“เจาะสนามเลือกตั้ง” ประจำฉบับวันที่ 18 ก.พ. 2562 จะเป็นการส่งท้ายอีก 4 เขตที่เหลือของ จังหวัดบุรีรัมย์ เริ่มตั้งแต่ “เขต 5” ประกอบด้วย อ.กระสัง อ.พลับพลาชัย อ.ห้วยราช และ อ.ประโคนชัย (เฉพาะตำบลไพศาล) เขตนี้มีผู้สมัคร 32 คน “เขต 5 บุรีรัมย์ เป็นเขตที่ฐานเสียงของตระกูลชิดชอบมีความเหนียวแน่นที่สุด” ครอบคลุมทั้งพื้นที่ ซึ่งหากไม่มีเหตุพลิกล็อกทางการเมืองแบบถล่มทลายก็คงไม่มีใครมาล้ม พรรคภูมิใจไทย ลงได้
ย้อนไปเมื่อการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (สส.) ในปี 2554 แชมป์เก่าเขต 5 บุรีรัมย์ คือ นายมนต์ไชย ชาติวัฒนศิริ จากพรรคภูมิใจไทย แต่การเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในวันที่ 24 มี.ค. 2562 พรรคภูมิใจไทยไม่ได้ส่ง นายมนต์ไชยลงสมัคร แต่ส่ง นายอดิพงษ์ ฐิติพิทยา อดีตนายกเทศมนตรีตำบลอุดมธรรม อ.กระสัง จ.บุรีรัมย์ ลงแทน ซึ่งนายอดิพงษ์นั้นเป็นนักการเมืองกลุ่มเดียวกับ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ น้องชายของ นายเนวิน ชิดชอบ อดีตแกนนำพรรคภูมิใจไทยที่หันไปเอาดีด้านธุรกิจกีฬา
ที่ผ่านมา นายอดิพงษ์ขยันลงพื้นที่พบปะประชาชนแบบเป็นประจำจนเป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน ทำให้มั่นใจได้ว่า “เขต 5 บุรีรัมย์ ภูมิใจไทยชนะนอนมาแน่ๆ” แม้จะมีคู่แข่งสำคัญจาก พรรคไทยรักษาชาติ (หากยังไม่ถูกยุบพรรคไปเสียก่อนจากกรณีการเสนอชื่อผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีจนทำให้ผู้สมัคร สส. ทั้งหมดถูกตัดสิทธิ์ไปด้วย) ที่ส่ง นายเสนาะ พรหมสวัสดิ์ รวมถึง นายสุประดิษฐ์ แสนทวีสุข ตัวแทนจาก พรรคพลังประชารัฐ ก็ตาม!!!
ไปต่อกันที่ “เขต 6” ประกอบด้วย อ.หนองกี่ อ.โนนสุวรรณ อ.นางรอง (ยกเว้นตำบลทรัพย์พระยา และตำบลชุมแสง) เขตนี้มีผู้สมัคร 34 คน เขตนี้ตัวเต็งคืออดีต สส. นายพรชัย ศรีสุริยันโยธิน แชมป์เก่าปี 2554 เป็นตัวยืนในสังกัด พรรคเพื่อไทย ต้องขับเคี่ยวกับคู่แข่งสำคัญที่ทางพรรคภูมิใจไทยส่งเข้าท้าชิง นายไตรเทพ งามกมล อดีตรองนายก อบจ.บุรีรัมย์ เป็นคู่แข่งคนสำคัญ
แม้คราวก่อนนายไตรเทพจะพ่ายแพ้ต่อนายพรชัย แต่การเลือกตั้งคราวนี้ ทางพรรคภูมิใจไทย หวังกวาด สส.บุรีรัมย์ ยกจังหวัด 8 คน ทำให้สนามเลือกตั้งเขตนี้เข้มข้นขึ้นมาทันที โดยนอกจาก 2 ตัวเต็งข้างต้นแล้ว เขต 6 บุรีรัมย์ ยังมีผู้สมัครคนอื่นๆ เช่น นายสากล ศรีวันทา จากพรรคเพื่อชาติ, นายพีรวัส พันธุ์สัมฤทธิ์ อดีต ส.อบจ.เขต อ.หนองกี่ จ.บุรีรัมย์ จากพรรคพลังประชารัฐ, นายภุชงค์ รุ่งโรจน์ จากพรรคประชาธิปัตย์ รวมถึง นายสุรศักดิ์ ชัยรัมย์ จากพรรคไทยรักษาชาติ
วัดกันปอนด์ต่อปอนด์ หากใครจะเข้าป้ายคงต้องทำการเมืองอย่างหนัก เนื่องจากเขตเลือกตั้งนี้แม้จะแบ่งใหม่ แต่ฐานนิยมส่วนตัวของนายพรชัยยังมีอยู่เกือบเต็มทั้งพื้นที่ ส่วนนายไตรเทพมีฐานเสียงเหนียวแน่นในเขตเทศบาลเมืองนางรอง อ.นางรอง แต่คู่แข่งอย่างนายสากลและนายพีรวัสก็ประมาทไม่ได้ เขตนี้โอกาสใครจะคว้าเก้าอี้ไปครองก็เป็นไปได้สูงหากแผ่วปลาย “เขต 6 บุรีรัมย์มี 2 ตัวเต็งกับ 2 ม้ามืด” ส่วนผู้สมัครคนอื่นๆ คอยสอดแทรก!!!
“เขต 7” ประกอบด้วย อ.บ้านกรวด กับ อ.ประโคนชัย (ยกเว้นตำบลไพศาล) เขตนี้มีผู้สมัคร 29 คน เขตนี้มีตัวยืนจากพรรคภูมิใจไทย นายจักรกฤษณ์ ทองศรี อดีต สส.บุรีรัมย์ เนื่องจากการเลือกตั้งหนนี้ เขต 9 บุรีรัมย์ ที่เคยได้รับชัยชนะในปี 2554 หายไป จึงต้องมาลงเขต 7 นายจักรกฤษณ์นั้นเป็นลูกชายของ นายเพิ่มพูน ทองศรี อดีต สว.บุรีรัมย์ และอดีต สส.บุรีรัมย์
อีกทั้งยังเป็นหลานชาย นายทรงศักดิ์ ทองศรี อดีต รมช.คมนาคม และรองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย แต่ต้องพบกับคู่แข่งสำคัญอย่าง นายวรณัฐ ศรีสุริยชัย อดีต สมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ที่คราวมานี้ลงในนามพรรคพลังประชารัฐ ขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ ส่ง นายภูมิสิทธิ์ มาประจง และพรรคไทยรักษาชาติ ส่ง นายสิโรจน์ บุญข่าย อดีต ผอ.โรงเรียนนิคมสร้างตนเอง 7 ต.บึงเจริญ อ.บ้านกรวด จ.บุรีรัมย์ หวังลึกๆ เป็นอีกทางเลือกหนึ่ง
“เขต 7 ขอให้จับตา 2 ตัวเต็ง” ฝ่ายหนึ่งคือนายจักรกฤษณ์ ทองศรี เป็นอดีต สส. ดีกรีปริญญาโทด้านรัฐศาสตร์ แถมยังใกล้ชิดกับขุมกำลัง “ชิดชอบ” อันเป็นตระกูลการเมืองใหญ่ใน จ.บุรีรัมย์ รวมถึงตระกูลทองศรีเองก็มีฐานเสียงแข็งแกร่งในพื้นที่ อ.ประโคนชัย กับอีกฝั่งคือ นายวรณัฐ ศรีสุริยชัย อดีตสมาชิกสภา อบจ.บุรีรัมย์ ที่ผ่านมาทำงานการเมืองจนได้ใจคนรากหญ้าในพื้นที่ อ.ประโคนชัย เมื่อบวกกับชื่อพรรคพลังประชารัฐที่กำลังมาแรงในปัจจุบัน แม้พรรคภูมิใจไทยจะได้เปรียบอยู่พอสมควรแต่ก็ไม่อาจประมาท!!!
สุดท้าย “เขต 8” ประกอบด้วย อ.ละหานทราย อ.ปะคำ อ.โนนดินแดง อ.เฉลิมพระเกียรติ และ อ.นางรอง (เฉพาะตำบลทรัพย์พระยา และตำบลชุมแสง) เขตนี้พรรคภูมิใจไทยส่งแชมป์เก่าเมื่อปี 2554 นายรุ่งโรจน์ ทองศรี ลงป้องกันพื้นที่อีกสมัย ต้องพบกับผู้ท้าชิงที่สำคัญ 3 คน ได้แก่ นายวิธันพัศ เฮงวาณิชย์ถิรธนา จากพรรคไทยรักษาชาติ, นายประชารัฐ กองพร อดีตนายกเทศบาลตำบลโคกมะม่วง อ.ปะคำ จ.บุรีรัมย์ มากับพรรคที่เข้ากับชื่อตนเองอย่างพรรคพลังประชารัฐ และ นายสันติ โรจน์สุกิจ สังกัดพรรคประชาธิปัตย์
“เขต 8 น่าจะแข่งกันสนุก เพราะมีผู้สมัครเด่นๆ ถึง 4 คน และแต่ละคนก็มีจุดแข็งไปคนละแบบ” โดย 2 ตัวเต็งหลักอย่างนายวิธันพัศ มีฐานเสียงเหนียวแน่นในพื้นที่ อ.ละหานทราย ส่วนนายรุ่งโรจน์นั้นได้รับแรงสนับสนุนจากกลุ่มการเมืองในท้องถิ่น ขณะที่นายประชารัฐกับนายสันติก็เป็นที่รู้จักในพื้นที่พอสมควร วิเคราะห์เบื้องต้นแล้วยกเครดิตให้นายวิธันพัศกับนายรุ่งโรจน์เป็นคู่ชิงดำ ส่วนนายประชารัฐและนายสันติเป็นตัวสอดแทรก ที่อาจกลายเป็นม้ามืดเบียดตัวเต็งทั้ง 2 คว้าเก้าอี้ สส. เขตนี้ไปครองก็เป็นได้ใครจะไปรู้!!!
โดยสรุปแล้ว “ถึงบุรีรัมย์จะได้ชื่อว่าเป็นถิ่นของพรรคภูมิใจไทย แต่ครั้งนี้อาจไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป” จากระบบเลือกตั้งแบบใหม่ที่วัดแพ้ชนะกันที่ สส. แบบแบ่งเขตเท่านั้น ไม่มีการเลือก สส. แบบบัญชีรายชื่อโดยตรงเหมือนครั้งก่อน ทำให้ทุกพรรคต้องคัดเลือกผู้สมัครแต่ละเขตอย่างพิถีพิถันเพื่อให้มั่นใจได้ว่ามีโอกาสชนะได้ที่นั่งในสภา ส่งผลให้พรรคภูมิใจไทยซึ่งเดิมก็มีคู่แข่งที่น่ากลัวอย่างพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว ยังต้องเจอกับผู้ท้าชิงอื่นๆ อย่างพรรคพลังประชารัฐ พรรคไทยรักษาชาติ และพรรคประชาธิปัตย์...เพิ่มความยากในการรักษาพื้นที่ขึ้นไปอีกระดับ!!!
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี