“อุตตม-สนธิรัตน์”ควง"สมศักดิ์-อนุชา"ลุยชัยนาท ชู 3 ลด 3 เพิ่ม ช่วยเกษตรกร ลั่นเกี่ยวข้าวปุ๊บรวยปั๊บรับ 7 หมื่นต่อครัวเรือน “สมศักดิ์”โวนโยบายพปชร.ไร้เทียมทาน ก่อนนั่งรถอีแต๊ก อีแต๋น สัมผัสชีวิตชาวนา
เมื่อวันที่ 21ก.พ.เวลา 15.30 น. ที่อ.เมือง จ.ชัยนาท พรรคพลังประชารัฐเปิดเวทีปราศรัยนโยบายข้าว “ข้าวได้ราคา ชาวนาได้เงินเพิ่ม” นำโดยนายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ประธานคณะกรรมการรณรงค์การหาเสียงเลือกตั้ง นายอนุชา นาคาศัย ประธานยุทธศาสตร์ภาคกลาง และผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาทเขต 1 นายมณเฑียร สงค์ประชา ผู้สมัคร ส.ส.ชัยนาท เขต 2 โดยมีตัวแทนกลุ่มชาวนาร่วมรับฟังและเสนอปัญหาหลายร้อยคน
นายอุตตม กล่าวปราศรัยว่า วันนี้เราอาสาตัวมาช่วยเกษตรกร ประเทศไทยกำลังเข้าสู่การเลือกตั้งครั้งสำคัญ ที่จะชี้ชะตาประเทศไทย เป็นการเลือกตั้งที่เราจะต้องเลือกอนาคต ที่ผ่านมาเราผ่านอะไรหลายๆอย่าง วันนี้บ้านเมืองสงบสุข แต่ปัญหาคือเรื่องปากท้อง ที่เรามาวันนี้คือเรื่องเกษตรโดยเฉพาะ เรื่องข้าว ชาวนาเป็นกระดูกสันหลังของประเทศไทยมาตลอด หากจะให้คนไทยอยู่ดีกินดีเราต้องแก้ปัญหาด้านการเกษตร ไม่ใช่แก้เฉพาะหน้าแต่ต้องยั่งยืน
วันนี้พรรคพลังประชารัฐเสนอว่าเรามาร่วมแก้ปัญหาให้ยั่งยืน ตรงจุด ครบวงจร เพราะเราต้องการให้คนไทยมีความสุข ดังนั้นต้องแก้จากฐานรากชุมชน ไม่ใช่พึ่งส่งออกแล้วเงินไหลเข้าประเทศ เรามองกลับว่า ฐานรากต้องแน่น แล้วมันจะเกื้อกูลระหว่างกัน ทั้งอุตสาหกรรม การผลิตและการส่งออก หากเกษตรไม่เข้มแข็งจะเอาอะไรไปส่งออก วันนี้ตนอยากคุยกับชาวนาเรื่องข้าวโดยเฉพาะว่ามีแนวทางอย่างไรให้ยั่งยืน โดยพรรคพลังประชารัฐมีนโยบายเกษตรยั่งยืน คือ 3 ลด 3 เพิ่ม คือ ลดต้นทุน ลดภาระหนี้และลดความเสี่ยงจากราคาตกต่ำ เพิ่มรายได้ เพิ่มช่องทางการทำการเกษตรและเพิ่มแนวทางหารายได้ที่กระจายและยั่งยืน อย่างไรก็ตามความคืบหน้าล่าสุดสนช.ที่กำลังพิจารณาพ.ร.บ.ข้าว เขาเลื่อนออกไปเพื่อรับฟังปัญหาจากชาวนาให้มากกว่านี้ แสดงว่าชาวนามีพลัง ที่เขาต้องฟังพวกรา
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า ตนเคยเป็นอดีต รมว.พาณิชย์ ทำเรื่องข้าวมาโดยตลอด ที่ผ่านมารัฐบาลนี้ทำให้ข้าวที่ภาคอีสานดีมาแล้ว ตนไปอีสานมาโดนชาวบ้านกอดจนตัวเปื่อยเพราะราคาข้าวดีมาก แต่ภาคกลางยังไม่ดีเท่า ทั้งนี้ที่ผ่านมาชาวนาเหมือนตัวประกันทางการเมือง แต่พรรค พปชร. จะไม่ทำเช่นนั้นเรามีวิธีการช่วยพี่น้องชาวนาให้ยั่งยืนคือต้องทำให้ชาวนาเข้มแข็งด้วยตัวเอง ทำให้ราคาข้าวดีด้วยกลไกตลาด ทั้งนี้นโยบายของพรรคจะเพิ่มค่าชดเชยค่าเกี่ยวข้าวจากเดิม 12 ไร่เป็น 20 ไร่ และเพิ่มจากไร่ละ 1,500 บาทเป็น 2,000 บาท เกี่ยวปุ้บรับเงินแล้ว 40,000 บาทต่อครัวเรือนและยังให้ค่าเก็บเพิ่มอีก 30,000 บาท รวมเป็น 70,000 บาท
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า พรรคจะต่อยอดจากนโยบายของรัฐบาลพล.อ.จันทร์โอชา ทำให้ขายข้าวได้ราคา 1.8 หมื่นบาทต่อตันขึ้นไป ยืนยันว่านโยบายของพรรค พปชร. จะช่วยให้ชาวนาลืมตาอ้าปากได้ ให้ได้สิทธิประโยชน์ในการจำนำยุ้งฉางตนเป็นนักการเมืองมา 26 ปี พรรคพลังประชารัฐมีนโยบายที่ดีที่สุด ถ้าทุกคนทำความเข้าใจพรรคไหนก็สู้เราไม่ได้ เพราะมีนโยบายที่เราสานต่อจากรัฐบาลปัจจุบัน ต่อยอดราคาข้าวและพืชผลการเกษตรให้ได้ราคาสูงที่สุด
นายอนุชา กล่าวว่า ชาวนาและเกษตรกรเป็นคนส่วนใหญ่ของประเทศ หากไม่ชาวนา ย่อมจะส่งผลต่อเศรษฐกิจของประเทศ ดังนั้นชาวนาจึงมีความสำคัญมาก หากข่วยเหลือชาวนา เศรษฐกิจของประเทศจะดีได้อย่างไร ตนจึงมุ่งช่วยเหลือชาวนาเป็นหลัก ให้ชาวนามีคุณภาพชีวิต ความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น เชื่อว่าพรรค พปชร.จะนำความเปลี่ยนแปลงมาสู่แผ่นดินไทยได้
หลังพบปะพูดคุยกับตัวแทนชาวนาแล้ว นายอุตตม นายสนธิรัตน์ นายสมศักดิ์ นายอนุชา และนายมณเฑียร พร้อมคณะ ได้ขึ้นรถอีแต๊ก อีแต๋น สัมผัสชีวิตชาวนาและ ชมบรรยากาศท้องทุ่ง ก่อนจะขึ้นเวทีปราศรัยใหญ่ ที่สนามกีฬาเขาพลอง จ.ชัยนาท
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี