชื่อตามที่พรรคเสนอมา แต่เบื้องต้นเท่าที่อ่านกฎหมาย น่าจะมีอำนาจแค่ประกาศ แต่ทั้งนี้ทางสำนักงานฯกำลังศึกษาข้อกฎหมายทั้งหมด และจะเสนอต่อที่ประชุมกกต.พิจารณาในสัปดาห์หน้า
อย่างไรก็ตาม หาก กกต.เห็นว่า กฎหมายให้อำนาจ กกต.ตรวจสอบคุณสมบัติได้ ก็จะนำคุณสมบัติของผู้สมัคร ส.ส. มาเป็นหลักในการพิจารณาร่วมกับคุณสมบัติของรัฐมนตรี รวมถึงจะไปดูว่ามีคำร้องว่าขอให้กกต.ตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ได้รับการเสนอชื่อรายใดหรือไม่ โดยจะต้องดูเบื้องต้นก่อนว่า ผู้ร้องมีอำนาจยื่นคำร้องหรือไม่ก่อน ซึ่งปัจจุบันที่มีการยื่นคำร้องปรากฏทางสื่อ เป็นการร้องเรื่องการนำสถาบันฯมาใช้หาเสียง ไม่เกี่ยวข้องกับคุณสมบัติ ทั้งนี้ เมื่อกกต.ประกาศรายชื่อของผู้ได้รับเสนอชื่อเป็นนายกฯแล้ว ผู้ที่ไม่ได้รับการประกาศชื่อไม่สามารถใช้สิทธิทางศาลได้ ต่างจากผู้ที่ไม่ได้รับการประกาศชื่อเป็นผู้สมัคร ส.ส.
เมื่อถามว่าพรรคไทยรักษาชาติ(ทษช.) สามารถนำรูปแคนดิเดทนายกฯของพรรคขึ้นป้ายหาเสียงได้เลยหรือไม่ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. กล่าวว่า ตามระเบียบกกต. ว่าด้วยวิธีการหาเสียงและลักษณะต้องห้ามในการหาเสียงเลือกตั้ง ส.ส. 2561 ข้อ 17 กำหนดไว้ว่า ห้ามผู้สมัครพรรคการเมืองหรือผู้ใดนำสถาบันพระมหากษัตริย์มาหาเสียงเลือกตั้ง ดังนั้น กกต.คงต้องพิจารณาก่อน และถ้าจะให้ดีทุกพรรคควรรอการประกาศรับรองจากกกต.ในวันที่ 15 ก.พ.ก่อน
อย่างไรก็ตาม พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ปัดที่จะอธิบายรายละเอียดว่าพรรค ทษช.จะมีขอบเขตในการนำแคนดิเดตนายกฯ ไปใช้หาเสียงได้อย่างไร โดยอ้างว่า ทุกพรรคทราบดีอยู่แล้วว่าอะไรทำได้ ไม่ได้แค่ไหน ในช่วงของการเลือกตั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี