16 ก.พ.62 ร.ท.หญิง สุณิสา ทิวากรดำรง(เลิศภควัตร) รองโฆษกพรรคเพื่อไทย และผู้สมัครส.ส.กทม.เบอร์ 6 เขตลาดพร้าวและวังทองหลาง โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก“หมวดเจี๊ยบ Sunisa Divakorndamrong”ภายหลังพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคสช.ลงพื้นที่ ตลาดนัดจตุจักร โดยระบุว่า
“พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่ามาอ้างเลยว่าที่ไปลงพื้นที่ตลาดนัดจตุจักรวันนี้ ไม่ใช่เรื่องการเมือง เพราะดูยังไงมันก็คือการไปเดินหาเสียงชัดๆ
การที่กรุงเทพมหานคร นัดพ่อค้าแม่ค้ามาทำสัญญาเช่าแผงขายของ ในราคาต่ำกว่าเดิมเดือนละ 1,000 กว่าบาท โดยให้พ่อค้าแม่ค้าเซ็นต์สัญญาเช่าต่อหน้า พล.อ.ประยุทธ์ ทำแบบนี้เหมือนจะยกเครดิตให้แคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐหรือเปล่า เพราะผู้บริหารระดับสูงของกรุงเทพมหานครก็เป็นผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐเต็มไปหมด
นี่พวกท่านกำลังจะบอกพ่อค้าแม่ค้าเป็นนัยๆว่า เหตุที่แผงขายของในตลาดจตุจักรราคาถูกลงเป็นเพราะฝีมือแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐอย่างนั้นหรือ
ทั้งยังน่าสงสัยว่า นี่เป็นทฤษฎีการสมคบคิดวางแผนหาเสียงล่วงหน้าโดยการใช้นโยบายประชานิยมเพื่อซื้อเสียงหรือไม่
เพราะก่อนหน้านี้ รัฐบาลอยู่เฉยๆ มาเกือบ 5 ปี ก็ไม่เคยคิดจะลงมือทำอะไร แต่พอรู้ตัวว่าอีก 2-3 เดือนจะมีการเลือกตั้งก็รีบเร่งรัดออก มติค.ร.ม. สั่งการให้การรถไฟแห่งประเทศไทยรีบโอนความรับผิดชอบในการบริหารตลาดนัดจตุจักรไปให้กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นองค์กรที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐนั่งเป็นใหญ่ในฐานะผู้บริหารอยู่เต็มไปหมด
จากนั้น ก็รีบลดราคาค่าเช่าแผงในตลาดก่อนจะเลือกตั้งไม่กี่วัน และเมื่อถึงวันเซ็นต์สัญญา ก็เชิญแคนดิเดตนายกฯ ของพรรคพลังประชารัฐ มานั่งชูคอรับความดีความชอบเหมือนเป็นผลงานชิ้นโบว์แดง ซึ่งเป็นการรับลูกกันเป็นทอดๆแบบนี้เท่ากับใช้อำนาจรัฐเอื้อประโยชน์ในการหาเสียง ซึ่งถือเป็นการโกงเลือกตั้งอย่างหนึ่ง
ดังนั้น ก็เลิกทำเป็นสั่งสอนเด็กได้แล้วว่าโตไปไม่โกง เพราะอาจโดนเด็กย้อนว่า “นี่ก็แก่จนจะเข้าโลงแล้วยังไม่เลิกโกงอีกเหรอ”
ที่สำคัญ พล.อ.ประยุทธ์ ก็พูดออกไมโครโฟนอย่างชัดเจนทำนองว่า พ่อค้าแม่ค้าคงจะดีใจที่ค่าใช้จ่ายถูกลง แถมยังสัญญากับพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดนัดจตุจักรว่า จะทำให้มีลูกค้ามาเดินที่ตลาดวันละ 3 แสนคน ทั้ง ๆ ที่การพูดหาเสียงแบบนี้เข้าข่ายการสัญญาว่าจะให้ประโยชน์ ซึ่งผิดกฎหมายเลือกตั้ง
และในอดีตเคยมีผู้สมัครส.ส. ถูกจับแพ้ฟาล์วเพราะพูดสัญญาว่าจะให้ในลักษณะนี้มาแล้ว แต่พอเป็นพล.อ.ประยุทธ์ซึ่งกำลังใหญ่โตคับบ้านคับเมือง ก็ไม่ทราบว่าจะมีใครกล้าตรวจสอบไหม เพราะหน่วยงานที่มีหน้าที่ต้องตรวจสอบก็ล้วนแต่เป็นลูกน้องพล.อ.ประยุทธ์ทั้งนั้น เนื่องจากได้รับการแต่งตั้งโดย คสช. กันทุกคนตั้งแต่หัวขบวนยันท้ายขบวน
ทั้งนี้หากคนไทยปล่อยให้ผู้มีอำนาจฮั้วกันได้ นานๆไป ก็ระวังจะเกิดการกินรวบประเทศไทย หรือการฮั้วอำนาจกันระหว่างผู้มีอำนาจ นายทุน และคนมีปืน
เมื่อสบโอกาสคนเหล่านี้ ก็จะยึดกุมอำนาจของประเทศในทุกเสาหลักแบบเบ็ดเสร็จโดยไม่จำเป็นต้องฟังเสียงใครเพราะมีอำนาจล้นฟ้า กลายเป็นวงจรอุบาทว์ทำให้บ้านเมืองตกต่ำและจะเกิดหายนะทางเศรษฐกิจจนประเทศหมดสิ้นอนาคต แล้วลูกหลานคนไทยในวันข้างหน้าจะมีชีวิตอยู่ในสภาพไหนก็ลองนึกภาพดู
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี