14 ก.พ.62 นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ผู้ร่วมก่อตั้งพรรครวมพลังประชาชาติไทย(รปช.) โพสต์ผ่านเฟชบุ๊ก Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ) โดยยอมรับว่า หลังจากอ่านบทสนทนาเปิดใจที่นายสำราญ รอดเพชร ผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่ออันดับที่ 19 ในฐานะอดีตแกนนำพธม.รุ่นที่ 2 หลังได้เข้าเยี่ยม ดร.สุริยะใส กตะศิลา จากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร ซึ่งได้ฝากความในใจมาด้วย
" ผมอ่านแล้วต้องแอบปาดน้ำตา...พูดไม่ออกครับ"นายสุเทพ ระบุในช่วงท้าย
สำหรับบทสนทนาเปิดใจที่นายสำราญ รอดเพชร โพสต์ลงในเฟชบุ๊ก Samran Rodpetch เรื่อง"ความในใจของดร.ยะใส..." โดยระบุว่า
“เมื่อวาน(13กมุภาพันธ์) ตอนสาย เมื่อทราบข่าวศาลฎีกาตัดสินยืนตามศาลอุทธรณ์ จำคุก 6 แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย(พธม.)คนละ 8 เดือน แม้จะช็อคเล็กๆ แต่ก็ไม่ถึงกับน้ำตาไหล ได้แต่มึนๆ ไม่มีกะจิตกะใจจะพูดกับใครไปพักใหญ่
แต่วันนี้ 14 ก.พ.วันแห่งความรัก....ไปเยี่ยม พี่สมศักดิ์ โกศัยสุข พี่พิภพ ธงชัยและดร.สุริยะใส กตะศิลา น้องเลิฟ ในที่ก็สุดก็กลั่นน้ำตาไว้ไม่อยู่...
คณะที่เข้าเยี่ยมนำทีมโดยทนายมิ้นท์ของเรา ,พี่ติ๊ก มาลีรัตน์ แก้วก่า,คุณนัสเซอร์ ยี่หมะ ศิษย์เก่าของเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร และเพื่อนพ้องน้องพี่อีกหลายคน...
ภาคเช้าที่เข้าเยี่ยมทางเรือนจำประหยัดเวลา เบิกตัวทั้ง3แกนนำมาให้พวกเรา สลับกันพูดคุยภายใต้เวลาที่กำหนด ผมได้คุยกับทั้ง3ท่านด้วยเวลาตามสมควร แต่กับดร.ยะใสคุยกันยาวหน่อย...
ทั้ง3แกนนำ แม้จะมีปัญหาสุขภาพต่างกันไป แต่ก็ยังไม่ถึงขั้นวิกฤติหรือหนักหนาสาหัสมากนัก ทั้งหมดบอกว่าสามารถปรับตัวที่แดนแรกรับนี้ไม่ยาก วันข้างหน้าว่ากันอีกทีว่าใครจะไปอยู่แดนไหน..
โดยมิได้นัดหมาย ทุกท่าน ฝากขอบคุณพี่น้องพันธมิตรฯ พี่น้องมวลมหาประชาชน ที่ให้กำลังใจในรูปแบบต่างๆ กันอย่างท่วมท้น และขอให้เคารพคำตัดตัดสินของศาลไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่ก็ตาม...พี่พิภพบอกว่าจากนี้ไปหากไม่มีใครเลวเกินจินตนาการจริงๆ คงไม่มีใครกล้ามาพูดว่า..สองมาตรฐานอีก
กับดร.ยะใส ผมคุยหลายนาที นอกเหนือจากฝากขอบคุณ”ลุงกำนัน”ที่ห่วงใย แล้วด้วยเหตุที่ดร.ยะใสที่มีภาระหน้าที่การงานหลายอย่าง และในฐานะผู้สมัครบัญชีรายชือลำดับที 7 ของพรรครวมพลังประชาชาติไทย ได้ฝากฝังการงานให้ผมและพรรคพิจารณาหลายประการ....แต่ที่สำคัญยิ่งคือ
“พี่ราญผมฝากขอโทษพวกเรารปช.ทุกคน ขออภัยพี่น้องประชาชนที่ผมไม่สามารถอยู่ช่วยสร้างพรรคการเมืองของประชาชนให้จบการเลือกตั้งนี้ได้ ผมเสียใจ เสียดายจริงๆครับพี่...”
สารภาพครับ ดร.ยะใสพูดด้วยเสียงสั่นเครือไม่ทันจบผมต้องแอบเช็ดน้ำตาให้ตัวเอง อยากจะเอื้อมมือไปจับแล้วบอกว่า ไม่ได้เป็นความผิดของน้องแม้แต่นิด ใยต้องมาขอโทษ
“ฝากพี่ราญบอกพ่อแม่พี่น้อง บอกพวกเรา ช่วยกันสร้างก้าวเดินก้าวแรกของเรา พรรคของประชาชนให้ได้” อีกตอนหนึ่งที่ทำให้ผมน้ำตาซึม และแอบถามตัวเองว่าถ้าผมอยู่ในชุดนักโทษ ติดโทษแบนทางการเมืองถึงสิบปีอย่างน้อง ยังจะมีกะจิตกะใจพูดแบบนี้ได้ไหม?
เมื่อค่ำวันที่ 12 ก.พ.คืนก่อนตัดสินคดี ผม พร้อมพลโทนันทเดช เมฆสวัสดิ์และดร.จักษ์ พันธ์ชูเพชร กก.บริหารพรรครปช.ได้ล้อมวงกินข้าวกับดร.ยะใส ค่ำนั้นผมไม่คิดว่าน้องชายของผมจะเข้มแข็งแกร่งกล้าเหมือนที่ผมได้ยินในวันนี้.....
ลืมไปว่า แท้จริงแล้ว ผมไม่น่างวยงงอะไร เพราะนับจากปี 2549 ถึง 2557 เราสองคนและพี่น้องพันธมิตรฯพี่น้องมวลมหาประชาชนได้กอดคอร่วมกันต่อสู้กับระบอบทุนสามานย์ ระบอบทักษิณ ระบบเผด็จการรัฐสภาเสียงข้างมากมาด้วยกัน3รอบใหญ่ๆ
ช่วงท้ายๆแม้ดร.ยะใสจะยืนยันในคำกล่าวที่ว่า..”ตำแหน่งจะอยู่กับเราไม่นาน แต่ตำนานจะอยู่กับเราตลอดไป” ก็ตาม แต่เขาก็ไม่ลืมที่จะบอกว่าทุกการต่อสู้ต้องอยู่กับความเป็นจริง แล้วก้าวเดินไปข้างหน้า...เขามั่นใจว่าที่สุดแล้วข้อจำกัดทางกฎหมายไม่ใช่พันธนาการใดๆ ขอเพียงมีใจที่ยืนหยัดการต่อสู้เพื่อความถูกต้องดีงาม ร่วมกันเดินหน้าปฏิรูปประเทศไทย ปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์ ให้มั่นคง
ดร.ยะใส ยืนยันว่า อีกไม่นานจะออกมาร่วมต่อสู้กับพ่อแม่พี่น้องเหมือนเดิม ครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี