19 ก.พ.62.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้รวบรวมผลการประกาศรับรองผู้สมัครส.ส.แบบแบ่งเขตที่มีการส่งสมัครรับเลือกตั้งระหว่างวันที่ 4-8 ก.พ. จากพรรคการเมืองทั้งสิ้น 81 พรรค จำนวน 11,181 คน ซึ่งผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งทั้ง 350 เขต ได้ตรวจสอบคุณสมบัติ และประกาศรายชื่อแล้วนำไปปิดประกาศไว้ ณ ที่เลือกตั้ง หรือบริเวณใกล้เคียงกับที่เลือกตั้ง ตั้งแต่วันที่ 15 ก.พ.ที่ผ่านมา
โดยเป็นการประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัครจำนวน10,792 คน. ไม่ประกาศรายชื่อ จำนวน 389 คน ใน55พรรคการเมือง โดยแยกเป็นผู้สมัครจากพรรคเพื่อนไทย 153 คน , มหาชน 20 คน, เศรษฐกิจใหม่ 16 คน,แทนคุณแผ่นดิน14 คน , ครูไทยเพื่อประชาชน 12 คน,ประชาชาติ 11 คน ,เพื่อแผ่นดิน 10 คน , เพื่อชาติ 10 คน , พลังท้องถิ่นไท9 คน, ประชาชนปฏิรูป 8 คน ,พลังปวงชนไทย 8 คน,พลังประชาธิปไตย 7 คน, ประชากรไทย 7 คน
เสรีรวมไทย 6 คน, รักษ์ผืนป่าประเทศไทย 6 คน,รวมพลังประชาชาติไทย 6 คน,พลังชาติไทย 5 คน ,ประชาภิวัฒน์ 5 คน ,ประชาไทย 5 คน,พลเมืองไทย 4 คน ,ประชาธรรมไทย 4 คน,พลังไทยสร้างชาติ 4 คน,ชาติพัฒนา 4 คน, ไทยรักธรรม 4 คน ,พลังไทยรักไทย 4 คน,ไทยศรีวิไลย์ 3 คน
พรรคพลังแรงงานไทย 3 คน ,ผึ้งหลวง 3 คน,พลังสังคม 3 คน, พรรคกลาง 2 คน , สยามพัฒนา 2 คน , ประชาธิปไตยใหม่ 2 คน, ภูมิใจไทย 2 คน ,ความหวังใหม่ 2 คน ,พลังประชารัฐ 2 คน , พลังธรรมใหม่ 2 คน,อนาคตใหม่ 2 คน,คนงานไทย 2 คน
ประชานิยม 1 คน,ถิ่นกาขาวชาววิไล 1 คน ,สังคมประชาธิปไตยไทย 1 คน, พลังครูไทย 1 คน, เพื่อธรรม 1 คน, เพื่อคนไทย 1 คน , ไทยรักษาชาติ 1 คน ,ประชาธิปัตย์ 1 คน ,พลังไทยรักชาติ 1 คน ,รักท้องถิ่นไทย 1 คน, พลังคนกีฬา 1 คน, พลังรัก 1 คน , ภราดรภาพ 1 คน,แผ่นดินธรรม 1 คน ,ภูมิพลังเกษตรกรไทย 1 คน ,ภาคีเครือข่ายไทย 1 คน ,พลังศรัทธา 1 คน
ส่วนการประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อที่77 พรรคการเมืองส่งสมัคร จำนวน2,917 คน โดยกกต. ประกาศรับรอง2,810 คน โดยไม่รับรอง 107 คน.ประกอบด้วย พรรคกรีน 3 คน ครูไทยเพื่อประชาชน 5 คน ชาติไทยพัฒนา 1 คน แทนคุณแผ่นดิน4 คน ไทยธรรม 1 คน ไทรักธรรม 1 คน ประชากรไทย 3 คน ประชาชนปฏิรูป2 คน ประชาชาติ 2 คน ประชาไทย 1 คน ประชาธรรมไทย 5 คน ประชานิยม 1 คน ประชาภิวัฒน์ 5 คน
พรรคผึ้งหลวง8 คน พลังชาติไทย1 คน พลังท้องถิ่นไท 5 คน พลังไทยรักไทย 2 คน พลังธรรมใหม่ 1 คน พลังประชาธิปไตย2 คน พลังปวงชนไทย 3 คน พลังสังคม 1 คน เพื่อชาติ 7 คน เพื่อแผ่นดิน 1 คน ภูมิใจไทย6 คน มหาชน 3 คน รวมพลังประชาชาติไทย 10 คน เศรษฐกิจใหม่ 9 คน สังคมประชาธิปไตยไทย 1 คน เสรีรวมไทย 2 คน อนาคตใหม่ 3 คน
ทั้งนี้ผู้สมัคร ส.ส.แบบแบ่งเขตและแบบบัญชีรายชื่อ ที่ถูกสำนักงาน กกต. ตัดสิทธิสมัคร สามารถยื่นคำร้องต่อศาลฎีกาภายในเวลา 7 วันนับจากวันประกาศ (15 ก.พ.) เพื่อขอให้วินิจฉัยสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง ตามมาตรา 49 และมาตรา 59 ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.
อย่างไรก็ตาม ก่อนวันที่15ก.พ.ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำเขตจะประกาศรับรองรายชื่อผู้สมัคร สำนักงานกกต.ได้มีหนังสือด่วนที่สุด แจ้งไปถึงผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดทั่วประเทศว่าในกรณีที่ไม่ปรากฎชื่อผู้สมัครในระบบฐานข้อมูลสมาชิกพรรคที่สำนักงานส่งรายชื่อไปจำนวน255คน
โดยให้ผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำเขตเลือกตั้งใช้ดุลยพินิจพิจารณาจากหลักฐาน3รายการที่ผู้สมัครนำมายื่นประกอบการสมัคร คือสำเนาใบสมัครเป็นสมาชิกพรรค สำเนาหลักฐานการชำระเงินค่าบำรุงพรรค สำเนาหลักฐานการลาออกจากสมาชิกพรรค การเมืองเดิม หากมีให้พิจารณารับสมัคร ทำให้ยอดผู้สมัครในส่วนนี้ไม่ถูกตัดสิทธิและได้รับการประกาศชื่อให้เป็นผู้สมัคร
ดังนั้น ผู้สมัครที่ถูกตัดสิทธิไม่ได้รับการประกาศรายชื่อทั้ง 389คนส่วนใหญ่จึงเป็นกรณีการเป็นสมาชิกซ้ำซ้อน สังกัดพรรคไม่ครบ90วัน พรรคไม่มีการตั้งสาขาหรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดในจังหวัดนั้นๆ และเข้าลักษณะต้องห้ามในการสมัครกรณีอื่น
ขณะเดียวกันพบว่าในกรุ๊ปไลน์ที่กกต.ตั้งขึ้นเพื่อไว้ติดต่อกับพรรคการเมือง ตัวแทนพรรคการเมืองได้สอบถามขอความชัดเจนว่า กรณีผู้สมัครไม่ได้รับการประกาศชื่อ กกต.จะคืนค่าสมัคร1หมื่นบาทให้หรือไม่ รวมทั้งหากที่สุดศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามที่กกต.ไม่ประกาศชื่อให้เป็นผู้สมัคร กกต.จะดำเนินคดีกับผู้สมัครและหัวหน้าพรรค ตามมาตรา151พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ที่ระบุว่าผู้ใดรู้อยู่แล้วว่า ตนไม่มีสิทธิสมัครรับเลือกตั้ง เนื่องจากขาดคุณสมบัติ หรือมีลักษณะต้องห้าม มิให้ใช้สิทธิสมัคร หรือ ทำหนังสือยินยอมให้พรรคการเมืองเสนอรายชื่อเพื่อสมัครรับเลือกตั้งแบบบัญชีรายชื่อ ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1 -10 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000 - 200,000 บาท และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง ของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปีหรือไม่และมีวิธีการไหนที่กกต.จะไม่ดำเนินการเอาผิดเนื่องจากบทลงโทษตามมาตรานี้รุนแรงมาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ชี้แจงเพียงประเด็นวค่าสสมัครจะไม่ได้รับคืนตามกฎหมายเท่านั้น
นอกจากนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับการลงทะเบียนขอใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้านอกเขตและนอกราชอาณาจักร นับตั้งแต่วันที่ 28 ม.ค.จนถึงเมื่อวันที่ 18 ก.พ.ที่ผ่านมา มียอดลงทะเบียนขอใช้สิทธินอกเขตเลือกตั้งทั่วประเทศ จำนวน 1,830,711 ราย ส่วนนอกราชอาณาจักรมีผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 94,543 ราย ใน 67 ประเทศ 94 สถานเอกอัครราชทูตและสถานกงสุลใหญ่ ซึ่งวันนี้เป็นวันที่เปิดให้ลงทะเบียนเป็นวันสุดท้าย โดยผู้ประสงค์ลงทะเบียนสามารถลงทะเบียนผ่านระบบอินเตอร์เน็ตของสำนักงาน กกต. https://election.bora.dopa.go.th/ectoutvote/ แอพพลิเคชั่นสมาร์ทโหวต (smart vote) ได้ถึงเวลา 24.00 น.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี