18 ก.พ.62 ร.ท.ปรีชาพล พงษ์พานิช หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารพรรค อาทิ นายฤภพ ชินวัตร รองหัวหน้าพรรค นายต้น ณ ระนอง นายวิม รุ่งวัฒนจินดา นายคณาพจน์ โจมฤทธิ์ รองเลขาธิการพรรค เดินทางมายังที่ทำการพรรค เพื่อประชุมพิจารณายกร่างคำชี้แจงแก้ข้อกล่าวหากรณียุบพรรค
โดยร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า หลังจากได้รับคำร้องจากศาลรัฐธรรมนูญเมื่อวันที่ 14 ก.พ.พรรคได้มอบหมายให้ฝ่ายกฎหมายรวบรวมข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานต่างๆ เพื่อชี้แจงแก้ข้อกล่าวหายุบพรรค ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญให้ความเมตตาโดยให้เวลามา 7 วัน ช่วง 3-4 วันที่ผ่านมาฝ่ายกฎหมายได้เตรียมการยกร่าง ซึ่งใกล้จะเรียบร้อยแล้ว และพยายามจะทำให้ทัน หลังจากนี้จะนำเข้าสู่การหารือและประชุมร่วมกันกับคณะกรรมการบริหารเพื่อหาข้อสรุป และเพื่อเป็นคำชี้แจงที่จะยื่นแก้ข้อกล่าวหาต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ทันตามกรอบเวลา
ถามว่า เตรียมพยานบุคคลและพยานหลักฐานไว้อย่างไรบ้าง ร.ท.ปรีชาพล กล่าวว่า คงต้องมีทั้งพยานบุคคลและพยานเอกสาร ซึ่งเราได้พูดคุยกับกรรมการบริหารพรรคชัดเจนว่า การดำเนินการในคดียุบพรรคนั้น เราจะชี้แจงและดำเนินการในชั้นศาลเท่านั้น จะไม่มีการนำเรื่องของการยุบพรรคมาพูดข้างนอก
“ไม่ว่า จะเป็นกระบวนการใต้ดินหรือบนดินก็ตามที่กดดันศาล พวกเราตรงไปตรงมา สิ่งที่เราทำก็ทำด้วยความบริสุทธิ์ใจ ด้วยความตั้งใจที่ดี ดังนั้น เราพร้อมและน้อมรับเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบและการพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พวกเราคุยกันชัดเจนว่า เราห่วงภาวะแทรกซ้อนที่จะเกิดขึ้น เพราะหลายฝ่ายอาจจะมีทั้งที่หวังดีและหวังไม่ดี เกรงว่า เรื่องนี้จะทำให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองได้ ดังนั้น จุดยืนของพรรคไทยรักษาชาติเราย้ำว่า เราจะดำเนินการในระบบเท่านั้น ไม่มีนอกระบบโดยเด็ดขาด” หัวหน้าพรรคไทยรักษาชาติ กล่าว
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี