"สุเทพ"หาเสียงช่วย"เชน เทือกสุบรรณ" บอกปชช.ถึงเวลาประเทศต้องเปลี่ยนแปลง ย้ำหากเป็นรบ.จะขอดู"ก.ศึกษาฯ"และ"ก.เกษตรฯ"
14 ก.พ.62 ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.สุราษฎร์ธานี ว่า เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานคณะทำงานรณรงค์เชิญชวนประชาชนสมัครสมาชิกพรรคและผู้ร่วมจัดตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ได้เริ่ม "ปฏิบัติการเดินช่วยผู้สมัครหาเสียง" โดยในวันนี้เริ่มที่พื้นที่เขต 4 จ.สุราษฎร์ธานี โดยมี ผู้สมัครคือ นายเชน เทือกสุบรรณ หมายเลข 3 และทีมงานลงพื้นที่หาเสียง ที่ตลาดเช้าเทศบาลเมืองท่าข้ามตลาดเช้าริมทางรถไฟ
นายสุเทพ กล่าวในการพบปะสมาชิกสหกรณ์กองทุนสวนยางพ่วงพรมคร บ้านคีรีวงค์ อ.เคียนซา จ.สุราษฎร์ธานี ตอนหนึ่งว่า วันนี้ได้มาที่สหกรณ์กองทุนสวนยางพ่วงพรมคร พบเห็นว่าสหกรณ์มีความเจริญเติบโต ก็ดีใจ เพราะว่าสหกรณ์นี้ตั้งขึ้นตามนโยบายของตน ตอนที่ตนดูแลงานในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดูแลงานทางด้านสวนยาง ตนได้ให้ชาวสวนทั่วภาคใต้ตั้งสหกรณ์ทั้งหมด 500 แห่ง แต่เท่าที่ติดตามตอนนี้มี 300 แห่ง ที่สามารถดำเนินการได้ ที่นี่ถือว่าเป็นสหกรณ์ที่มีความก้าวหน้า สมาชิกสหกรณ์เหนียวแน่น กรรมการมีประสิทธิภาพมีความสามารถ ซึ่งน่ายินดีน่าชื่นชม และตั้งใจว่า เราเป็นรัฐบาลคราวนี้เราจะส่งเสริมให้สหกรณ์มีการขยายตัวให้เต็มขีดความสามารถ ให้พี่น้องทั้งตำบลเข้ามาเป็นสมาชิกได้หมด สหกรณ์ก็จะได้ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า เรื่องของชาวบ้านจะต้องทำอย่างต่อเนื่อง ต้องทำอย่างจริงจัง ต้องทำกับคนที่มีอุดมการณ์มีความมุ่งมั่นมีความตั้งใจ จะเห็นว่าพรรครวมพลังประชาชาติไทย (รปช.) ของเรากำหนดนโยบาย และเอามาบอกกับพี่น้อง 2 เรื่อง 1.เรื่องการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศ ตามเจตนารมณ์ของมวลมหาประชาชนมวลมหาประชาชนของเรานี้ นอนกลางดินกินกลางถนน ต่อสู้เพื่อชาติ เพื่อแผ่นดิน ปี 2556 - 2557 รวม 204 วัน เจ็บไป 900 กว่าคน ตาย 24 คน ตลอดเวลานั้นเราได้สรุปความคิดว่า ปล่อยประเทศไว้แบบนี้ไม่ได้ ประเทศนี้จะต้องเปลี่ยนแปลง จะต้องปฏิรูปกฎเกณฑ์ กติกา รูปแบบที่มันล้าหลังต้องยกเลิก หรือทำใหม่ ทำให้ดี เรื่องที่ประชาชนตอนนั้นตกลงใจกันว่า จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปคือเรื่องการเมือง การเมืองคือตัวสำคัญที่สุด การเมืองต้องเป็นการเมืองของประชาชน เพื่อประชาชน ต้องเป็นการเมืองที่ดี แต่ที่แล้วมา การเมืองมันเลว มันเป็นการเมืองที่ทำเพื่อผลประโยชน์ของคนตระกูลใดตระกูลหนึ่ง ครอบครัวใดครอบครัวหนึ่ง เป็นประโยชน์ของนักการเมือง ไม่ใช่การเมือง ที่ทำเพื่อประโยชน์เพื่อประชาชนจริงๆ นี่คือประเด็นเรื่องสำคัญ
"การเมืองที่ไม่ดี มันทำทุกอย่างเพื่อให้ได้ชัยชนะ ทุจริตก็เอา โกงก็เอา สื่อก็เอา ไม่มีคุณธรรม ไม่มีความชอบธรรม แล้วมาอ้างว่านั่นคือประชาธิปไตย มาอ้างว่านี่คือรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง มันจะมีความหมายอะไรกับประชาธิปไตยปลอมๆ มันไม่ใช่ประชาธิปไตยจริงๆ และในที่สุดก็เหมือนที่เราเห็น เขาลงทุนเป็นหมื่นๆ ล้าน เพื่อเอาชนะการเลือกตั้ง ซื้อเสียง 500 , 1,000 , 1,500 , 2,000 ได้คะแนนเสียงข้างมากจัดตั้งรัฐบาล ตั้งหน้าตาทุจริตกันอย่างเดียว เราถึงได้ยินคำว่า โคตรโกง โกงกันทั้งโคตร เราจะเห็นว่าเขาโกงกันที่เป็นแสนๆ ล้าน ตัวอย่างที่เราเห็นคือโครงการรับจำนำข้าว ทำประเทศเสียหายไป 5 - 6 แสนล้านบาท แบบนี้ปล่อยไม่ได้ การเมืองเป็นแบบนี้ไม่ได้" นายสุเทพ กล่าว
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า วันนี้ที่เราตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย เพราะต้องการปฏิรูปการเมือง การเมืองที่ดี จะดีขึ้นได้ ต้องเป็นการเมืองของประชาชน ต้องทำพรรคการเมืองให้เป็นพรรคการเมืองของประชาชนก่อน ต้องทำให้นักการเมืองมีจิตสำนึกก่อนว่าเป็นนักการเมือง เพื่อรับใช้ประชาชน ที่เราเห็นส่วนใหญ่พอได้เป็น ส.ส.แล้วก็เป็นรัฐมนตรี พอเป็นรัฐมนตรีก็อยากเป็นนายกฯ นั่นคือตัณหาของเขา ไม่ใช่เรื่องของประชาชนเลย การเมืองในประเทศไทยจึงเป็นการเมืองของกลุ่มผลประโยชน์ กลุ่มทุน หรือไม่ก็เป็นการเมืองของพวกนักการเมือง พวกเขาจะเห็นประชาชนเวลาเดียวคือ เวลามาหาเสียงเลือกตั้ง คิดวาทกรรมกันสวยหรูใหญ่โต แต่พอเป็น ส.ส.แล้วทำแต่เรื่องของตัวเอง ไม่สนใจประชาชน
นายสุเทพ กล่าวด้วยว่า ถ้าเป็นรัฐบาลคราวนี้พรรคนี้ได้เป็นรัฐบาลแน่นอน ตนเชื่อแบบนี้ เราจะขอไปดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงศึกษาธิการ ในกระทรวงศึกษาธิการเราจะปฏิรูปเปลี่ยนแปลงการบริหารจัดการให้เด็ก 80% ไปเรียนอาชีวะ เพื่อให้มีอาชีพที่รู้จริงทำมาหากินได้ เรียนอาชีวะจนจบโดยไม่ต้องเสียเงิน ประชาชนต้องเรียนฟรีจนจบอาชีวะ ส่วนในเรื่องของเกษตร จะทำเรื่องราคายางพารา มีการคิดต้นทุนออกมาราคาเท่าไรแล้วจะต้องขายเท่าไร จะทำให้เกษตรกรขายยางพาราได้ที่กิโลกรัมละ 80 บาท จากต้นทุนประมาณ 40 บาท ชาวนาก็เช่นกัน วันนี้ต้องมาดูว่าต้นทุนข้าวนาปีเท่าไรถ้าต้นทุนอยู่ที่ 6,000 บาท ก็จะต้องขายที่ราคา 12,000 บาท ปาล์มน้ำมันต้นทุนกิโลกรัมละ 2.50 บาท ก็ควรจะขายได้กิโลกรัมละ 5 บาท รัฐบาลจะต้องประกาศราคาเป้าหมาย ที่เกษตรกรสามารถขายได้ เพราะรัฐบาลมีกฎหมาย มีงบประมาณ รัฐบาลมีมาตรการ มีอำนาจ และที่ตนคิดไว้แล้วคือ จะต้องทำราคายางให้ได้ที่กิโลกรัมละ 80 บาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี